สะพายกล้องเที่ยว KL #2.1

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ ตื่นเช้ามาผมก็กินอาหารเช้าฟรีที่ hostel ก็เป็นพวกขนมปัง ซีเรียลอะไรทำนองนี้ อ้อตอนเช้ามืดมีคนกลับห้องมานอนด้วยครับ (พี่ไปไหนมาทั้งคืน?)

กินเสร็จก็ล้างจาน ขึ้นไปเก็บของแล้วลงมา checkout ครับ แล้วก็ออกไปเที่ยวต่อโดยฝากกระเป๋าไว้ก่อน ช่วงเช้านี้ก็เอาที่ใกล้ๆ ก่อนอย่าง Merdeka Square ที่อยู่ไม่ไกลก่อนครับ


Hostel ที่ผมพักครับ สะอาด บริการดี (แต่แพง) เลยล่ะ


Jamek Mosque อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟนักครับ

ระหว่างทางเดินผมก็เปิด GPS ไป (จริงๆ ไม่ต้องเปิดก็ได้) แต่ก็เจอว่า GPS ไม่วิ่งเลย เนตก็ไม่วิ่ง สุดท้ายก็ได้ sms มาว่าเนตหมด 100 mb แล้ว -*- หลังจากนี้ผมก็คลำๆ ทางไปโดยอาศัยแค่แผนที่ล่ะครับ จาก Jamek Mosque เดินไปอีกสักนิดก็ถึง Merdeka Square ล่ะ


อันนี้เขาว่าเป็นเสาธงที่สูงที่สุดอ่ะนะ

Merdeka Square นี่จริงๆ ควรจะมาบ่ายครับ เพราะเช้านี่ย้อนแสงเต็มๆ (ผมก็ลืมไป) แต่วันที่ไปมีกองถ่ายโฆษณาหรือ MV อะไรสักอย่างที่นี่พอดีก็เลยพอทำให้มีอะไรน่าสนใจให้ถ่ายรูปขึ้นมาบ้าง


Continue reading “สะพายกล้องเที่ยว KL #2.1”

The Hunger Games: Mockingjay Part 1

ออกตัวก่อนว่าผมเข้าไปดู The Hunger Games: Mockingjay Part 1 ด้วยความไม่คาดหวังมากนักเพราะเพื่อนๆ หลายคนที่ไปดูมาก่อนผมว่าดูสนุกสู้ภาค 2 ไม่ได้ (จริงๆ กลัวออกมาแล้วมีทหารมาจดชื่อมากกว่า ฮาาาา)

สำหรับภาค 3.1 นี่จะต่อจากภาคที่แล้วทันทีครับ คือแคทนิสได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มกบฏและพาเธอมาที่เขต 13 ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏที่จะล้มรัฐบาล The Capitol เธอยอมเป็น The Mockingjay สัญลักษณ์ของกลุ่มกบฏแลกกับการช่วยเหลือพีต้าซึ่งก็ถูก The Capital ใช้งานเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านกลุ่มกบฏเช่นกัน

สำหรับผมที่อ่านนิยายจบทั้งสามภาคแล้วผมว่าหนังภาคนี้มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะครับ คือมันไม่ค่อยมี action ไม่ค่อยมีการเอาตัวรอดเท่าไหร่นักซึ่งก็ตรงตามหนังสือที่ครึ่งเรื่องแรกมันก็แบบนี้แหละคือเน้นแต่ propaganda กันไปมา จะไปอัดกันจริงๆ ก็ครึ่งหลังของเล่มซึ่งก็ต้องรอหนังภาค 3.2 ปีหน้าเลยครับ สำหรับนักแสดงอย่าง Jennifer Lawrence และ Josh Hutcherson เล่นดีมากๆ ทั้งคู่ครับ ที่ชอบที่สุดคือในเรื่องยังไม่ตัดแมวของพริมทิ้งนี่แหละ (มันเด่นมากเลยนะในหนังสือ 555)

ข้อเสียที่ร้ายกาจที่สุดของภาคนี้คือมันแทบไม่ได้สื่อเลยว่าเขต 13 นั้น XXX ขนาดไหน (ในหนังสือที่บทแรกแคทนิสก็บ่นๆๆ ให้เราฟังหลายรอบล่ะ) แถมตัวละครสำคัญที่ทำให้รู้ว่าเขต 13 นั้นเป็นอย่างไรก็ดันโดดนตัดไปตั้งแต่หนังภาคแรกซึ่งในหนังก็แก้ให้เอา Effie มาแทนซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เนื้อหาที่หายไปตรงนี้แหละคือใจความสำคัญที่จะปูทางไปสู่บทสรุปของภาค 3.2 ซึ่งก็น่าสนใจเหมือนกันว่าหนังจะทำออกมาอย่างไร

สำหรับคนที่ไม่ได้ดูภาค 2 มาก่อนก็แนะนำให้ไปหาภาค 2 มาดูก่อนครับ แต่ถ้าคุณดูมาแล้วทั้ง 2 ภาคก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ดูภาคนี้นะ