สะพายกล้องเที่ยวทิพย์ยุโรป: ตอนที่ 9 เดินเล่นเที่ยว Paris

เรามาถึงวันที่ 8 ของทริปเที่ยวยุโรปในปี 2018 แล้วนะครับ (Entry วันที่ 8) จริงๆ วันนั้นตอนเช้าพวกผมไปเที่ยวพระราชวังแวร์ซาย (Château de Versailles) ส่วนช่วงบ่ายกลับมาเดินเที่ยวเรื่อยเปื่อยในเมือง Paris ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นตอนต่อของ entry พาชมพระราชวังแวร์ซายแบบทิพย์ๆ ครับ

ก่อนเริ่มขอแปะรูปตอนเช้าไว้หน่อย โรงแรม Generator Hostel คึกคักมาก ส่วนอาหารเช้าเป็นบุฟราคา 7.5 Euro แต่เห็นว่าบางห้องก็มีคูปองให้อยู่แล้วเหมือนกัน (แต่ห้องผมไม่มี – -“) ก็มีอาหารให้เลือกเยอะดี


แฮม ชีสให้กินแบบไม่อั้น


สภาพเมืองตอนเช้า

ข้ามมาตอนขากลับจากพระราชวังแวร์ซาย พวกเรานั่งรถไฟ RER C กลับ Paris ครับ รถไฟบ้านเขาอลังการจริงๆ


ตำรวจ Paris

ตอนแรกตั้งใจจะไปเดินร้านหนังสือ Shakespeare and Company ซึ่งเป็นร้านหนังสือเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1951 เลยครับ แต่มีกรุ๊ปทัวร์ (ที่หมายถึงนักท่องเที่ยว) มาลงที่ร้านก็เลยได้แต่ดูอยู่ด้านนอกแทน


ได้ดูแค่หน้าร้านนี่แหละ สวย ดูเก่าๆ ดี

เดินมองๆ ถ่ายรูปหน้าร้านแล้วก็ไปหาข้าวเที่ยงกัน (แบกท้องมาตั้งแต่แวร์ซายเลย) เลือกร้าน Cafe Le Dante ครับ อร่อย ได้เยอะสะใจมากๆ


Duck Confit อร่อยมากกกกก


กบทอด!!!

เติมพลังกันเรียบร้อยก็ไปอาสนวิหาร Notre-Dame de Paris (Notre-Dame Cathedral) กันครับ เป็นวิหารที่มีจุดให้ถ่ายรูปแบบเห็นเต็มๆ หลายมุมมาก แต่เสียดายที่วันนั้นฟ้าปิด แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำให้อาคารสถาปัตยกรรม French Gothic นี้สวยน้อยลงแต่อย่างใด

มหาวิหาร Notre-Dame นี้ถือเป็นหนึ่งใน Landmark เก่าแก่ของเมือง Paris ครับ สร้างตั้งแต่ปี 1163 โน่นเลย พอเข้ามาด้านคนก็เยอะไม่แพ้กันทั้งศาสนิกชนที่มาร่วมพิธีอะไรสักอย่างในวันนั้นและนักท่องเที่ยวครับ ซึ่งทางโบสถ์ก็แบ่งพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวกับคนที่มาสวดมนต์หรือทำบุญชัดเจนดี

ในโบสถ์มีป้ายบูชานักบุญที่เผยแพร่ศาสนาคริสต์ในจีนด้วยครับ แน่นอนว่าทัวร์จีนกระจุกกันอยู่ตรงนั้นแหละ

เดินถ่ายรูปต่อ ด้านในที่นี่สวย อลังการดี


Say cheese

อย่างที่บอกว่าวันนั้นทางโบสถ์มีพิธีจริงๆ พอพิธีเริ่มบรรดานักท่องเที่ยวก็ต้องเดินออกมาโซนด้านหน้าโบสถ์ครับ เพราะด้านในกันไว้ให้บาทหลวงใช้ทำพิธีนี่แหละ


ชอบเทียน สวย

เสียดายที่มหาวิหารนี้ถูกไฟใหม่ในปี 2019 ครับ หวังว่าจะได้รับการบูรณะจนกลับมาสวยเหมือนเดิมนะ ที่นี่สวยจริงๆ

ออกมาจากมหาวิหารแล้วพวกเราไปเดินเล่นพิพิธภัณฑ์ Louvre ยามเย็นกัน ไม่ได้กะเข้าไปชมวันนั้นหรอก (เพราะซื้อตั๋วล่วงหน้าอีก 2 วันไว้แล้ว) กะไปชมแสงไฟสวยๆ ยามเย็นเฉยๆ


เป็นมหานครที่แสงตอนเย็นสวยจริงๆ


Hôtel de Ville (Paris City Hall)


สถานีรถไฟใต้ดินที่ไป Louvre จัดแบบให้เห็นชัดๆ เลยว่าถึง Louvre แล้วนะ ชอบๆ

ตอนทีไปถึง Louvreฝนเพิ่งหยุดตกครับ แสงสวยมากกกกก อาคารสวยๆ + ไฟสีเหลืองๆ + ฟ้าน้ำเงินที่มันเข้ากันดีจริงๆ

แค่ดูข้างนอกอย่างเดียวก็ฟินล่ะ


Love


ยิ่งค่ำคนยิ่งเยอะ


แถวเข้า Louvre ยังยาวอยู่เลย

เดินดู ถ่ายรูปด้านนอกจนอิ่มก็เข้ามาดูด้านในชั้นใต้ดินต่อ (เป็นทางผ่านไปรถ Metro อยู่แล้ว) อลังการไม่แพ้กัน


ขาย Venus de Milo กันเกลื่อนเลย 555


ใครที่เคยอ่านนิยาย The Da Vinci Code ต้องมาถ่ายรูปตรงนี้

Pre-tour Louvre กันแล้วพวกเรานั่งรถไฟใต้ดินไปชมหอ Eiffle ยามค่ำคืนกันต่อ แม้กว่าจะไปถึงฟ้าจะมืดแล้ว แต่มันก็สวยงามไม่ต่างจากดูตอนกลางวันเลยครับ ที่สำคัญคือคนยิ่งเยอะกว่าเดิมอีก


ถึงแล้ว


มุมนี้ถ่ายมาหลายรูปมาก


อยากมีขาตั้งกล้องจริงๆ ยื่นถ่ายที่ speed 1/50 ก็ได้ประมาณนี้แหละ

มีนักแสดงเปิดหมวกอยู่ตรงนั้นด้วย ผมเห็นว่ามุมที่พี่แกยืนกับตัวหอสวยดีก็เลยถ่ายรูปมาประมาณนึงครับ


สุดท้ายชอบรูปนี้ที่แกโดนขโมยซีนซะงั้น

ตรงนั้นผมถ่ายรูปเยอะมากกกกจน SD card จะเต็ม (นับรวมตั้งแต่วันแรกนะ) ก็เลยนั่งรถ Metro กลับกัน แล้วไปหาอะไรกินที่ร้าน La Cantine Fabien ที่อยู่ใกล้ๆ Hostel ครับ ออกแนวคาเฟ่ประจำย่าน คนเยอะมากกกก เสียงดัง สนุก อาหารอร่อยด้วย บริการเป็นกันเองสุดๆ


รถสวยดี


Escargot (หอยทาก) เพิ่งเคยกิน อร่อย!!!

ก็ขอจบวันที่ 9 ของทริปแต่เพียงเท่านี้ครับ วันต่อๆ ไปก็ยังจะเป็น Day Trip ใน Paris นี่แหละ เมืองนี้มีอะไรให้เที่ยวได้ไม่หมดจริงๆ

Link:
สรุปทริป Netherlands, Belgium, France, Vietnam 2018

2 thoughts on “สะพายกล้องเที่ยวทิพย์ยุโรป: ตอนที่ 9 เดินเล่นเที่ยว Paris

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.