เมื่อวันที่ 23 ถึง 25 มกราคมที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (จะเรียกพม่าละกัน) ไปแม่ผมมาครับ ก็ไปกับทัวร์กัน 2 คนเพราะว่าทริป 3 วันสองคืนนี้เน้นไหว้พระในเมืองย่างกุ้งและหงสาวดีแต่พ่อผมแกอยากไปเมืองพุกามกับมัณฑะเลย์มากกว่า
Tag: Trip
สะพายกล้องเที่ยวจีนตอนที่ 2: พาเที่ยวทุ่งหญ้าฮุ่ยเจ๋อ
ต่อจากตอนที่แล้ว พวกเราตื่นกันแต่เช้า ล้างหน้า แปรงฟันโดยไม่ได้อาบน้ำเพราะมันหนาวมากแถมยังเสียเวลารอน้ำอุ่นอีกต่างหาก มองจากหน้าต่างโรงแรมออกไปเห็นสวนสาธารณะแล้วมีเหรียญกลมใหญ่ๆ อยู่คร่อมสะพานพอดี ก็ดูแปลกดีครับ
เก็บของเสร็จก็ลงมา ลุงคนขับรถที่นัดแนะกันตั้งแต่เมื่อคืนมารออยู่แล้วพอดีก็ checkout แล้วขนของขึ้นรถแกเลย แกขับออกไปแล้วก็หันมาทำท่ากินข้าวแบบถามว่าจะกินข้าวไหมพวกเราก็บอกว่าโอเค แกก็ขับพาไปร้านบะหมี่ร้านนึง
วิธีสั่งก็ง่ายๆ ร้านมีเมนูเป็นรูปใหญ่ๆ แล้วมีรหัสบอกอยู่ เราก็เดินไปชี้ๆ จ่ายเงิน รับคิวแล้วก็มานั่งรอที่โต๊ะ บนโต๊ะมีเครื่องปรุงอยู่ ก็พวกกระเทียม เกลือ ผักโรย ที่เด็ดสุดคือมีผงชูรสให้ใส่เพิ่มด้วยครับ -*-
รอสักพักบะหมี่ก็ทะยอยมาครับ ผมสั่งบะหมี่เห็ด ตอนแรกนึกว่ามีแต่เส้นกับเห็ดแต่ปรากฏว่ามีหมูสับซ่อนอยู่ข้างล่าง ก็มันๆ เลี่ยนๆ เผ็ดๆ ผมกินเส้นกับหมูหมด แต่ซดน้ำหมดไม่ไหวแฮะ เลี่ยนเกิ๊น อุปกรณ์การกินเขาให้มาแต่ตะเกียบนะครับ พอผมหยิบเอาช้อนกินนมถั่วเหลืองมาตักน้ำซดเท่านั้นแหละ หันมามองกันทั้งร้านเลย…
กินเสร็จก็นั่งรถออกไปทุ่งหญ้าฮุ่ยเจ๋อ (Da Haichao Shan – หา link กับชื่อจีนไม่เจอจริงๆ ครับ) กันครับ มีวนไปสวนสาธารณะข้างๆ โรงแรมก่อนด้วยนิดนึง ก็นึกว่าแกจะจอดให้ลงไปดู แต่ที่ไหนได้แกขับเลยไปเลยแฮะ
บนรถลุงแก (ซึ่งรถเหมาในจีนรวมถึง taxi ด้วย) มี GPS เสร็จสรรพแถมแกยังเปิด vdo สอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กวนไปวนมาอีกต่างหาก ตอนนั้นก็เลยได้คำจีนหลายคำเลย (ซึ่งก็ลืมในวันถัดไป) จากเมืองฮุ่ยเจ๋อไปทุ่งหญ้าฮุ่ยเจ๋อไกลพอดูครับ ขึ้นเขาเกือบตลอดทางเลยแถมหมอกยังลงจัดอีก
แกขับรถยิงยาวไม่จอดแวะให้ถ่ายรูปเลยครับ (หรือเราไม่ได้บอกแกวะ) วิวข้างทางก็สวยมากๆ เป็นภูเขาอลังๆ สลับกับทุ่งนาขั้นบันได สักพักแกก็จอดแอบๆ ให้พวกเราจุดนึง พวกผมนี่ถ่ายรูปกันลืมตายเลย แม่งสวยจริงๆ

Continue reading “สะพายกล้องเที่ยวจีนตอนที่ 2: พาเที่ยวทุ่งหญ้าฮุ่ยเจ๋อ”
สะพายกล้องเที่ยวจีนตอนที่ 1
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมถึง 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ผม backpack ไปเที่ยวมณฑลยูนนานในประเทศจีนกับเพื่อนอีก 2 คนมาตั้ง 10 วันครับ (blog สรุปทริป) นี่เป็นการไปเที่ยวจีนครั้งแรกของผม จริงๆ พวกเราควรจะนั่งเครื่องหางแดงออกจากดอนเมืองตั้งแต่ 9 โมงเช้าแต่ปรากฏว่าแม่งเสือก delay อยู่ flight เดียว -*- กว่าจะได้บินก็ตั้ง 10 โมงกว่าๆ (อ้อ อุตสาห์ web checkin มายังต้องรอโหลดกระเป๋าตั้ง 30 กว่านาที)
บนเครื่องก็เงียบดีครับ คนจีนในเครื่องเงียบผิดปกติมากๆ ส่วนใหญ่ก็มีแต่คนไทยกับจีนนี่แหละเห็นฝรั่งไม่กี่คน นั่งไป 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงสนามบิน Kunming Changshui International Airport (昆明长水国际机场) ครับ
สนามบินเขาเป็นแนวยาว โล่งๆ แต่ก็อลังการงานสร้างมากๆ ครับ ในสนามบินมีป้ายเป็นภาษาอังกฤษชัดเจน ตม ก็ไม่ได้ช้าอะไร สิ่งที่ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปชัดเจนคืออากาศที่หนาวโคตรๆ พวกเราก็ควักเสื้อกันหนาวออกมาใส่แล้วก็ออกมาเรียก taxi ไปสถานีขนส่งสายเหนือ 北部汽车客运站 ครับ การสื่อสารกับ taxi ก็คือเพื่อนโหลด file แผนเที่ยวที่มีชื่อภาษาจีนเข้ามือถือแล้วก็ยื่นมือถือให้เขาดู ซึ่งต่อๆ ไปเราก็ใช้วิธีนี้ + google translate ภาษาอังกฤษ-จีน แบบ offline ที่ผมโหลดก่อนไปนั่นแหละ

สภาพภายใน Taxi ครับ จริงๆ มีมิเตอร์ด้วย แต่คนขับมันบอกราคามาไม่ต่างจากที่เขาว่าในเวบเท่าไหร่ก็เลยเอา
ระหว่างนั่ง Taxi มาก็รู้สึกว่าตัวเมืองคุนหมิงมันใหญ่โคตรๆ ถนนก็กว้างสุดๆ (วันหลังๆ กลับมาคุนหมิงก็ยังรู้สึกว่ามันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ นะ) ความห่างระหว่างตัวเมืองคุนหมิงกับสนามบินก็ประมาณสุวรรณภูมิบ้านเราน่ะครับ นั่งรถไปพักใหญ่ๆ taxi ก็มาจอดที่ท่ารถอะไรสักอย่าง พอเดินไปถามเขาก็ชี้ไปอีกทาง เดินงงไปสักพักก็บางอ้อว่า taxi มันพามาส่งท่ารถเมล์ที่อยู่ข้างๆ สถานีขนส่งนั่นเอง
พอเข้าสถานีขนส่งปุ๊บ พวกผมก็กรูกันไปที่ซื้อตั๋ว แน่นอนว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ จีนก็ไม่ได้ วิธีการก็คือเพื่อนผมเปิดมือถือมันที่มีชื่อเมืองฮุ่ยเจ๋อเป็นภาษาจีน (会泽县) ส่วนผมก็พิมพ์ภาษาอังกฤษว่า how much แล้วก็ให้ google แปลแล้วก็ยื่นให้เขาอ่านทั้งคู่ ตอนแรกเขาเขียนราคามาเป็นเลขจีน -*- แล้วพวกผมก็ช้ามากเพราะเขาตอบกลับมาไม่ได้ (คือเปิด keyboard Pinyin แล้วเขาพิมพ์ไม่เป็น) จนคนที่ต่อคิวต้องมาช่วยเขียนไอ้เลขจีนนั่นให้กลายเป็นเลขอาราบิค -*- แล้วระหว่างที่เดินงงๆ อยู่ก็มีคนที่ซื้อตั๋วตามหลังมาพาเดินหารถให้ ก่อนจะจากกันด้วยประโยคว่า “Welcome to Kunming”
ถึงรถก็รีบขึ้นเลยเพราะรถมันจะออกแล้วครับ ก็เป็นรถบัสใหญ่ๆ นี่แหละ แต่ด้วยอากาศหนาวมากเลยปิดแอร์+ปิดหน้าต่าง ข้างในรถเลยโคตรรรอึดอัดสำหรับผม จริงๆ ที่ตั๋วมีระบุที่นั่งไว้ด้วยแต่ก็ช่างมันเหอะครับ คนจีนแม่งนั่งกันแบบใครอยากนั่งตรงไหนก็นั่งนั่นแหละ















