ท่ามกลางกระแสเหอหนังคังคุไบในบ้านเรา (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเห่ออินชุดสาหรีเฉยๆ รึเปล่า) แต่ว่าหนังที่ดังระดับ Blockbuster ของอินเดียในช่วงที่ผ่านมาจริงๆ คือเรื่อง RRR ซึ่งประสบความสำเร็จถล่มทลายระดับกวาดรายได้ทั้งโลกไปประมาณ 150 ล้านเหรียญเหรียญสหรัฐครับ หนังเรื่องนี้เพิ่งเข้า Netflix เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง
ภาพประกอบจากเพจ RRR
RRR พาเราย้อนกลับไปปี 1920 ที่อินเดียยังเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอังกฤษอยู่ ผู้ว่าการ Scott Buxton กับภรรยาจอมกดขี่ใช้กำลังจับเด็กหญิงที่ถูกใจจากเผ่า Gondi มาอยู่ที่เมือง Delhi ทำให้ Bheem (ภีม) นักรบประจำเผ่าและพรรคพวกต้องมาที่ Dehli เพื่อพาเธอกลับไปครับ ทางผู้ว่าการกับเมียเลยตั้งค่าหัวเจ้าภีมนี้และมีเจ้าหน้าที่ Ram Raju (ราม ราจู) คนเดียวที่กล้าอาสารับภารกิจนี้ครับ เรื่องราวทั้งหลายคงเป็นการไล่ล่าแนวแมวจับหนูธรรมดาถ้าบังเอิญภีมกับรามดันกลายมาเป็นเพื่อนรักกันซะงั้น
ผมดูหนังเรื่องนี้หลังจากดู Everything Everywhere All at Once ขอบอกเลยว่า “แม่งกาวพอกัน” คือบันเทิงฉิบหาย แม่งบ้าสัดๆ สนุก โคตรฮา มีครบทุกรส Action, Comedy, Bromance, ร้องเพลงเต้นรำ, CG อลังๆ, ส่งเสริมความรักชาติ แนะนำให้ถอดสมองดูเลย หลายอย่างแม่งไม่มีเหตุมีผลอะไร แต่เท่โคตรๆ สนุกสัดๆ เป็นหนังที่ดูแล้วร้องเหยดตลอด 3 ชั่วโมงเลย
ถึงจะบอกให้ถอดสมอง แต่ก็พอมีตัวละครที่มีมิติน่าสนใจอยู่บ้างเช่นรามที่ต้องเลือกระหว่างหน้าที่เพื่อการใหญ่หรือเพื่อนรัก ทางนึงอาจจะเพื่อส่วนรวมแต่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของเพื่อนร่วมชาติ อีกทางก็ตามหัวใจแต่ต้องแลกว่าการใหญ่จะเสีย ซึ่งนักแสดงอย่าง Ram Charan ก็แสดงบทที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งในใจนี่ดีครับ เล่นเอา N. T. Rama Rao Jr. ผู้รับบทภีมดูธรรมดาไปเลย (ก็เล่นดีแหละ แต่เทียบกับอีกคนและบทมันส่งกว่าเยอะ) จริงๆ ขยี้ตรงนี้ให้ดราม่าหนักๆ ไปเลยก็ได้นะ
อ้อ ในเพจต่างๆ ของไทยบอกว่าตัวละครภีมมาจาก ภีมะในมหากาพย์ภารตะ ส่วนตัวละครรามก็มาจากพระรามแห่งมหากาพย์รามายณะ ซึ่งในเรื่องก็มีฉากที่จงใจสื่อแบบนั้นจริงๆ (และแม่งกาว+เวอร์สัด บอกเลย) แต่ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกว่าทั้งคู่มาจากบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์คือ Komaram Bheem และ Alluri Sitarama Raju ซึ่งทั้งคู่นั้นเป็นผู้นำในการต่อสู่กับจักรวรรดิอังกฤษในยุคนั้นครับ
อีกอย่างที่ผมสังเกตุได้คือเรามักจะล้อหนัง/ละครอินเดียในเรื่องความเวอร์ ความฮาแบบไร้เหตุผลของมัน แต่ในขณะเดียวกันงาน Production บ้านเขาก็พัฒนาไปไกลมากเพื่อรับความเวอร์วังไปด้วยกันได้ คือฉาก Action, CG, ฉาก Slow อะไรพวกนี้เขานำบ้านเราไปไกลโขเลยล่ะ
ภาพประกอบจากเพจ RRR
ถึงผมจะอวยว่าหนังแม่งดูบันเทิงแค่ไหนแต่มันก็มีข้อเสียที่น่าหงุดหงิดแหละ อย่างแรกคือจริงๆ หนังมันเป็นหนังภาษาเตลูกู (ภาษาที่พูดเป็นอันดับสองของอินเดีย) แต่ที่ Netflix เอามาฉายเป็นพากษ์ทับด้วยภาษาฮินดีครับ เสียงมันเลยไม่ตรงกับปากแบบดูออกโคตรชัด อีกอย่างคือหนังมันยาวไป ตั้ง 3 ชั่วโมงแน่ะ ทำให้ดูๆ หยุดๆ หลายหนเลยทั้งๆ ที่หนังมันสนุกนะ แต่มันยาวเกินไปสำหรับหนังแบบนี้จริงๆ (ในความคิดผม)
คำแนะนำของผมสำหรับเรื่องนี้คือ “ดูเถอะ หาเวลาว่างๆ 3 ชั่วโมง ถอดสมอง แล้วเสพความบันเทิงให้เต็มอิ่ม” ครับ หนังบ้าอะไรแม่งกาวฉิบหาย