บันทึกการเจาะชิ้นเนื้อไต

ผมมีปัญหาค่าไตสูง + มีโปรตีนปนในฉี่มาหลายปีแล้วครับ ก่อนหน้าได้แต่รักษาตามอาการไปแต่ก็ไม่ดีขึ้น ปรึษากับหมอสองสามที่แล้วทุกท่านเห็นตรงกันว่าผมควรจะเจาะชิ้นเนื้อไตไปตรวจหาสาเหตุอาการของผม ผมไปเจาะมาเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมาและออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนครับ เป็นการนอนค้างโรงพยาบาลครั้งแรกในรอบ 20-30 ปีด้วย

Blog นี้เลยจะขอเล่าประสบการณ์กับแชร์สิ่งที่เห็นจากห้องพักที่ผมเห็นมาตลอด 6 วัน 5 คืนด้วย (ซึ่งก็มีแต่เตียง อาหาร วิวหน้าต่าง) รูปที่ลงก็ตามวันเป๊ะๆ เลย

รูปวันที่ 19 นะ

ผมเลือกเจาะชิ้นเนื้อไตที่โรงพยาบาล พญาไท 2 ซึ่งคุณหมอที่ดูแลโรคไตผมอยู่และเป็นโรงพยาบาลที่ผมนัดแล้วได้คิวไวที่สุดครับ (+ ประกันกลุ่มของบริษัทใช้ได้ด้วย)

19 Nov 2020

เข้า admit ก่อนเที่ยง เข้าไปแล้วเขาให้เปลี่ยนเสื้อผ้า กินข้าวเที่ยงแล้วเริ่มอดอาหาร (จิบน้ำได้หน่อยๆ) ตั้งแต่บ่ายโมงเป็นต้นไปเลย จริงๆ เขาบอกว่าผมอาบน้ำได้นะหลังเปลี่ยนเสื้อ แต่ผมลืม กลายเป็นพลาดเลย ไม่ได้อาบน้ำไปอีกวันสองวัน T^T (แต่เช็ดตัวทุกวันนะ)

อีกอย่างที่คุมเข้มคือจำนวนน้ำที่เข้าและออกจากร่างกายครับ ผมต้องฉี่ใส่ขวดที่มีสเกลบอกจำนวนแล้วจดไว้ น้ำที่กินก็ต้องกินในโถที่พยาบาลจะคอยเติมและจดสเกลการเติมไว้ กินน้ำอะไรนอกเหนือจากน้ำในโถก็ต้องจดแยกไว้ต่างหาก จำนวนครั้งที่อึก็ต้องจดด้วย

ของกินพวกนี้หยิบได้ ราคารวมอยู่ในค่า service ห้องแล้ว

ตอนแรกนัดคุณหมอรังสีที่จะมาเจาะไว้ 6 โมงเย็น แต่มีเปลี่ยนกำหนดการนิดหน่อยเลยได้เจาะ 4 โมงเย็นแทน ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรเรื่องงดอาหารเพราะงดรอไว้แล้ว พอใกล้ๆ 4 โมงเขาก็พาผมไปห้องอัลตราซาวด์แล้วให้ผมนอนคว่ำบนเตียงที่เตรียมไว้ ฉีดยาชา เอาที่อัลตราซาวด์มากดๆ ที่หลังแล้วก็เอาเข็มจิ้มเพื่อดึงเนื้อเยื่อออกมาครับ ผมไม่เห็นภาพหรอก อาจารย์หมอแกบอกว่าเจ็บหน่อยนะแต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เจ็บอะไรเลย ตอนฉีดยาชาก็ไม่รู้สึก ตอนเข็มแทงเข้าไปไม่เจ็บอะไรแต่แค่รู้สึกว่ามี “สิ่งแปลกปลอม” อยู่ในท้องกับหน่วงๆ แปลกๆ เท่านั้น หมอแทงไป 3 เข็มเพื่อเก็บเนื้อไต 3 จุด ปิดแผลแล้วก็สั่งให้ผมนอนหงายแล้วพาผมขึ้นห้องล่ะ

ตอนกลับห้องเขาก็เข็นรถมาใกล้เตียงแล้วผมก็ลุกไปนอนเตียงเอง ทีนี้ผมต้องนอนหงายนิ่งๆ ห้ามลุก 18 ชั่วโมงครับ งดน้ำงดอาหารถึง 6 โมงเย็น ตอนกินข้าวก็ต้องปรับเตียงให้เอียงคล้ายๆ นั่งเอา จะไปเข้าห้องน้ำก็ไม่ได้ ต้องปรับเตียงแล้วฉี่ใส่ขวดเอา ถ้าฉี่เป็นเลือดหรือมีสีแดงสีชมพูต้องรีบแจ้งพยาบาลทันทีซึ่งโชคดีที่ผมไม่มีอาการนี้เลยตั้งแต่วันแรกยันวันสุดท้าย

ช่วง 18 ชั่วโมงแรกนี่ทรมานที่สุดล่ะ เพราะขยับแทบไม่ได้เลย ปวดแผลจนต้องขอยาแก้ปวด ปวดหลัง ปวดเอวมาก (เพราะนอนท่าเดิมตลอดเวลา) จนถึงจุดที่แยกไม่ออกแล้วล่ะว่าเรากำลังปวดแผล หรือปวดหลังอยู่กันแน่ ผมปวดจนนอนหลับๆ ตื่นๆ ไปจนถึงเช้าครับ (มานึกย้อนไปแล้วพลาดที่ไม่ขอยานอนหลับเขา)

20 Nov 2020

ผมตื่นตั้งแต่ตี 4 พอลุกได้มาเข้าห้องน้ำ แปรงฟันแล้วกลับมานอนต่อ นอนอย่างเดียวทั้งวันครับ พยายามลุกให้น้อยที่สุด แค่ลุกไปเข้าห้องน้ำเท่านั้นแหละ วันนี้ไม่ค่อยปวดแผลแล้ว รู้สึกตึงๆ หน่วงๆ ที่เอวด้านหลัง มีเจ็บบ้างตอนไอหรือจาม แต่ปวดหลังมากกกกกกกก เพราะทำได้แต่นอนหงาย

ระหว่างวันก็มีการวัดความดันทุกๆ ชั่วโมง (หรือสองสามชั่วโมงนี่แหละ) เก็บฉี่กับเจาะเลือดทุกเช้า บ่ายไปอัลตราซาวด์ กลางคืนผลออก ปรากฏเลือดไหลข้างในเยอะ แม่งโชคดีสัดๆ ระดับ 1 ใน 50,000 คน คืนวันนั้นได้น้ำเกลือ + พลาสม่า + งดน้ำงดอาหาร เจ้าน้ำเกลือให้ไปสักชั่วโมงมือบวมอีก ต้องเปลี่ยนข้าง คืนนั้นได้ยาฆ่าเชื้อ ได้วิตามินเสริมเพียบครับ คืนนั้นเลยขอยานอนหลับด้วย หลับสบายเลย

21 Nov 2020

นอนทั้งวัน มือก็เจาะรับน้ำเกลือกับยาทั้งวัน จะเข้าห้องน้ำก็ต้องลากไปด้วย จะไปอัลตราซาวด์ก็ต้องลากมันไปด้วย ที่ดีคือฉี่ไม่มีเลือดเลย เริ่มนั่งได้ล่ะ

วันนี้ได้อาบน้ำแล้ว เย้ สบายตัว

22 Nov 2020

นอนทั้งวันเหมือนเดิม พอลุกได้มากขึ้นแต่ก็แค่ลุกไปดูวิวที่หน้าต่าง ลุกไปเข้าห้องน้ำ แผลไม่เจ็บมาก แค่รู้สึกหน่วงๆ ตึงๆ อัลตราซาวด์ทุกวัน หมอศัลย์มาตรวจตอนเช้า บอกว่าวันนี้กลับได้

วันนี้ผลออก สรุปไตพังเพราะความดันที่สูงมานาน (ระดับ 10 ปี) ไม่ใช่เพราะโรคภูมิคุ้มกันอะไร คือผมเพิ่งมาดูแลตัวเองจริงจังก็ปีที่แล้วนี่เอง โทษใครไม่ได้นอกจากโทษตัวเองครับ หมอบอกว่าอันนี้มีข้อดีคือมันจะค่อยๆ พัง ไม่วูบเดียวแบบเป็นโรคไตอื่น มีทางฟื้นได้ ต้องพยายามรักษาความดัน ไม่กินเค็มเลย ลดให้เด็ดขาด

23 Nov 2020

วันนี้อัลตราซาวด์สักพักแล้วอาจารย์หมอที่ทำแกบอกว่าทำไปก็ไม่เห็นอะไรชัดเจนหรอก ไปทำ CT Scan เหอะ ไม่เสียตังค์ แล้วส่งไป CT Scan กลับมาที่ห้องหมอศัลย์มาตรวจ บอกว่าวันนี้กลับได้…

เริ่มเดินไปไหนมาไหนได้มากขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในห้องนั่นแหละ ไม่กล้าเดินมาก แต่ก็นั่งมากขึ้น อาหารโรงพยาบาลจากที่จืดอยู่แล้วกลายเป็นจืดหนักกว่าเดิม

ยา

วันนี้เริ่มเดินได้มากขึ้น รูปเลยเยอะหน่อยนะ

วันนี้มองจากเตียงก็เห็นว่าฝุ่น PM2.5 นรกแตกมาก

หมูกระเทียมที่จืดที่สุดที่เคยกินมา

24 Nov 2020

ตอนเช้าไปอัลตราซาวด์แล้วได้ CT Scan ฟรีอีกรอบ ออกกจากห้องไปเจอหมอศัลย์แกบอกวันนี้ก็กลับได้แล้ว (บอกมาสามรอบแล้วอาจารย์) ขึ้นมาแล้วหมอถอดน้ำเกลือล่ะ บอกวันนี้ได้กลับแล้ว เย้ เย้ เย้ เพราะเลือดข้างในหยุดไหลแล้ว แต่ยังละลายไม่หมด

วันนี้ก็เริ่มลุกเดินไปมาในห้องได้มากขึ้น นั่งได้มากขึ้น นอนตะแคงขวาได้แต่ห้ามตะแคงซ้ายเด็ดขาด ผมออกจากโรงพยาบาลตอน 4 โมงเย็นครับ ได้ยาฆ่าเชื้อมา หมอสั่งให้อยู่เฉยๆ ที่บ้าน อย่าเดินเยอะ อย่าออกกำลังกาย นอนพักผ่อนให้เยอะที่สุด พร้อมกำชับให้คุมความดัน ลดน้ำหนักเพื่อรักษาไตไว้ให้ยาวที่สุดครับ

บาย

ตั้งแต่กลับมาบ้านถึงปัจจุบัน

กลับมาบ้านวันสองวันแรกต้องบอกว่ามันกระเทือนกว่าที่ผมคิดไว้มาก นั่งรถเฉยๆ ก็รู้สึกกระเทือนจนหน่วงๆ แผล นั่งทำงานหรือยืนสักพักก็เริ่มปวดแผลแบบหน่วงๆ นั่งทำงานสลับกับนอนอยู่ 2-3 วันก็เริ่มดีขึ้น

ตอนนี้ผมดีขึ้นมากแล้ว เดินช้าๆ ไปปากซอยไปซื้อของได้ ไปหาหมอตรวจอีกรอบพบว่าเลือดยังละลายไม่หมดดีนะแต่ไม่ออกเพิ่มล่ะ หมอสั่งให้พักผ่อนเพิ่ม กินยาบำรุงเลือดกับฆ่าเชื้อต่อ ยังออกำลังกายไม่ได้ ตอนนี้เลยคุมอาหารแทน เปลี่ยนการกินแทบจะหมดเลย T^T

สรุปแล้ว 6 วัน 5 คืนผมก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากนอนเล่นมือถือกับ iPad ทั้งวัน, ดู Series จบไป 2 เรื่อง (The Crown SS4 กับ My Mister – IU เล่นดีมว๊ากกก) ส่วนหนังสือที่เอาไปอ่านไม่จบ เจาะเลือด+อัลตราซาวด์ เป็นช่วงเวลาที่ผมได้พักผ่อนและนอนเยอะที่สุดของปีเลย น้ำหนักก็ลดไปกิโลกว่าๆ นะ (ฮ่า) คุยกับคนอื่นที่เคยเจาะส่วนใหญ่เขาก็ไม่ซวยแบบผม เลือดไม่ออก หลังเจาะนอนต่ออีก 1 คืนก็กลับบ้านได้กันทั้งหมด ส่วนผมนี่แม่งโคตรดวงเลยจริงๆ

ผมขอจบบันทึกไว้แค่นี้ครับ หวังว่าผมจะหายไวๆ ขอให้รักษาสุขภาพทุกท่านครับ