Rurouni Kenshin: The Final

Rurouni Kenshin: The Final (Netflix) เป็นหนังภาค 3.1 ของไตรภาคซามูไรเพนจร ซึ่งดัดแปลงมาจากมังงะในช่วงการล้างแค้นของเอนิชิ (Jinchū Arc) ออกมาเป็นสองภาคโดยภาค 3.1 นี้เล่าเรื่องปัจจุบัน (ในหนังนะ) ส่วนเรื่องอดีตจะยกไปเล่าในภาค The Beginning ซึ่งเป็นภาคจบ (3.2) ครับ

ภาพประกอบจากเพจ Rurouni Kenshin るろうに剣心

Rurouni Kenshin ภาค 3.1 เล่าถึงฮิมุระ เคนชิน อดีตมือสังหารของคณะปฏิวัติเจ้าของฉายา “มือพิฆาตบัตโตไซ” ที่ใช้เนียนชีวิตอย่างสงบและอยู่กินฟรีกับคามิยะ คาโอรุ เจ้าสำนักดาบสาว (สวยมาก) หลังชนะ ชิชิโอ มาโคโตะ ไปได้ จนกระทั่งอยู่ๆ เริ่มมีมือสังหารมาไล่ทำร้ายผู้คนที่อยู่รอบตัวเขา และผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็คือยูกิชิโร่ เอนิชิ น้องชายของภรรยาเก่าที่ตามมาล้างแค้นให้พี่สาวครับ

สเน่ห์ของหนังซามูไรเพนจรภาคก่อนหน้า (Orgins, Kyoto Inferno + The Legend Ends) มีสามอย่างคือ

1. Cast นักแสดงมาดี ตรงกับภาพลักษ์และบุคลิกในมังงะเป๊ะ
2. ดัดแปลงเนื้อหาจากมังงะดี คนไม่อ่านมังงะมาก่อนก็ดูเข้าใจส่วนคนอ่านมังงะก็ยังดูสนุกอยู่กับสิ่งที่เปลี่ยนไป
3. คิวบู๊ดีมากกกก ฉากสู้กับสะใจ ตีความวิชาในเรื่องดี

สเน่ห์อย่างแรกและอย่างที่สามยังอยู่ในภาคนี้ครบถ้วนครับ Cast นักแสดงใหม่มาเหมือนมังงะเด๊ะๆ โดยเฉพาะ Mackenyu Arata ผู้รับบทเอนิชินี่เหมือนจริง คิวบู๊กับ Choreography ดีงามเหมือนเดิมโดยเฉพาะการตีความวิชาของเอนิชิที่ทำออกมาได้ดี ต่างจากชิชิโอและเคนชิน (คือดูเป็นกังฟู+วิชาดาบญี่ปุ่นที่ไวไม่แพ้เคนชิน) ส่วนสเน่ห์อย่างที่สองที่ลดทอนไปบ้างในภาค 2.1 กับ 2.2 ที่ตัวละครโผล่มากเยอะแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยด้วยข้อจำกัดว่าตัวละครที่มากมายกับเนื้อหาโคตรเยอะนั้นก็ได้รับการแก้ไขแล้ว ตัวละครสำคัญมีที่มาที่ไปชัดเจน ฉากต่อสู้ของตัวละครก็ใหม่ก็มีครบทุกตัว (ไม่ง่อยเหมือนตอนจุปปงกาตานะ)

อีกอย่างคือความสมจริงเล็กๆ น้อยๆ อย่างเอนิชิพูดจีนได้นี่ก็ชอบนะ คือตอนอ่านมังงะแปลไทยไม่ได้รู้สึกอะไรแต่พอดูแล้วเจอฉากเอนิชิพูดจีนได้ก็ทำให้นึกว่ามันเป็นมาเฟียจีนนี่หว่า

แต่ปัญหาใหญ่ของภาคนี้กลับเรื่องการดัดแปลงเนื้อเรื่องนี่แหละที่ภาคนี้น่าจะไม่ถูกใจคนอ่านมังงะมากที่สุด เพราะเปลี่ยนจุดสำคัญจริงๆ ในเรื่องไปเยอะมาก ลดบทบาทตัวละครเอกออกไปเยอะจนน่าเกลียด (อย่างซาโนสุเกะที่โดน Nerv จนกลายเป็นกระสอบทรายไปซะงั้น) มันไม่ได้เป็นภาคที่ไม่ตรงมังงะมากที่สุด แต่เป็นภาคที่ดัดแปลงได้ขัดใจแฟนมังงะมากที่สุดครับ

ธีมของภาคนี้ในมังงะคือเรื่องของความผิดบาปที่ติดค้างอยู่ในใจและการให้อภัย ในมังงะมันก็เดินเรื่องช้าแหละเพื่อบิ้วอารมณ์ให้เห็นถึงความทรมานในใจเคนชิน ความพ่ายแพ้และการกลับมาสู้ใหม่ของเขา แต่ในหนังเรื่องนี้ความเดินเรื่องช้าเอื่อยๆ มันไม่สามารถทำให้เรารู้สึกได้ถึงความทุกข์ทรมาน ความรู้สึกผิดในใจของเคนชินเลย กลายเป็นเน้นปูพื้นตัวละครใหม่ๆ บิ้วธีมของเรื่องที่ก็ไปไม่สุด จุดพีคในมังงะก็ตัดออกไป สงสัยอยู่ว่าอุตสาห์แบ่งสองภาคแล้ว ยังดึงช้าและตัดออกไปขนาดนี้เลยเหรอ

อีกจุดที่น่าเสียดายคือตัวละครเอนิชิที่ในมังงะบรรยายไว้กว่าเก่งพอๆ กับชิชิโอ แต่ว่าตัวหนังมันทำชิชิโอภาคที่แล้วมหาเทพไปแล้ว ภาคนี้ฉากสู้ของเอนิชิมันก็เลยไม่ถึงระดับที่คาดไว้เท่าไหร่ คือดูสนุกแหละ มีฉากโชว์เทพเยอะ แต่ยังไม่ถึงชั้นชิชิโอในหนังภาคที่แล้ว

สรุปแล้วภาคนี้เป็นภาคที่ชอบน้อยที่สุดเลย แต่คนที่ไม่อ่านมังงะมาก่อนน่าจะชอบกว่าเดิม ผมรอดูภาค 3.2 ว่าจะเป็นยังไง ดูแล้วจะกลับมาชอบ 3.1 มั้ยก็น่าสนใจอยู่ครับ(เพราะวิธีแบ่งภาคมันแปลกๆ )

ป.ล. คาโอรุสวยกว่าภาคก่อนหน้าอีก ♥