สะพายกล้องเที่ยวไต้หวันวันแรงงาน 2016 #3: บ๊ายบายไต้หวัน แล้วเจอกันใหม่

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ วันนี้พวกเราจะไปเที่ยวทะสาป Sun Moon Lake (日月潭) ที่เมือง Taichung (ไถ่จง – 臺中) เมืองนี้อยู่ไกลจากไทเปค่อนข้างมาก พวกเราเลยไปขึ้นรถไฟความเร็วสูงของไต้หวันที่ชื่อ HSR ไปกัน จาก Taipei Main Station ถึงเมืองไถ่จงในเวลา 40-50 นาที ไวมากกกก พอถึงสถานีไถ่จงที่อลังการงานสร้างยังกับสนามบินก็ลงไปชั้น B1 แล้วนั่งรถบัสต่อไปทะเลสาปครับ (ใช้เวลาเกือบชั่วโมง)


รถไฟฟ้าความเร็วสูงของไต้หวัน


เขาจะปล่อยเป็นรอบๆ ไม่ใช่ให้ไปรอออกันที่ชานชาลาครับ

ผมเคยมาทะเลสาป Sun Moon Lake นี่รอบนึงแล้ว มันเป็นทะเลสาปใหญ่ๆ ที่พวกเราต้องนั่งเรือท่องเที่ยวข้ามไปมาระหว่าง 3 ท่าเรือคือ Shuishe Peer (ท่าเรือที่รถจอด + จุดตั้งต้นเส้นทางจักรยาน), ท่าเรือ Xuangguang (วัดพระถังซัมจั๋ง) และท่าเรือ Ita Thao Peer ซึ่งเป็นท่าเรือสุดท้ายของ Boat Trip ในทะเลสาปครับ ที่ท่องเที่ยวเด่นๆ อย่าง กระเช้า Sun Moon Lake Ropeway ก็อยู่ฝั่งนี้ การเดินทางระหว่าง ท่าเรือ Shuishe – Ita Thao นั้นไปได้อีกทางคือรถบัสที่วิ่งเกือบวนรอบทะเลสาปครับ รอบนี้พวกเราก็ซื้อตั๋ว Boat Trip กันแล้วนั่งเรือเที่ยวมันสามท่าเรือนี่แหละ




ร้านค้าในย่าน Ita Thao Peer ครับ เป็นจุดเดียวที่มีร้านขายของชาวบ้านและร้านอาหารบ้านๆ (แต่ก็ดักนักท่องเที่ยวอยู่ดี)


กลับแล้วจ้า

จริงๆ Sun Moon Lake นี่ถ้าไม่ได้ค้างคืนเพื่อชมวิวสวยๆ, ไม่ได้ปั่นจักรยาน, ไม่ได้ขึ้น Ropeway มันก็ไม่ได้มีอะไรสักเท่าไหร่นอกจากชมวิวทะเลสาปหรอกครับ คือถ้าซื้อตั๋ว Boat Trip แล้วก็ล่อไปครึ่งวันจนไม่ได้ทำอย่างอื่นแล้วล่ะ พวกผมรีบกลับมาฝั่ง Shuishe Peer เพื่อที่จะให้ทันรถบัสรอบ 16.30 จะได้กลับไปทันรถไฟ HSR ขากลับแต่ว่าก็ไม่ทันซะได้เพราะคิวยาวจริงๆ สุดท้ายก็ต้องเหมา Taix กลับไป HSR Taichung โดยแชร์กับคนจีนที่จะรีบกลับเหมือนกันครับ (ที่ตลกคือตอนแรก Taxi มาเรียกผมตอนต่อคิวแล้วผมไล่มันไป สุดท้ายก็ต้องขึ้นคันมันซะงั้น) ที่ดีคือคืนตั๋วรถบัสขากลับได้ด้วย กลับไปถึงไทเปก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากเดินเล่นแถวๆ Ximending, Taipei Main Station นั่นแหละ


สถานีไถ่จง


Red House Theater ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์ย่าน Ximending ในอดีต + ร้านขายของเก๋ๆ + ผับ coolๆ


อันนี้เห็นเขาถ่ายอะไรกันสักอย่างอยู่


แถวนี้ห้างเยอะครับ อารมณ์มีเซ็นทรัลชิดลมอยู่เต็มไปหมด


การแสดง Street Art

วันรุ่งขึ้นพวกเรา Checkout โรงแรม Diary of Ximen Hotel II แล้วย้ายไปนอนที่ Holiday Fun Hotel แล้วก็ออกไป Taipei Fish Market (台北漁市) กัน วิธีการไปก็คือนั่งรถใต้ดินไปสถานี Xing Tian Temple แล้วก็เดินไปอีก 15 นาทีท่ามกลางอากาศร้อนโคตรๆ ของเมืองไทเปในวันนั้น

ตลาดปลา Taipei Fish Market นี่เป็นอาคารใหญ่ๆ สะอาดสะอ้านมากครับ (ดูสะอาดกว่าที่เกาหลีอีก) ข้างในติดแอร์ เดินสบาย โซนแรกที่ขายปลากันมีป้ายห้ามถ่ายรูปผมก็เลยไม่ได้ถ่ายมา เดินทะลุมาจะเป็นโซนขายอาหารล่ะครับ มีทั้งเป็นร้านๆ พร้อมที่นั่ง/เคาเตอร์ยืนและแบบที่ตลาดเขาแล่ใส่เป็นแพ็คๆ ไว้แล้ว เราก็หยิบแล้วต่อคิวซื้อแล้วเอามากินที่โต๊ะที่จัดไว้ข้างนอกกัน จะแบบไหนก็คิวยาวกันสามสี่ขดหมดล่ะ ปลาสดมาก ราคาถูก ได้เยอะจนผมกินไม่หมด (เสียดาย โฮ)


กุ้งสดๆ กับปูหิมะ


อันนี้กินไม่หมด ฮือออ

พอท้องอิ่มพวกเราก็แยกย้ายกันเที่ยวตามที่ตัวเองสนใจครับ ผมไปหาซื้อรองเท้าที่ Gongguan กับ ห้าง Sogo 2 สาขา (Zhongxiao กับ Fuxing) ที่ย่าน Zhongxiao Fuxing Station ผมพบว่าที่กงก่วนถูกกว่าแต่มีแต่ size เล็กก็เลยมาซื้อที่ Sogo แทน มี VAT Refund ด้วย พอ Shopping เสร็จก็ไปซื้อขนมของฝากที่ร้าน ChiaTe เป็นร้านที่มีพายใส้สัปปะรด, แอปเปิ้ลที่อร่อยมากกกก เป็นของฝากที่รับประกันว่าคนกินต้องชอบครับ คิวยาวสุดๆ เช่นกัน ร้านอยู่แถวๆ Nanjing Sanmin MRT station

ตอนกลางคืนผมกับเพื่อนไปกินชาบูหมาล่าที่ร้าน Mala ตรง Ximending ครับ ร้านนี้เป็นร้านชื่อดังคิวยาวตลอด พวกผมไปจองกันตอนสายๆ ได้คิวตอนดึกเลย แต่ของเขาดีและอร่อยจริง คนไทยเต็นร้านเลย ก็จบไปอีกวันสำหรับวันสบายๆ ในทริปครับ

วันถัดมาก็เป็นวันฟรีสไตล์เช่นกันครับ ใครอยากไปไหนก็ไป เช้านั้นผมไปชมภาพวาดสวยๆ ของ Jimmy Liao ที่สถานี Nangang ครับ สถานีนี้ประดับด้วยภาพสวยๆ ทั้งในส่วนชานชาลาและตัวสถานีเลย

เดินเล่นในสถานี Nangang สักพักก็ไป Sun Yat-sen Memorial Hall (國立國父紀念館) ต่อ แต่ช่วงที่ไปเขาปิดซ่อมอยู่พอดีครับ ให้เข้าชมได้แค่บางห้องกับ Main Hall เท่านั้น ซึ่งผมก็โชคดีที่ไปช่วงเปลี่ยนกะของการ์ดพอดี


มาทันตอนช่วงเปลี่ยนการ์ดพอดี

วันนั้นช่วงบ่ายๆ ผมไปเดินเล่นแถวๆ Taipei Main Station ต่อครับ ก็เดินห้างย่านนั้นซึ่งมีทั้งห้างหรูๆ และห้าง IT เดินหาของกินอะไรทำนองนี้ พอเย็นๆ ก็ไปย่าน Taipei City Hall เพราะกะจะดูน้อง S.White มือกลองสาวแว่นชื่อดังของไต้หวันแล้วไปเดินขึ้นเขาช้าง (Xiangshan – 象山) ครับ แต่จบที่ดูน้อง S.White ตีกลองซะเพลินจนฟ้ามืดก็เลยไม่ได้ไปขึ้นเขาซะงั้น จบที่เดินถ่ายรูปแถวๆ ย่านนั้นแล้วกลับไปหาอะไรกินที่ Taipei Main Station ก่อนจะกลับไปจัดของเตรียมกลับบ้านครับ ผมเขียน blog ตอนไปดูการแสดงของน้อง S.White ไว้นานแล้วที่ entry S. White มือกลองสาวแว่นที่โมเอะที่สุดในปฐพี!!! ครับ


ฝนตกซะงั้น


ด้านใน Taipei Main Station ครับ ใหญ่ประมาณ Central World มีทั้งร้านอาหาร, subway, รถไฟ และรถบัสอยู่ในที่เดียวกัน


ขนมอันนี้อร่อยมาก ผมต่อคิวนานมาก เสียดายกินไม่หมด

swhite_20160508_09
น้อง S.White ♥♥♥


Taipei 101

วันสุดท้ายก็ไม่มีอะไรมากครับ ตื่นแต่เช้ามืดแล้วนั่งรถ Taxi ที่ให้ Hostel นัดมาตรงดิ่งไปสนามบินเลย วันนั้นผมตื่นตั้งแต่ตี 4 เลยมีโอกาสออกมาเดินเล่นส่งท้ายไต้หวันยามเช้าด้วยครับ


Zzz…

ขากลับนั่ง Scoot กลับเช่นเคยครับ คนเยอะมากกกกก เครื่องก็ delay ส่วนตอนนั่งเครื่องกลับนี่ผมหลับยาวเลย ถึงดอนเมืองก็กระเป๋ามาช้ามากๆ แต่สุดท้ายก็กลับไปถึงบ้านโดยสวัสดิภาพครับ


คนเยอะอย่างนี้

ก็ขอจบทริปไต้หวันช่วงวันแรงงานที่ดองไว้ 2 ปีเท่านี้นะครับ ทริปนี้เสียดายที่นอนที่ไทเปทุกคืนเลยทำให้เที่ยว Sun Moon Lake และจิ่วเฟินไม่สะใจเท่าไหร่ (ได้แก้ตัวในตอนทริปปลายปีนั้นแล้ว) ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ไปตอนนั้นอากาศก็คล้ายๆ บ้านเราคือร้อนมากและฝนตกด้วย ถ้าใครจะไปช่วงเดือนนั้นก็ดูอากาศด้วยครับ

แล้วเจอกันใหม่กับ blog trip ไต้หวัน countdown 2017 (ซึ่งน่าจะมาหลัง blog Hong Kong 2016 มั้ง)

Link:
สรุปทริปไต้หวัน 2016
S. White มือกลองสาวแว่นที่โมเอะที่สุดในปฐพี!!!

One thought on “สะพายกล้องเที่ยวไต้หวันวันแรงงาน 2016 #3: บ๊ายบายไต้หวัน แล้วเจอกันใหม่

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.