สะพายกล้องเที่ยวทิพย์ยุโรป: ตอนที่ 8 สวัสดี Paris

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ วันนั้นโปรแกรมหลักๆ คือนั่งรถไฟความเร็วสูง Thalys ข้ามประเทศไปเมือง Paris ประเทศฝรั่งเศสครับ

ช่วงเช้าๆ ยังพอมีเวลาอยู่ ผมเลยตื่นออกมาเดินเล่นในเมือง Bruges ส่งท้าย สิ่งแรกที่วิ่งไปหาคือ Hot Chololate ที่เพื่อนบอกว่ามาถึง Belgium แล้วห้ามพลาดเด็ดขาด ลอง Google ดูเร็วๆ แล้วก็เข้าร้าน Li O Lait


อร่อย


สั่งเบเกิลด้วย งั้นๆ แหละ

กินเสร็จก็กลับมาที่พักแล้วก็ไป Brugge railway station กันเพราะต้องไปต่อรถไฟ Thalys Brussels Central Station เมือง Brussels ครับ


ลากกระเป๋ามาไม่นานก็ถึงล่ะ

เทียบกับความอลังการของเมืองแล้ว Brugge railway station ดูธรรมดาๆ ไปหน่อยแฮะ แต่ด้านในก็โอ่โถง สะอาดดีครับ

นั่งรถไปชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึง Brussels Central Station สถานีอลังการโคตรๆ ป้ายเยอะยุบยับ ชานชาลาก็เพียบ สมกับเป็นสถานีหลักของเมืองหลวงจริงๆ


ป้ายชัดเจนดี


เดี๋ยวมาขึ้นน๊า


ป้ายนี้ระดับความงงเท่าๆ กับสนามบิน/สถานีรถไฟญี่ปุ่นครับ กว่าจะหารถที่ตัวเองจะไปก็ใช้เวลาอยู่

พวกผมหาข้าวกลางวันกินกันในสถานีนี่แหละ มีร้านอาหารญี่ปุ่นแบบ Take Home ด้วย ผมกับเพื่อนๆ เลยซื้อมานั่งกินกันตรงโต๊ะนั่งพักส่วนกลางของสถานี (หลายๆ คนก็นั่งกินที่นี่กัน)

กินเสร็จออกมาเดินรอบๆ สถานีแว๊บนึง ไปไกลมากไม่ได้เพราะกลัวตกรถครับ เลยเห็นแค่นี้แหละ จากวิวที่เห็นก็ไม่ได้สวยอะไรนะ

ขากลับไปขึ้นรถไฟผมต้องไปชานชาลา 4 แต่หลงไปชานชาลา 3 ซะงั้น ดีที่ไหวตัวทันไปถึงชานชาลา 4 โดยสวัสดิภาพ รอแป๊บนึงรถก็มา


ตรวจตั๋วก่อนขึ้นรถ หลักๆ ก็แนะนำแหละว่านั่งตู้ไหนต้องไปทางไหนครับ nice มาก


สภาพในรถ

รถไฟขบวนที่ขึ้นวันนั้นคนแน่นมากครับ ที่ไว้กระเป๋ายังเต็มเลยต้องมายัดตรงที่นั่งแทน การเดินทางสงบเรียบร้อยดี ดู Series จบไป 1 ตอนก็ถึง Paris โดยสวัสดิภาพ เนียนกริบ ไม่มีตรวจอะไรเลยระหว่างทาง


บ๊ายบาย Belgium

พวกเรานั่งรถไม่นานก็ถึงสถานี Gare du Nord (Paris-Nord) เมือง Paris ครับ ตอนเดินออกจากรถมีเจ้าหน้าที่มายืนดักสุ่มเรียกคนไปตรวจเอกสารซึ่งผมก็เห็นว่าเรียกแต่คนผิวสีอ่ะนะ พวกผมดูสภาพแล้วนักท่องเที่ยวชัวร์ๆ ก็รอดไป


สถานี Gare du Nord


ถึงแล้ววว


นอกสถานีใกล้ๆ ก็สวยดี

พอออกมาจากสถานีก็เหวอนิดหน่อยเพราะเจอย่าน Little India เลย ซึ่งนอกจากตึกแนวยุโรปแล้วมันให้ความรู้สึกเหมือนตอนผมไปอินเดียจริงๆ สภาพผู้คนก็รู้ได้ว่าหวาดระแวงกันมากกว่าประเทศอื่นมาก เห็นคนเดินชนกันแล้วต่างคนต่างตรวจกระเป๋าตัวเองทันทีนี่ก็รู้สึกแปลกๆ แล้ว เจอยันธงเชียร์กองทัพพยัคฆ์ปลดปล่อยทมิฬอีแลมด้วยครับ โคตร Surprise


Little Inida


Feel พาหุรัด แต่ไม่ได้เดินสบายใจแบบบ้านเราหรอกนะ

พวกเราเดินไปนั่ง Paris Métro ที่สถานี La Chapelle ครับ ไปถึงก็เจอเรื่อง shock เรื่องที่ 2 อีกเพราะประตูเข้าสถานีมันเข้ายากมากกกก (ไม่ได้ถ่ายรูปมา) เหมือนออกแบบมาให้กันคนโกงแบบคนจ่ายเงินซื้อตั๋วยังเข้ายากเลย ซื้อตั๋วแม่งก็ยาก โอย


ถึงสถานีล่ะ


ตั๋ว

พวกเรานั่งรถไฟไปสถานี Colonel Fabien แล้วก็เข้าพักที่ Generator Hostel เป็นโรงแรมที่ Hip สุดที่พักในทริปนี้ล่ะ พักผ่อนเก็บของเสร็จก็ออกมาเดินเล่นกัน


สถานี Colonel Fabien ตั้งชื่อตาม Pierre Georges


ข้างในรถเมโทรเขา เก้าอี้นั่นพับเป็นยืนได้นะครับ ตอนคนเยอะๆ หลายคนก็ลุกขึ้นหลบให้เบียดๆ กันได้

ที่แรกที่ไปคือ Arc de triomphe de l’Étoile หรือประตูชัยฝรั่งเศสนั่นเอง สถานี Metro อยู่แถวๆ จตุรัส Place Charles de Gaulle ชนิดโผล่ออกมาเจอเลยครับ


คนเยอะมากกกกกก เห็นใกล้สุดเท่านี้แหละ

ส่วนด้านหลังหันไปคือถนน Champs-Élysées (ช็องเซลีเซ) ครับ ยืนดูประตูชัยจนเต็มอิ่มกันแล้วก็เดินเล่นถนนนี้กัน ถนนสวย ตึกงาม คนเยอะมากกกก ส่วนสาย Shopping น่าจะชอบนะครับ ร้านไฮโซเยอะมากกก


ตึกสวยๆ


คนเยอะมากกกก

สายถ่ายรูปน่าจะชอบ ตึกสวย คนเดินก็ถ่ายสนุกครับ มีอะไรให้เล่นเยอะ


คุมะมง!!!

มุมที่ถ่ายเห็นประตูชัยเต็มๆ คือกลางถนนครับ ซึ่งคนก็รอจังหวะไฟแดงแล้ววิ่งไปถ่ายกันแหละ มีตำรวจยืนคุมคอยดูแลด้วย


อันนี้แยกหลังๆ มีคนถ่ายเหมือนกัน

พวกเราเดินถ่ายเล่นถ่ายรูปตามถนน Champs-Élysées ลัดเลาะไปเรื่อยๆ จนไปถึง Flame of Liberty จุดมุ่งหมายจริงๆ คือเดินเล่นไปหอ Eiffel แหละ


ตึกสวยจริง ไม่แพ้ Bruges เลย


คาเฟ่ครับ คนนั่งเล่นกันนอกร้านแบบนี้แหละ


Flame of Liberty สร้างมาตั้งแต่ปี 1989 แล้วตอนหลังกลายเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงเจ้าหญิงไดอานาไป

ก็ขอจบตอนนี้ไว้เท่านี้ก่อนครับ วันนั้นเป็นการเดินทางข้ามประเทศด้วยรถไฟครั้งที่สองของทริป (และครั้งที่สองของผมด้วย) สะดวกสบาย เนียนกริบมากกกก อิจฉาบ้านเขาเลย ส่วน Paris ก็ยอมรับว่าช็อคนิดหน่อย Metro แม่งก็เข้าลำบาก เดินเที่ยวก็ต้องระวังตัว แต่ก็แลกมาด้วยจุดท่องเที่ยวในบ้านเขาสวยงามจริงครับ

ไว้ตอนหน้าจะพาเดินเล่นย่านหอ Eiffel กัน

Link:
สรุปทริป Netherlands, Belgium, France, Vietnam 2018

2 thoughts on “สะพายกล้องเที่ยวทิพย์ยุโรป: ตอนที่ 8 สวัสดี Paris

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.