หลังจากซื้อช๊อคโกแลตที่ Shiroi Koibito Park จนหนำใจ แผนเที่ยวผมก็หมดพอดี เลยคุยกับเพื่อนๆ ว่าจะไปเที่ยวห้างย่านสถานีรถไฟ JR Sapporo เพื่อหาซื้อของที่อยากซื้อ (ทั้งของตัวเองและของฝาก) ครับ ก็นั่งรถย้อนกลับไปสถานี JR Sapporo กลับโรงแรมไปเก็บของแล้วก็เดินกลับมาห้าง ESTA กันก่อน
โซนราเมง ไม่ได้กินครับ เก็บท้องไว้กินบุฟตอนเย็น
เดินๆ ไปเจอ UNIQLO ที่ห้างนี้ ลองเข้าไปดูแล้วพบว่าพวกกางเกงที่อยากได้ตอนอยู่ไทยลดราคาลงมาโหดกว่าไทยอีกก็เลยจัดไปครับ เดินต่อไป Muji ไปเจอหมวกสวยดีก็เลยซื้อมาแทนหมวกที่ลืมไว้ที่ Biei แต่กลับมาบ้านแล้วถึงได้เห็นว่าหมวกมัน Made in Thailand …
ที่ตื่นเต้นที่สุดคือมีชั้นนึงเป็นโซนเกมตู้เกือบครึ่งชั้นครับ พวกเกมตู้เครนเยอะมากกกกกกกกกกกกก พวกของในตู้ก็มีน่าเล่นทั้งนั้นเลย พวกกาชาปองก็เพียบเลย
วางติดๆ กันแบบนี้เลย
AKB48!!
ตั้งใจเล่นกันมาก
โปเกม่อนนนนนนนนนนนน
ได้ของกันก็ไปเดินหาซื้อของกันต่อที่ Susukino ครับ ผมเองไม่ได้อะไร เดินเล่นเฉยๆ แต่เพื่อนได้มาบ้างเหมือนกัน
เดินผ่านแยกนี้ไม่รู้กี่รอบล่ะ
พวกเราลองเดินใน Tanuki Koji ซึ่งเป็นย่านรวมร้านค้าใน Susukino ครับ แนวๆ ซอยยาวๆ ที่ห้ามรถเข้า 2 ด้านมีแต่ร้านค้าทั้ง local แล้วแบรนด์เนม
แนวๆ นี้ครับ ถนนคนเดินดีๆ นี่เอง
Taito Station มีแต่ตู้เกมเครน – -”
อันนี้ร้านเสื้อผ้ามือสองจากเมกาชัดเจนครับ
ซื้อของเสร็จพวกเราก็ไปตึก Cyber City เพื่อไปกินบุฟเฟ่ร้าน Nanda ที่เป็นร้านชื่อดังใน pantip.com บ้านเรานี่แหละครับ โชคดีที่ไม่ต้องรอคิวอะไรเลย กติกาก็กินได้ทุกอย่าง ให้เวลา 1 ชั่วโมง หมดเวลาปุ๊บลุกไปจ่ายตังค์ทันที ไม่มีนั่งอ้อยอิ่งแบบบ้านเรา
เมนูก็มีพวกปลาดิบ เทมปุระ ไข่หวาน ไอติม ข้าวปั้นอะไรพวกนี้ซึ่งไม่ใช่จุดเด่นของที่นี่ครับ จุดเด่นคือขาปู ปูทั้งตัวและปูขนต่างหาก!!
อีปู มึง!!!
คนไทยมาร้านนี้เยอะจริงๆ ครับ ไม่เชื่อดูป้ายได้เลย
พวกผมก็จัดปูกันไปครับ แล้วก็พบว่าแม่งเสียเวลาแกะมาก 1 ชั่วโมงนี่แกะปูไป 40 นาทีแล้วมั้ง -*- ปูสดดีแต่น้ำจิ้มไม่อร่อยเท่าน้ำจิ้มไทย (จริงๆ ปูบ้านเราก็อร่อยกว่าอยู่แล้วละนะ) พวกผมซัดกันแต่ปูจนเต็มที่เลย
ล่าสุดเห็นว่ามีป้ายเขียนเป็นภาษาไทยว่า “ปูขนกินได้เลย ไม่ต้องปิ้ง” แล้วครับ … ผมขออภัยยย
มันปู!!
กินกันจนครบ 1 ชั่วโมงเขาก็มาบอกให้ลุกล่ะครับ สรุปมื้อนี้แพงที่สุดเลยมั้ง กินอิ่มกำลังพอดีๆ อาหารอร่อย แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าจะกินปูสะใจนี่ทะเลบ้านเราแหล่มกว่าแฮะ แถมเวลาแค่ 1 ชั่วโมงผมว่าน้อยไปหน่อยนะ
กินเสร็จก็กลับโรงแรม ไปจัดของเพื่อเตรียมตัวกลับไทย (ที่จะเขียนใน entry ถัดไป) ครับ ก็ขอจบการพาเที่ยวเมืองซัปโปโร่ไว้เท่านี้นะครับ
One thought on “สะพายกล้องเที่ยวฮอกไกโด #7.3: พาเที่ยวเมืองซัปโปโร่ตอนจบ”