Ruroni Kenshin: The Beginning

Ruroni Kenshin: The Beginning (Netflix) เป็นภาคสุดท้ายของภาพยนต์ซามูไรเพนจร โดยเป็นภาคที่ 3.2 ซึ่งแยกมาจาก Ruroni Kenshin: The Final (3.1) ที่เล่าเรื่องย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมทั้งหมดครับ (แต่ทั้งสองภาคนี้สร้างไปพร้อมๆ กันนะ) จริงๆ เราก็ดูเนื้อหาแบบรวบรัดของภาค The Beginning นี้ใน The Final ตอนเคนชินมันเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟังแบบเร็วๆ แล้วล่ะ


ภาพประกอบจากเวบ imdb

The Beginning นั้นจะพาเราย้อนกลับไปปลายยุคโอเดะในช่วงเริ่มต้นของการปฏิรูปเมจิที่เคนชินยังเป็นมือพิฆาตบัตโตไซอยู่ เขาต้องทำงานเสี่ยงตายลอบสังหารบุคคลสำคัญในรัฐบาลโชกุนตามคำสั่งของคัตสึระ โคโงโ (คนเดียวกับใน กินทามะ นั่นแหละ) ต่อสู้กับหน่วยตำรวจพิเศษชินเซ็นกุมิ ซึ่งนำโดย คนโด อิซะมิ (อย่าติดภาพในกินทามะมานะ), โอคิตะ โซจิ (อย่าติดภาพในกินทามะเช่นกัน) และคู่ปรับเขาอย่างไซโต ฮาจิเมะ (ซึ่งอิงมาจากตัวจริงนะ) ยิ่งเขาฆ่าคนไปเรื่อยๆ จิตใจเขาก็มืดมิดลงเช่นกัน จนกระทั่งการปราฏกตัวของสาวสวยนามยูกิชิโระ โทโมเอะ ที่พาความเปลี่ยนแปลงมาสู่เขาครับ

ปัญหาหลักของภาพยนต์ Ruroni Kenshin ทั้งภาค Kyoto Inferno, The Legend Ends และภาค The Final คือในมังงะเนื้อหามันเยอะ ฉากต่อสู้เด็ดๆ เต็มไปหมดแถมตัวละครก็เพียบ แต่พอดัดแปลงเป็นหนังแล้วต้องตัดหลายประเด็นหรือหลายฉากต่อสู้ออกไปเยอะมาก ซึ่งหนังก็ทำออกมาได้ดีสำหรับในแง่คนที่ไม่อ่านมังงะมาก่อนก็ดูได้เพลิดเพลิน แต่ถ้าเป็นคนอ่านมังงะแล้วจะหงุดหงิดมาก เพราะมันตัดแบบไม่น่าให้อภัยจริงๆ (ซาโนกลายเป็นกระสอบทรายแห่งโตเกียวงี้) ซึ่งภาค 3.2 นี้ปัญหาใหญ่ๆ นีหายไปแล้วครับเพราะเส้นเรื่องและ detail มันน้อยมากก (ไล่ๆ กับ ภาค Origins) เลย

ที่นี่พอข้อจำกัดว่า “ต้องตรงกับมังงะ” มันน้อยแล้วกลายเป็นดูสนุกกว่าภาค The Final เฉยเลย เนื้อหาที่เพิ่มมาไม่ว่าจะเป็นส่วนของกลุ่มชินเซ็นกุมิ, การต่อสู้ของกลุ่มปฏิวัติและความขัดแย้งกันเองของแต่ละกลุ่มมันเพิ่มน้ำหนักที่น่าสนใจให้กับเรื่องเยอะขึ้นมากครับ

ภาคนี้เดินเรื่องช้าเพื่อปูให้เราเข้าใจสภาพจิตใจของเคนชิน โทโมเอะ ซึ่งทำได้มากครับ บรรยากาศในเรื่อง บททุกอย่างช่วยบิ้วให้เราอินกับทั้งเคนชินและโทโมเอะ (รวมถึงกลุ่มปฏิวัติ) ในเรื่อง เทียบกับ The Final ที่พยายามดึงให้อินกับความรู้สึกผิดในใจเคนชินแต่ดูจริงกลายเป็นช้าจนเราหงุดหงิดแทน จนน่าสงสัยว่ามันสร้างไล่ๆ กันจริงเหรอทำไมผลลัพท์ถึงออกมาแตกต่างอย่างนี้


ภาพประกอบจากเวบ Rurouni Kenshin るろうに剣心

ฉากต่อสู้และ Choreography อันเป็นจุดแข็งแต่แรกก็ยังดีงามเช่นเดิม ที่ต่างจากภาคอื่นๆ คือภาคนี้เน้นเลือดสาดเต็มๆ ครับ (ย้อนกลับไปสมัยเคนชินยังฆ่าคนอยู่นิ) มันทำให้โทนของฉากบู๊ทั้งหมดไม่ได้รู้สึกเท่แล้วแต่รู้สึกอำมหิต มืดหม่น ซึ่งก็ตรงกับธีมเนื้อเรื่องภาคนี้ดี ภาคนี้อาจจะไม่มี Last Boss ที่ดูสะใจแบบภาคก่อนๆ (ไม่ต้องนับภาค 2.2 เลย) แต่โดยรวมยังดูสนุกสุดๆ อยู่ครับ

นักแสดง Cast มาเหมือนทั้งมังงะและประวัติศาสตร์แบบเป๊ะๆ ครับ คุณ Kasumi Arimura ที่แสดงเป็นโทโมเอะสวยมากกกกกกกกกกกกกก สวยวัวตายควายล้ม ให้ความรู้สึกต่างกับคาโอรุ (แสดงโดยคุณ Emi Takei) ชัดเจนตรงกับมังงะมาก (จะว่าไปตั้งแต่ภาค 2 คาโอรุเด่นน้อยลงไปเยอะนะ T^T) นักแสดงท่านอื่นก็เล่นดีไม่แพ้กัน พระเอกอย่าง Takeru Satoh เล่นเข้าถึงอารมณ์ Darkๆ ได้ดีเลย

สิ่งเดียวที่ติดขัด (อาจจะแค่สำหรับผม) คือเวลาตัวละครในประวัติศาสตร์จริงโผล่มาทีไรก็พาลนึกไปถึงไอ้พวกนี้ในกินทามะทุกทีสิ – -”

สรุปแล้วผมชอบ The Beginning มากครับ ถึงมันจะให้อารมณ์มืดหม่นแต่งต่างจากภาคอื่นแต่ก็ยังดูสนุกอยู่ มันดัดแปลงมังงะได้ดีมาก รายละเอียดทางประวัติศาสตร์ที่เพิ่มาก็ทำให้เข้าใจตัวเรื่องมากขึ้นเยอะครับ ถือเป็นภาคที่ดีพอๆ กับภาค Origins เลย (หรืออาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ)

ป.ล. นี่ว่าจะลองย้อนกลับไปดู 3.1 ใหม่เผื่อจะอินมากขึ้นครับ

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.