บันทึก Work From Home ตอนที่ 1

ผมเริ่ม Work From Home จริงจังมาตั้งแต่วันพุธที่แล้ว (มีทดลอง 1 วันเมื่ออาทิตย์ก่อนหน้า) นับถึงวันนี้ก็ 7 วันแล้วครับ ก็ขอบันทึกช่วงเวลา WFH ที่ยาวนานที่สุดเท่าที่เคยทำมาครับ (คิดว่าจะต้องทำต่อยาวด้วย)

สิ่งที่ทำ
การ WFH ครั้งนี้ผมแบก Laptop + USB Dock กลับบ้านมาด้วย ตอนแรกใช้แต่ Laptop ทำงานบนโต๊ะคอมที่บ้าน แต่ว่ามันต้องก้มตลอดเวลาก็เลยปวดคอแถมจอก็แค่ 14 นิ้วซึ่งเล็กมากก็เลยเปลี่ยนมาพับจอลงยัดใส่เก๊ะลิ้นชัก + ต่อจอนอก (จอ ultra wide 29 นิ้ว) + keyboard นอก ซึ่งเป็น Setup เดียวกับสมัย Thinkpad T430 (คล้ายๆ ที่ Office ซึ่งต่อ 2 จอนอก) ก็ทำงานสะดวกขึ้นเยอะ แต่ข้อเสียคือเวลาประชุมแล้วต้องเปิดกล้องก็ต้องลาก Laptop ออกมาเปิดกล้องอยู่ดี


สภาพโต๊ะคอมตอนนี้ จะทำงานเลิกงานก็ยก Keyboard กับ Mouse มาสลับกันที

3 วันแรกใส่เสื้อเน่านั่งทำงานทั้งวัน หนวดเคราไม่โกน จนรู้สึกว่าไม่ไหวล่ะเพราะ ความรู้สึกว่าอยู่บ้านกับทำงานมันเลือนลางมากจนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาต้องใส่เสื้อกึ่งๆ ทำงาน + โกนหนวดเครา ให้ความรู้สึกว่า “แต่งตัวไปทำงาน” นิดหน่อย


อาหารการกินอยู่บ้านก็มีโอกาสจะกินจุบจิบมากขึ้นกว่าอยู่ Office นี่พยายามจะกินให้เท่ากับตอนอยู่ Office กับออกกำลังกายให้ร่างกายฟิตอยู่มากกว่าตอนออกไปทำงานเพราะว่าไม่ได้เดินไปไหนมาไหนเลย

ตอนนี้หนึ่งในกำลังใจให้ผ่านไปได้แต่ละวันคือเกม Animal Crossing: New Horizons ครับ ให้ความรู้สึกเหมือนได้หนีความจริงออกไปพักผ่อนได้ดีเลยล่ะ (แต่ช่วงแรกแม่งเล่นแบบวิ่งควายนะ)

ปัญหาเกี่ยวกับงานที่เจอ
เรื่องงานก็ยังขลุกขลักอยู่จนถึงบัดนี้เพราะว่ามีหลายอย่างที่ต้องต่อ VPN (Cisco Anywhere) เพื่อเข้าระบบภายในของบริษัทซึ่ง VPN แม่งช้ามากกกก (ระดับ push code ขึ้น Gitlab ไม่ขึ้น) แม่งหัวเสียทุกครั้งที่ใช้อ่ะ ยิ่งบางอย่างต้องต่อแป๊บๆ เพื่อไปเอาข้อมูลบางอย่างแต่ก็ล่อไปหลายสิบนาทีล่ะ ส่วนงานอีกครึ่งหนึ่งเข้าด้วย Internet บ้านธรรมดาๆ ได้ก็สบายหน่อยโดยเฉพาะระบบ Mail ที่ย้ายมา Office365 แล้วยิ่งสบาย (แต่ถ้าต่อ VPN ค้างไว้ก็ช้าฉิบหายเลยนะ) ระบบ chat คุยงานก็ใช้ Microsoft Team ซึ่งสะดวกดี แชร์ file ง่าย vdo call ได้


นี่ขุดเอา Mechanical Keyboard เก่ามาใช้

นอกจากนี้ยังมีปัญหาในเรื่องสภาพแวดล้อมที่มีไซต์ก่อสร้างอยู่ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ไหนจะเสียงจากเพื่อนบ้านและอากาศที่ร้อนฉิบหาย ไอ้เรื่องเสียงรบกวนนี่แบก MDR-1000X ตัวเก่าจากที่ทำงานกลับบ้านด้วย ก็ช่วยระดับหนึ่งเหมือนกัน

ข้อเสียที่เจอ
สิ่งที่ยากที่สุดอันแรกคือการบริหาร “เวลา” กับ “พื้นที่” ครับ ผมพบว่าเวลากลางวันผมจะนั่งอยู่โต๊ะนานขึ้น เดินน้อยลง ยิ่งโต๊ะคอมนั้นอยู่ในห้องนอนด้วยทำให้เส้นแบ่งโซนพักผ่อนกับโซนทำงานมันเลือนลางมาก บางทีพอเลิกงานตอน 6 โมงเย็นแล้วก็ไม่อยากจะอยู่ในห้องหรือนั่งโต๊ะคอมเพื่อเขียน Blog แต่งรูปอะไรล่ะ ส่วนเรื่องแบ่งเวลานี่ผมไม่มีปัญหาอะไรมากเพราะกำหนดเวลาไว้กับตัวเองชัดเจนว่าจะเริ่มงานประมาณกี่โมง (มีสายบ้างเหมือนกัน) และหยุดงานกี่โมง พอถึงเวลาก็ปิด Laptop เลยไม่ยุ่งกับงานล่ะ แต่คิดว่าต้องกำหนดตัวเองให้เดินไปเดินมามากขึ้น

ข้อดี

ข้อดีของการ WFH คือไม่ต้องเสียเวลาเดินทางก็เลยมีได้เวลาหลังเลิกงานคืนมา ตอนเวลาเครียดๆ ก็เล่นกับหมาได้ แต่เวลาเบื่อๆ เซ็งๆ ก็ได้แค่เดินไปเดินมาในบ้านนี่แหละ ไม่ได้อู้ไปซื้อของ 7-11 ได้เหมือนไปทำงานครับ


ถ่ายน้องหมาเล่น


น้องหมานอนทั้งวัน

นอกจาก Laptop + Dock + เมาส์ + หูฟังแล้วผมยังแบกอุปกรณ์ชงกาแฟกลับบ้านมาด้วย ก็ใช้วิธีชงกาแฟที่บ้านสลับกับออกไปซื้อแถวบ้านบ้างครับ

สรุป
แต่จะมีข้อดีข้างบนตรงที่ได้เวลาชีวิตคืนมามากขึ้นก็ยังรู้สึกได้ว่าตัวเองเป็นมนุษย์ที่ต้องการสมดุลระหว่างการ “อยู่บ้าน” กับการ “ออกไปข้างนอก” มากกว่าอยู่ดี คืออยู่บ้านมันก็สบายดีแหละ แต่อยู่นานออกไปไหนไม่ได้นี่มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน กลายเป็นนั่งอยู่หน้าคอมทั้งวันหนักกว่าเดิมอีก

แต่ยังไงก็ต้องทำงาน WFH ต่อไปอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1 อาทิตย์ ก็คิดว่าเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี่คงต้องหาทางจัดห้องอื่นให้เป็นห้องทำงานดูบ้าง ส่วนตอนทำงานก็ต้องกำหนดตัวเองให้เดินไปเดินมามากขึ้นครับ

One thought on “บันทึก Work From Home ตอนที่ 1

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.