เริ่มกันที่เรื่องแรก Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw (Netflix) ภาค Spin-off ของหนังตระกูล Fast & Furious ที่เกิดขึ้นหลังจาก Vin Diesel กับ The Rock ทะเลาะกัน (ในชีวิตจริง)
ภาพประกอบจากเวบ imdb
- หนังเล่าถึง Luke Hobbs และ Deckard Shaw ที่ต้องช่วยกันแบบไม่เต็มใจนักเพื่อหยุดยั้งภัยร้ายจากไวรัสล้างโลกที่บังเอิญไปอยู่ในร่างกายของ Hattie Shaw น้องสาวคนสุดท้องของตระกูล Shaw เข้า พวกเขาทั้ง 3 ต้องหนีการตามล่าของ Brixton Lore โคตรพ่อ Super Solider ของฝ่ายร้ายที่ดังมีความหลังกับ Shaw พอดี
- โคตรมัน เวอร์วังอลังการ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม ตลก กวนตีน ดูสนุกลงตัวกว่า Fast ภาคหลักเสียอีก
- เคมีของ The Rock กับ Jason Statham เข้ากันดีมากๆ Vanessa Kirby ก็เล่นเป็นสายลับได้เท่ เก่ง สวย เฉียบมาก ส่วน Idris Elba ก็เล่นดีตามมาตราฐาน เสียแค่โดน The Rock กับ Jason กลบเสียมิดไปหน่อย
- ถ้าถามว่ามันยังเป็นหนัง Fast อยู่ไหมก็ต้องถามกลับว่าแล้วหนัง Fast คืออะไรล่ะ ถ้าบอกว่าหนัง Action ขับรถภาคนี้ก็ดูเพลินๆ แม้จะไม่ใช่แนวแว้นแล้ว (ซึ่งภาคหลักแม่งก็ไม่แว้นแล้วเหมือนกัน) ส่วนในแง่หนังที่สื่อความเป็นครอบครัวรู้สึกว่ายัดเยียดน้อยกว่าภาคหลักอีกนะ ไม่แข็งทื่อๆ แบบที่ Vin ทำ ผมว่าความเป็น The Fast ยังอยู่ครบครับ
- ทั้ง The Rock และ Jason รับหน้าที่ Produce ภาคนี้ บริษัทที่สร้างก็ Seven Bucks Productions ของ The Rock เอง แถมด้วยเนื้อเรื่องที่ปูไว้ ตัดขาดจากภาคหลักได้สบายๆ เลย
เรื่องถัดมาคือ The Killer (Netflix) หนัง Action อาชญกรรมฮ่องกงตั้งแต่ปี 1989 กำกับโดย John Woo และอำนวยการสร้างโดย ฉีเคอะ หนังสร้างในช่วงที่คู่นี้ทะเลาะกันในระหว่างสร้างโหด เลว ดี ภาค 2 หนังเรื่องนี้เกือบจะไม่ได้สร้าง (เพราะวูเสนอบทหนังอะไรมาฉีเคอะก็ไม่เอาหมด) จนกระทั่งโจวเหวินฟ่ะยื่นมือเข้ามาช่วยหาทุนให้ และนักแสดงหลายท่านในเรื่องก็ไหว้วานเพื่อนโจวเหวินฟ่ะกับวูเนี่ยแหละมาเล่น
ภาพประกอบจากเวบ imdb
- หนังเล่าเรื่องราวของอาจง นักฆ่าระดับพระกาฬผู้ถือสัจจะและคุณธรรมที่พลาดทำให้นางเอกบาดเจ็บจนตาบอดในระหว่างที่เขาบุกไปสังหารเป้าหมายรายหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือนางเอก เขาจึงรับงานใหญ่งานสุดท้ายเพื่อเอาเงินไปรักษานางเอก งานใหญ่นั้นทำให้เขาต้องถูกสารวัตรลี ตำรวจหนุ่มฝืมือดีตามล่าตั้งใจจะจับเขาให้ได้ครับ
- Plot เรื่องงั้นๆ แหละ เดาได้
- สิ่งที่ดีที่สุดคือฉากดวลปืนที่โคตรมันเลือดสาดตามสไตล์หนังจอห์น วู มาครบทุกมุกไม่ว่าจะฉาก slow, ถือปืนสองมือ, นกพิราบ, ยิงซ้ำๆ ไม่ต้องสนใจกระสุน นับว่าเป็นหนึ่งในหนังบรรพบุรุษของตระกูล Gun Fu (gun kata) เลย แม่งสนุกกว่าฉากบู๊ใน The Falcon and Winter Soldier อีก
- หนังเน้นเรื่องเกียรติยศ คุณธรรม ความเป็นเพื่อนซึ่งก็ถ่ายทอดออกมาแบบเชยๆ แหละถ้าวัดจากสมัยนี้ แต่ทั้งโจวเหวินฟ่ะและ (หลี่ซิ่วเสียน) แสดงดีครับ โดยเฉพาะตัว Danny Lee ที่ตัวหนังค่อยๆ ทำให้เขาเห็นถึง “คุณธรรม” จากตัวนักฆ่าอย่างอาจงมากกว่าตำรวจด้วยกันจนสุดท้ายกลายมาเป็นพวกเดียวกันแบบกึ่งๆ ตกกะไดพลอยโจนโดยที่เราก็ไม่ได้ติดขัดเท่าไหร่
เรื่องสุดท้ายคือ Road to Perdition (Netflix) หนัง Gangster ย้อนยุคจากผลงานกำกับของ Sam Mendes และนำแสดงโดย Tom Hanks, Paul Newman, Jude Law กับ Daniel Craig ครับ
ภาพประกอบจากเวบ imdb
- หนังเล่าเรื่องราวของ Michael Sullivan มือขวาฝีมือดีของมาเฟียไอริชชื่อ John Rooney เขาและครอบครัวอยู่อย่างสงบจนกระทั่งวันหนึ่งลูกชายคนโตดันไปรู้ความลับเรื่อง “งานที่แท้จริง” ของพ่อเขา ในขณะเดียวกับก็เกิดเรื่องที่ทำให้เขาและครอบครัวอยู่ในอันตรายครับ
- หนังเรื่องนี้เป็นผลงานกำกับเรื่องที่ 2 ของ Sam Mendes ต่อจาก American Beauty ครับ เรื่องนี้ยังยืนยันในฝีมือของผู้กำกับท่านนี้ได้เป็นอย่างดี
- ดูสนุก มันเนิบๆ ช้าๆ แต่ไม่น่าเบื่อ ภาพ, แสงและบรรยากาศสวยมากกก บทจะรุนแรงก็ปุ๊บปับเลือดสาด ดูขัดกันกับความสวยงามของเรื่อง (เรียกได้ว่าเป็นด้านตรงข้ามกับ The Killer เลย)
- นักแสดงเล่นดีมากๆ ทุกท่าน Tom Hanks เล่นเป็นพ่อที่ไม่อยากให้ลูกซ้ำรอยตัวเองได้ดี ส่วน Jude Law ก็เล่นเป็นนักฆ่าที่อำมหิตเลือดเย็นได้น่ากลัวมาก Paul Newman ก็เล่นเป็นมาเฟียที่ต้องเผชิญความกดดันของการ balance ระหว่างลูกตัวเอง-หน้าที่-ความถูกต้องได้ดี คนสุดท้ายคือ Daniel Craig ที่เล่นออกจะธรรมดาๆ หน่อยเมื่อเทียบกันท่านอื่นแต่ก็เล่นเป็นคนเลวได้โอเคอยู่
- ผมยกให้ใกล้เคียงกับ The Irishman ในเวลาที่สั้นและกระชับกว่าเยอะครับครับ