Blue Sky Resort @Koh Phayam

เมื่อวันที่ 11 – 12 ตุลาคมที่ผ่านมา ผมไปเที่ยว Blue Sky Resort มากับเพื่อนๆ โดยไปมันทั้งที่เกาะพยามและที่ตัวเมืองระนอง โดยไปที่เกาะพยามก่อนครับ เพื่อนซื้อ package low season แบบรวมค่าอาหารอะไรไว้ทุกอย่างแล้ว

เราจะไปที่เกาะพยามก่อนครับ เป็นที่ๆ หลายๆ คนไปแล้วกลับมาบอกว่า “มันคือมัลดิฟเมืองไทยดีๆ นี่เอง” ดูรูปในคล้ายๆ กันคือห้องพักอยู่ในน้ำเลย ก็ออกเดินทางตั้งแต่กลางคืน กว่าจะไปถึงท่าเรือที่ระนองก็ 6 โมงพอดี ที่ท่าเรือมี office ของ Blue Sky อยู่ ก็กินข้าวเช้าที่นี่แหละ ข้าวช้าวอยู่ใน package แล้ว มีแปะป้ายไว้ว่าไม่กินเสียสิทธิ์นะ

เรือออก 9 โมง (มั้ง) ก็พักผ่อนในนั้นแหละ มีเก้าอี้ เตียง free wifi ให้ มีห้องน้ำ มีกาแฟ มีน้ำขาย รอจน 9 โมงเรือก็มา เป็นเรือโดยสารระหว่างฝั่งกับเกาะที่เหมือนจะดัดแปลงมาจากเรือประมง (ไม่ใช่เรือของทางรีสอร์ท) ก็รีบไปขึ้น


กว่าจะไปถึงก็ล่อไปเกือบๆ เที่ยง ครับ เค้ามีรถมารับไปถึง resort เลย เป็นแนวๆ รถซาเล้งเครื่องนั่นแหละ


Continue reading “Blue Sky Resort @Koh Phayam”

รักในเลนส์ตาปลา

เลนส์ตาปลาหรือที่เรียกว่า Fisheye Lens เป็นเลนส์ประหลาดตรงที่มันให้มุมมองกว้างจนโค้งบิดเบี้ยวเหมือนแทนว่าเราเป็นปลาอยู่ในน้ำแล้วเห็นอะไรนั่นแหละครับ คือมันเห็นอะไรเป็นกว้างโค้งเป็นกลมๆ ไปหมดเลย

มันเป็นเลนส์ที่พิเศษกว่ามุมกว้างธรรมดาๆ เพราะภาพที่มันได้จะเบี้ยวๆ ชนิดผิดสัดส่วนเละเทะ มันเลยไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ (และราคามันแพงด้วย)

พอดีเดือนที่แล้วผมมีโอกาสได้ไปถ่าย pre wedding ให้เพื่อน โดยใช้กล้องเพื่อน (D700) +เลนส์เพื่อน ซึ่งมันมี fisheye ตัว 16mm f/2.8D ด้วย เลยเอามันมาถ่ายในบางภาพบ้าง วิธีการก็คล้ายๆ กับวิธีถ่ายเลนส์ wide ทั่วๆ ไปคือเข้าใกล้แบบ/ฉากหน้าให้เยอะๆ เข้าไว้!
Continue reading “รักในเลนส์ตาปลา”

The Impossible

The Impossible เล่าถึงเรื่องราวของครอบครัว Bennett ที่เดินทางมาพักผ่อนที่ภูเก็ตแล้วประสบภัยคลื่นสึนามิ พ.ศ. 2547 ทั้งครอบครัว เป็นหนังที่อยากดูตั้งแต่ตัวอย่างแล้วครับ

The Impossible Poster

หนังเล่าเรื่องแยกเป็น 2 ส่วนครับ เรื่องของ Maria Bennett ที่พลัดไปกับลูกชายคนโต Lucas และได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านแถวนั้นนำมาส่งที่โรงพยาบาล อีกส่วนคือพ่อที่ชื่อ Henry และลูกชายอีก 2 คนที่ติดค้างอยู่ที่รีสอร์ท พวกเขาต้องพยายามหาอีกสองคนให้เจอ เขาฝากลูกไว้ที่ศูนย์อพยพเพื่อที่จะรู้ว่าเค้าหาเมียและลูกคนโตไม่เจอขณะที่ใครก็ไม่รู้รับเด็กๆ จากศูนย์อพยพไปทั้งหมด

ฉากสึนามิสร้างได้สมจริงและน่ากลัวมากๆ ครับ ผมเองจำได้ว่าตอนได้เห็นภาพข่าวครั้งแรกในปี 2547 ยังนึกไม่ออกว่ามันสร้างความเสียหายได้ขนาดนั้นได้อย่างไร ดูในหนังแล้วรู้เลยว่ามันน่ากลัวและรุนแรงมากๆ ฉากนั้นนี่อึ้งกันไปเลยทั้งโรง

หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงครับ เป็นมุมมองของฝรั่งที่ประสบภัยในเมืองไทย หนังไม่ได้อวยน้ำใจคนไทยจนเวอร์ไปนัก มีทั้งแสดงให้เห็นถึงน้ำใจของทั้งคนไทยและคนต่างชาติในเวลานั้นที่ช่วยกันยามที่ทุกคนต้องการ หนังยังแสดงให้เห็นถึงความไร้ระเบียบและไร้ประสิทธิภาพในการจัดการต่างๆ ทั้งที่โรงพยาบาล, ศูนย์อพยพก็ดี (อยู่ๆ เจ๊มารับเด็กไปทำไม?) อ้อฝรั่งไร้น้ำใจก็มีในเรื่องนะครับ

สรุปแล้วเป็นหนังที่ควรไปดูครับ แม้ว่าจะเดาตอนจบได้ แต่หนังก็เดินเรื่องได้น่าติดตามและลุ้นตลอด Naomi Watts กับ Ewan McGregor และคนแสดงเป็นลูกๆ ทั้งสามคนเล่นดีมากครับ

ดูจบแล้วคิดว่าเราห้ามภัยธรรมชาติไม่ให้เกิดขึ้นไม่ได้ แต่มันจะมีทางเยียวยาและจัดการแก้ปัญหาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าครั้งก่อนได้ไหม?