สะพายกล้องพาที่บ้านเที่ยวสิงคโปร์ #3: บ๊ายบาย สิงคโปร์

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ ในที่สุดก็มาถึงตอนจบของทริปพาพ่อแม่เที่ยวสิงคโปร์ซักที เช้านั้นพวกเราตื่นมาเก็บของแล้ว checkout กะฝากกระเป๋าไว้แต่เช้าเลย แล้วก็ออกไปกินข้าวกันที่ Chinatown Complex Food Center กันครับ ร้านอาหารเยอะมากๆ คนก็เยอะมากๆ เช่นกัน


ร้านนี้คิวยาวแต่เช้า


หน้าตาแบบนี้ ไม่เหมือนเย็นตาโฟบ้านเราเลย

ผมกิน Yong Tau Foo ซึ่งก็คือต้นตำรับเย็นตาโฟบ้านเรานั่นแหละ แต่นอกจาก concept กับเต้าหู้แล้วไม่มีอะไรเหมือนบ้านเราเลยครับ เต้าหู้ก็ต้องต้องราดน้ำจิ้มเอาเองครับ เปรี้ยวๆ เผ็ดๆ แปลกดี เครื่องก็ไม่เหมือน อีกร้านที่ผมลองคือกาแฟ Kopi O ร้าน 1950’s Coffee ซึ่งเป็นร้านที่ได้รับการแนะนำโดย Michelin ในปี 2016 คิวยาวมาก กาแฟดีงามเข้มๆ หวานนิดๆ อร่อย (ปกติผมไม่กินกาแฟหวานนะ) แต่ขนมปังปิ้งเฉยๆ แฮะ


พนักงานร้าน 1950 ครับ รุ่นลายครามทั้งนั้น


กาแฟอร่อยๆ


มุมบังคับ Chinatown

กินเสร็จผมก็พาพ่อแม่ไป Fort Canning Park ครับ ก็ตั้งใจจะไปดูเจ้าอุโมงค์สวยๆ ที่เป็นแลนมาร์คใหม่ในการถ่ายรูปของสิงคโปร์น่ะ ถ้าไปตรงนั้นต้องลงสถานี Dhoby Ghaut แล้วเดินต่อนิดเดียว แต่ผมดันไปลงสถานี Fort Canning ซะงั้น ก็เลยพาพ่อแม่เดินใน Fort Canning ซึ่งเป็นภูเขา+สวนสาธารณะไปด้วยเลยครับ อากาศดี ลมดี วิวสวยมาก แต่จากตรงนั้นเดินไปเจ้าอุโมงค์สวยๆ นั่นโคตรลำบาก – -”


อุโมงค์ที่กำลังฮิต

เดินชมวิวกันจนเริ่มร้อนๆ พวกเราก็นั่งรถจาก Dhoby Ghaut ไปย่าน Bugis กัน ก็กะเดินห้างแอร์เย็นๆ พักเหนื่อยล่ะครับ แต่คนมันเยอะจนหนีไปชมย่านฮิปๆ อย่าง Haji Lane เลยดีกว่า


ไม่ได้กินร้านนี้หรอก (ฮาา)

Haji Lane เป็นซอยเล็กๆ ที่อยู่ในย่าน Arab Street และ Kampong Glam ซอยนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดของสิงคโปร์เพราะว่ารวมร้านขายของและอาหารแบบฮิปๆ ไว้ทั้งซอย ร้านค้าต่างๆ ก็จะทาสีร้านหรือ paint ลายสวยๆ มีของทำมือขาย มี hostel เรียกง่ายๆ ว่าเป็นตรอกข้าวสารแบบสะอาดๆ คูลๆ น่ะครับ วิธีการมาซอยนี้คือเดินมาจากสถานี Bugis Station ทางออก B ครับ เดินมาไม่ไกลแต่อากาศโคตรร้อนเพราะเดินติดถนนใหญ่ตลอดเลย ผมกับพ่อแม่ก็เดินถ่ายรูปกันสนุกเลย ไม่ได้ซื้ออะไรหรอกครับ แล้วก็รีบกลับมาที่ Bugis เพราะอากาศวันนั้นมันร้อนจริงๆ


วาดรูป


นักท่องเที่ยวเต็ม Haji Lane เลยครับ

พวกเรากินข้าวกันที่ฟู๊ดคอร์ท Bugis Junction ครับ ร้านเยอะ แต่คนก็เยอะตามจนหาโต๊ะแทบไม่ได้เลย กินเสร็จก็เดินเล่นและ Shopping กันใน Bugis Junction และ Bugis+ นั่นแหละ พอซื้อของกันได้ที่ต้องการครบก็กลับไปเก็บของและพักผ่อนที่โรงแรมเพื่อรอเวลาไปสนามบินกัน ระหว่างนี้ผมก็ออกไปเดินเล่นส่งท้ายใน Chinatown ก่อนกลับครับ ก็ลองเดินตามซอกตามมุมที่ไม่เข้าเดินมาก่อน ก็ไปเจอลานเวทีที่คนจีนแก่ๆ มาสังสรรค์กันครับ แล้วก็กลับไปถ่ายรูปที่โรงแรมแล้วนั่งรถใต้ดินไปสนามบินครับ


ก๊วนหมากรุก (เล็บตุ่ย?)

สำหรับโรงแรม Opera House Hotel นี้จริงๆ ก็สวยดีครับ (สร้างบนโรงงิ้วเก่า ดูขลังๆ ดีแต่ไม่น่ากลัวนะ) ทำเลก็ดี แต่ว่าความสะอาดนั้นมีปัญหาหน่อยเพราะผมเจอแมลงสาปตั้งแต่วันแรก ส่วนห้องพ่อแม่ผมก็เจอว่าคนทำความสะอาดแม่งเก็บแปรงสีฟัน, ยาสีฟัน, โฟมล้างหน้าพ่อแม่ผมไปทิ้งหมดเลย ส่วนสบู่ที่โรงแรมให้ก็กดไม่ออกอีก รอบหน้าคงกลับไปโรงแรม Bliss Hotel ที่เคยไปดีกว่า


โรงแรมสวยครับ แต่เข็ดแล้วจ้า

ขากลับผมนั่งรถไฟใต้ดินยาวๆ ไปสนามบินครับ ไปถึงตอนแรกว่าจะกินข้าวก่อนเข้า ตม. แต่ว่าคนเยอะมากๆ ร้านก็น้อย ก็เลยเข้าไปกินฟู๊ดคอร์ทด้านใน Terminal 3 กันครับ ร้านอาหารเยอะมาก อาหารก็หลากหลายแนว ไม่แพงและอร่อยด้วย ถ้าไปกันหลายคนก็ช่วยกันจองที่ได้ก่อนเพราะคนเยอะมากครับ สังเกตุว่าจะมีแต่คนเอเซียที่นั่งกินฟู๊ดคอร์ทกัน ส่วนฝรั่งจะไปต่อคิวแถว Burger King กันยืดยาวกันหมดเลย แปลกดี


Hello Terminal 3


เหมือนก๋วยเตี๋ยวหมูบ้านเราแหละ แต่อร่อยมาก


เนื้อสะเต๊ะ อร่อยๆ

ขากลับผมกับพ่อแม่ก็นั่ง Thai Lion Air กลับไทยเช่นเดิมครับ รอบนี้กลับที่ Terminal 3 ร้านค้า Duty Free น้อยเลยไม่ได้ shopping อะไรนัก ก็นั่งพักแล้วก็ขึ้นเครื่องกลับบ้านกัน รอบนี้ผมไม่พลาดเอาน้ำเข้า Security Gate ก่อนขึ้นเครื่องแล้ว เทน้ำออกเหลือแต่ขวดเปล่าเอาเข้าไป แล้วก็ไปเติมที่หลังเอา แล้วพวกเราก็นั่งเครื่องบินกลับสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ

ทริปนี้เป็นทริปพ่อแม่ลูกที่บ้านผมไม่ได้มีมานานมากครับ ได้พาพ่อแม่ไปเที่ยวประเทศที่เที่ยวง่ายๆ แบบสิงคโปร์ก็สบายไปอย่าง ทั้งสาธารณูปโภค, การเดินทาง, พวก Friendy Design สถานที่ต่างๆ เหมาะสมกับคนทุกวัย, ความปลอดภัยบ้านเขาดีมากๆ จนพาคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ไปเที่ยวได้สบาย ไม่ต้องเดินเยอะมากด้วย (แต่ร้อนนะ) ค่าครองชีพอาจจะสูงหน่อยแต่ก็สมกับเป็นประเทศที่พัฒนาที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ครับ คือเที่ยวง่าย ไม่ต้องวางแผนมาก เตรียมตัวกะเตรียมรองเท้าดีๆ ไปก็พอ ส่วนพ่อแม่ผมประทับใจมากที่มีที่เที่ยวมากขึ้นและสะดวกสบายขึ้นเยอะครับ


Goodbye Singapore

Link:
สรุปทริปพาที่บ้านเที่ยว Singapore 2018

One thought on “สะพายกล้องพาที่บ้านเที่ยวสิงคโปร์ #3: บ๊ายบาย สิงคโปร์

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.