Top Gun: Maverick

Top Gun: Maverick เป็นภาคต่อของหนัง Action ระดับตำนานอย่าง Top Gun ที่ทิ้งช่วงจากภาคแรกถึง 36 ปีเลย (แต่หน้าเฮีย Tom Cruise แทบไม่เปลี่ยน) จริงๆ หนังประกาศสร้างตั้งแต่ปี 2010 แล้วก็ประสบปัญหาในการสร้างจนสร้างเสร็จและตั้งใจจะฉายในปี 2019 แต่โดนเลื่อนอีกจนกระทั่งมาได้ฉายในปี 2022 นี่เองครับ ตัวหนังเองนั้นสร้างความกังขาตั้งแต่ประกาศจะสร้างแล้ว แต่ผลตอบรับดีมากๆ จนผมรีบไปดูตอนมันเข้าไทยปลายเดือนที่แล้วเลย


ภาพประกอบจากเพจ Top Gun

Top Gun: Maverick เล่าเรื่องราวของ Pete Mitchell (Maverick) ที่ 30 ปีผ่านไปพี่แกยังเป็นนักบินทหารเรือยศ Captain อยู่ (เทียบกับไทยคือร้อยเอกมั้ง) เขาได้รับมอบหมายให้กลับไป United States Navy Strike Fighter Tactics Instructor program (หรือชื่อย่อ TOPGUN) ในฐานะผู้ฝึกสอนเฉพาะกิจ ให้กับนักบินระดับหัวกะทิรุ่นใหม่สำหรับภารกิจสุดโหด ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นมี Lieutenant Bradley Bradshaw (Rooster) ผู้เป็นลูกชายของเพื่อนผู้ล่วงลับของเขาอย่าง Nick Bradshaw (Goose – ตายในภาคแรก) ด้วยครับ

ต้องออกตัวก่อนว่าผมทัน Top Gun แต่ไม่เคยดูในโรงนะ ตอนนั้นน่าจะดู Video VHS ไม่ก็ช่อง 7 โปรแกรมเพชรหนังพันล้าน (Big Cinema) แหละ จำได้ว่ามันดังในไทยมากกกกก มีเกม Famicom ที่โคตรดัง พวกพี่ชายเล่นกันทุกวัน (แต่ไม่ยอมให้ผมเล่น แง) เฮีย Tom ก็ดังมากๆ จากเรื่องนี้ หนังมันดังจนกระทั่งมีหนังล้อเลียนอย่าง Hot Shots! ออกมาเลย (อันนี้ก็ดู VHS มั้ง) ส่วนเนื้อเรื่องของภาคแรกก็จำได้ประมาณนึงเองครับ

แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ตกที่นั่งเดียวกับ The Matrix Resurrections ตั้งแต่ตอนมันประกาศจะสร้างแล้วว่า “จะทำออกมาทำไมวะ” ซึ่งเนื้อเรื่องของ Maverick จริงๆ มันก็แถประมาณนึงแหละ (คนบ้าอะไรประวัติเทพขนาดนี้ 30 ปีพี่ยังเป็นแค่ร้อยเอก)

แต่สิ่งที่ทำให้ Top Gun: Maverick ต่างจากหนังพวกนั้นคือมันสนุกมาก โคตรมัน เราลืมความแถของมันไปหมดเลย มันมีทุกอย่างที่เราคาดหวังจากหนัง Action Blockbuster ไม่ว่าจะเป็นฉากบินต่อสู้ สุดมัน, ฉากบินผาดโผนเท่ๆ, ตัวละครที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์, เนื้อเรื่องดราม่าที่โอเคเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องระหว่าง Maverick กับ Rooster หรือเรื่องการปล่อยวางและส่งต่อให้กับคนรุ่นใหม่, พระเอกหล่อ (มากกก), นางเอกสวยวัวตายควายล้ม คือเรื่องเดียวครบทุกรสเลย แถมถ้าใครเป็นแฟนตั้งแต่ภาคแรก (ต้องแก่ประมาณนึง) จะพบว่ามีฉากที่ชวนให้นึกถึงภาคแรกเพียบ เรียกได้ว่ายิ้มออกตั้งแต่ฉากแรกเลยล่ะครับ แถมยังตั้งใจใส่เข้ามาแบบเนียนๆ ไม่ได้จงใจ copy ฉากต่อฉากแบบพวก Star Wars: The Force Awakens ด้วย


ภาพประกอบจากเพจ Top Gun

อีกจุดแข็งของเรื่องนี้คืองาน Production ที่ถ่ายทำฉากขับเครื่องบินรบจริงๆ มาเลยครับ ทั้งงานภาพและเสียงช่วยก็สร้างอารมณ์ร่วมกับนักบินในเรื่องได้อย่างสดี คือดูแล้วอิน เข้าใจถึงแรง G ลุ้นตัวโก่งกันทุกฉากเลย มันเป็นหนังที่ต้องดูในโรงเพื่อสัมผัสภาพและเสียงสุดอลังที่ทีมงานตั้งใจทำออกมาจริงๆ

แม้ว่าเนื้อเรื่องหรือบทจะมีจุดขัดใจ เฮียทอมก็โปรดเสน่ห์พร่ำเพรือเหลือเกิน ถ้าไม่เคยดูภาคแรก (หรือลืมไปแล้ว) มาก่อนจะงงๆ กับ plot ดราม่าหลักบ้าง แต่มันก็เป็นหนัง Action การบินที่ดูสนุก สุดมัน ให้ความบันเทิงแบบที่ไม่ได้ดูมานานแล้ว เป็น 2 ชั่วโมงในโรงหนังที่คุ้มค่าครับ


ภาพประกอบจากเพจ Top Gun

สรุปแล้วแนะนำว่าห้ามพลาด ดีจริง

ป.ล. ดูแล้วอยากได้นาฬิกา IWC Pilot Watch รุ่น Top Gun จริงๆ

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.