สะพายกล้องเที่ยวฮอกไกโด #3.3: พาเที่ยวเมือง Noboribetsu ตอนที่สาม

หลังจากพาไปเที่ยวสวนหมีกันมาแล้วก็ได้เวลากลับไปเที่ยวและพักผ่อนแถวๆ โรงแรมครับ

แวะ 7-11 ญี่ปุ่นก่อนกลับโรงแรมครับ

อันนี้สภาพห้องครับ พอกลับมาหลังจากออกไปอีกรอบเขาก็จัดโต๊ะออกไปแล้วปูฝูกนอนให้ด้วย

เก็บของเสร็จพวกเราก็ออกไปเดินเล่น Jigokudani หรือที่เรียกว่า Hell Valley ครับ อยู่ข้างๆ โรงแรมนี่แหละ ทางโรงแรมโฆษณาว่าวิวจากห้องออนเซ็นเห็น Hell Valley เต็มๆ เลยล่ะ

Hell Valley เป็นหุบเขาบ่อกำมะถันที่เป็นต้นกำเนิดของออนเซ็นทั้งหลายในเมืองครับ มีพื้นที่กว้างใหญ่พอดูเลยล่ะ ตอนเดินไปนี่เจอคนไทยเพียบเลย เหมือนจะพักอยู่โรงแรมเดียวกันด้วย ส่วนทางเดินใน Hell Valley ก็เดินง่ายๆ เพราะมีทางเดินให้อยู่แล้ว ปลอดภัยดีครับ

ส่วนตัวผมแล้วมันก็สวยดีนะ แต่ไม่ได้ครึ่งนึงของโบรโม่ที่เคยไป

เดินกันจนฟ้าเริ่มมืดก็เดินเล่นในตัวเมือง มีร้านขายของที่ระลึกเพียบครับ แต่ละร้านตั้งราคาของอย่างเดียวกันไม่เท่ากันซะด้วย ก็เดินดูราคาดีๆ ก่อนละกัน มีของฝาก ของกระจุกกระจิกน่ารักๆ เพียบครับ

เย็นๆ แล้วหนาว หมอกลง

ศาลเจ้า

ร้านแบบนี้ก็มีนะ

เดินซื้อของฝากกันแล้วก็กลับเข้าโรงแรมไปกินบุฟเฟ่ขาปูครับ อาหารมีหลากหลายน้อยกว่าที่คิด (ที่เคยมาญี่ปุ่นรอบที่แล้วอาหารเยอะกว่านี้) แกะปูกันมือหงิกเลยยย อาหารที่อร่อยที่สุดคือพวกเนื้อๆ ทั้งหลาย แหล่มสุดๆ ปลาดิบมีน้อยกว่าที่คิดแฮะ

กินกันจนจุก แต่กินปูน้อยกว่ามที่คิดเพราะมันแกะยากและนาน -*- ก็เดินเล่นในโรงแรมครับ มีร้านกาแฟ มีตู้เกม ที่เสาโมโมทาโร่ที่พอถึงเวลาจะมีตุ๊กตาออกมาเต้นๆ น่ารักดี ดูเสร็จก็กลับห้องเตรียมตัวไปแช่น้ำร้อนออนเซ็นซึ่งเปิด 24 ชั่วโมงเลยครับ พวกผมก็กะแช่ดึกๆ เพื่อหนีผู้คน (โดยเฉพาะคนไทยด้วยกัน)

ลูกชายแม่งเล่นเก่งมาก

ถึงห้องปุ๊บเพื่อนคนนึง (ญ) บอกจะอาบให้ห้องนี่แหละ ห้องน้ำในห้องของโรงแรมนี้เล็กมากกก ผ้าเช็ดตัวก็ไม่มี คือกะบิ้วให้ไปออนเซ็นกันสุดๆ เพื่อนอีกคน (ช) ชิงไปอาบก่อน ผมก็รอมันอยู่ถึง 5 ทุ่มกว่าๆ กว่ามันจะกลับมา (แม่งแช่นานสัด) ออนเซนอยู่อีกฝากนึงของโรงแรม เราฝากกุญแจไว้ที่ประชาสัมพันธ์แล้วก็ขึ้นไปอีก 3 – 4 ชั้น ตอนผมไปถึงมีคนอยู่แช่อยู่ไม่ถึง 5 คน โซนสวนสนุกในออนเซนปิดแล้ว (แม่งมีสวนน้ำอ่ะ คิดดู) พนักงานมีแต่ยายแก่ๆ ที่ฟันธงได้ว่าแกเห็นมาจนชินแล้วล่ะ ห้องเปลี่ยนเสื้อก็เป็นห้องใหญ่ๆ ไม่มี locker นะ เอาเสื้อใส่ในตะกร้าแล้วก็เดินแก้ผ้าโทงๆ เข้าไปนี่แหละ ยืนทำใจอยู่สักพักก็ตัดสินใจทำอย่างลุงแก่ๆ ข้างหน้าไป

เข้าไปแล้วก็อาบน้ำล้างตัวในโซนนึง แล้วเดินไปโซนน้ำร้อนที่มีหลายบ่อมาก แต่ละบ่อก็มีสรรพคุณต่างกันแล้วดันเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นอีก อ่านไม่ออก ผมก็เลยแช่มันทุกบ่อเลย สะใจสบายตัวโดยเฉพาะบ่อ outdoor ที่วิวแหล่มสุดๆ แต่ดันปิดเที่ยงคืน -*- (ผมแช่ประมาณ 10 นาทีเองมั้ง) ออนเซนที่นี่ใหญ่มากๆ อากาศเลยโปร่งมากจนไม่อึดอัดจากไอน้ำร้อนเลยครับ ผมแช่จนเกือบครบทุกบ่อจนสบายตัวแล้วก็กลับห้อง

ปรากฏว่าความร้อนมันยังซึมอยู่ในตัวจนร้อนมากๆ เลย -*- เหงือแตกพลั่กๆ ตอนนอน ทั้งๆ ที่อากาศเย็นสุดๆ

ก็ขอจบการพาเที่ยวเมือง Noboribetsu ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ