Cloud Atlas หยุดโลกข้ามเวลา

ผมไม่เคยได้ยินชื่อหนัง Cloud Atlas มาก่อนจนกระทั่งได้ดูตัวอย่างระหว่างรอดู Skyfall แล้วรู้สึกว่า เฮ้ย แม่มเจ๋งว่ะ ต้องดูให้ได้

Cloud Atlas Poster

หนังเรื่องนี้เป็นผลงานของ 2 พี่น้อง Wachowskis (ที่กำกับ The Matrix, อำนวยการสร้าง V for Vendetta, Speed Racer, Ninja Assassin) และ Tom Tykwer (ผู้กำกับ Perfume: The Story of a Murderer) หนังเรื่องนี้สร้างจากนิยายที่แต่งโดย David Mitchell

หนังเล่าถึงเรื่องราวชีวิต 6 ชาติภพตั้งแต่ยุคล่าอณานิคมที่มีการค้าทาสไปมาจนถึงยุคอนาคตที่อารยธรรมสูญสิ้นไปเกือบหมด แต่เจ๋ง (หรืออาจจะไม่เจ๋ง) ก็คือหนังเล่าทั้ง 6 ชาติภพ (หรือ 6 ช่วงเวลา) ไปพร้อมๆ กัน สลับไปสลับมาให้คนดูงงเล่นตลอดเวลา 3 ชั่วโมง

  • กลางมหาสมุทธแปซิฟิคในปี 1849: Adam Ewing ทนายความหนุ่มกลับจากแอฟฟริกาที่เขาไปทำสัญญาซื้อขายทาสมาให้พ่อตา ระหว่างนั่งเรือกลับมีทาสผิวดำแอบขึ้นเรือมาด้วยขอให้เขาช่วย มิตรภาพระหว่างสองคนก่อตัวขึ้นพร้อมๆ กับสุขภาพของเขาที่ย่ำแย่ลงทั้งๆ ที่มีหมอ Dr. Henry Goose คอยดูแลด้วยจุดประสงค์บางอย่าง
  • สก็อตแลนด์ปี 1936: หนุ่มเกย์นาม Robert Frobisher ต้องลาจากแฟนหนุ่ม Rufus Sixsmith ไปสมัครเป็นผู้ช่วยนักแต่งเพลงที่ชื่อ Vyvyan Ayrs (อ่านว่าวิเวียน) ที่แต่งเพลงเองไม่ค่อยจะได้แล้ว พร้อมๆ กับแต่งเพลงเองไปด้วย ระหว่างที่อยู่กับวิเวียน เขาติดบันทึกชีวิตของ Adam Ewing ที่เป็นหนังสือในบ้านนั้นมาก
  • อเมริกาปี 1973: Luisa Rey นักข่าวสาวที่กำลังตามติดความไม่ชอบมาพากลของโครงการโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เธอพบกับ Sixsmith ในวัยแก่ผู้กุมความลับบางอย่างของโครงการนี้ แต่เขาก็โดนนักฆ่าเก็บไปก่อน เธอจึงต้องร่วมมือกับเพื่อนของพ่อของเธอเพื่อเปิดโปงโครงการนี้พร้อมๆ กับรับมือกับมือสังหารสุดโฉดคนนั้น
  • อังกฤษปี 2012: Timothy Cavendish ผู้จัดพิมพ์หนังสือนิยาย เขารับผลประโยชน์เต็มๆ เพราะนักเขียนของเขาจับนักวิจารณ์โยนลงมาจากตึกตาย หนังสือเลยดัง แต่ก็โดนลูกน้องของนักเขียนมาไถตังค์ เขาเลยไปขอความช่วยเหลือจากพี่ชายเขา แต่ก็ดันโดนหลอกไปอยู่บ้านพักคนชราที่มีนางพยาบาลสุดโหดคุมเพราะเขาก็เคยทำพี่ชายไว้แสบพอกัน และแล้วแผนการแหกบ้านพักคนชราก็เริ่มต้นขึ้น!
  • Neo Seoul ปี 2144: โลกอนาคตที่เราสร้างมนุษย์สังเคราะห์ขึ้นมาทำงานแทนเรา ปกครองโดยพรรค นางเอกเราชื่อ ซอนมี-451 มนุษย์สังเคราะห์สาวที่วันๆ เอาแต่ทำงานเป็นสาวเสิร์ฟในร้านอาหารแล้วก็นอน จนกระทั่งวันที่เธอเจอ แฮจู ชาง หนุ่มมนุษย์แท้ๆ ที่สอนให้เธอรู้จักคุณค่าของตัวเองและสอนให้เธอรู้ความจริงอันแสนชั่วร้ายที่พรรคหลอกทุกคนไว้
  • สักแห่งนึงในโลก ปี 2321: โลกอนาคตที่อารยธรรมเกือบทุกอย่างล่มสลาย ผู้คนส่วนใหญ่ย้อนกลับไปใช้ชีวิตชาวป่าและบูชาเทวีซอนมีเป็นเทพสูงสุด Zachry ชายวัยกลางคนที่ต้องอยู่กับความรู้สึกผิดที่ปล่อยให้น้องเขยแหละหลานของเขาถูกเผ่ากินคนฆ่าตายต้องต้อนรับ Meronym ตัวแทนจากเหล่า “พรีเชี่ยน” หรือมนุษย์ที่ยังคงอารยธรรมและไฮเทคอยู่ ผู้มาเยือนเกาะนี้ด้วยภารกิจลับ

หนังเรื่องนี้ยาว 3 ชั่วโมงครับ เรียกได้ว่านั่งดูจนปวดฉี่กันไปข้างนึง หนังสลับไปมาพร้อมรายละเอียดให้เก็บเล็กผสมน้อยเยอะมากกก ถ้าหลุดไปสักตอนนึงนี่จะดูไม่รู้เรื่อง เป็นหนังที่แบบว่าไม่รักก็เกลียดไปเลย

ตัวหนังจริงๆ หลายๆ คนบอกว่าเป็นหนังปรัชญา ชาติภพ ต่างๆ แต่ผมเองก็ไม่ได้ดูลึกซึ้งถึงขั้นนั้นนะครับ สำหรับผมแค่จ้องว่าแต่ละตัวละครพอมาอีกยุคนึงมันกลายเป็นใครบ้างก็สนุกแล้วครับ ตอนที่สนุกที่สุดของผมคือตอนปี 2012 แหกบ้านพักคนชรา มันสนุกและฮามากๆ แม้ว่าเนื้อเรื่องจะโดดจากเรื่องอื่นมากเลยก็ตาม ยิ่งเห็น Hugo Weaving มาเล่นเป็นนางพยาบาลนี่ก็ฮาแล้วครับ หนังเรื่องนี้ควรเข้าชิง Oscar สาขาแต่งหน้าครับ พี่เล่นจับดาราคนนู้นมาเล่นเป็นคนนี้ได้เนียนมากกกกกชนิดดูแล้วร้อง เหยดด เลยทีเดียว

หนังยังมีกลิ่นอายของ The Matrix, V for Vendetta มาอย่างจางๆ ทั้งเรื่องเสรีชน-ความเท่าเทียม, การต่อต้านเผด็จการขวาจัดและอำนาจทุนนิยม, ไอเดีย “ผู้จุดประกาย” ความคิดให้เกิดการล้มล้างเผด็จการที่แม้ผู้จุดประกายจะตายไปแต่ความคิดนั้นจะสืบทอดต่อไป ทั้งหมดนี้มีแทรกมาอย่างละนิดหน่อยในบางตอน บางตอนก็เห็นชัด บางตอนก็ไม่มีเลย (ฮาา)

ข้อเสียอันร้ายกาจของเรื่องนี้นอกจากหนังแม่งโคตรพ่อโคตรแม่ยาวแล้วคงเป็นเรื่องแต่ละยุค แต่ละชาติภพที่ไม่เกี่ยวกันสักเท่าไหร่นักครับ มันทำให้การเชื่อมโยงของแต่ละยุคสมัยนั้นไม่ต่อเนื่องกันเท่าไหร่ (ยิ่งทำให้งงกว่าเดิมด้วยซ้ำ) บางเรื่องนี่ผมดูจบไปแล้วยังไม่รู้เลยว่ามันจะสื่ออะไรแล้วมันโยงกับเรื่องอื่นยังไง

สุดท้ายแล้วสำหรับผม Cloud Atlas ก็เป็นหนังที่ดูสนุกนะครับ (เน้นว่าสำหรับผม) อาจจะไม่เหมาะกับคนสมาธิสั้นเท่าไหร่นักนะ
ขอปิดท้ายด้วยวาทะของซอนมี-451 (น่ารักมากก)ครับ:

Our lives are not our own. From womb to tomb, we are bound to others, past and present… and by each crime and every kindness, we birth our future.

From Up on Poppy Hill

From Up on Poppy Hill เป็นหนังการ์ตูนเรื่องที่สองของ Gor? Miyazaki แห่ง Studio Ghibli ดูนามสกุลแล้วคุ้นๆ ก็ไม่ต้องแปลกครับ เขาคือลูกชายของตำนานอย่าง Hayao Miyazaki นั่นเอง

From Up on Poppy Hill

หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของ Yumi เด็กสาวนิสัยดีที่พักอาศัยอยู่ในโรงพยาบาลในโยโกฮาม่า เธอมีหน้าที่ดูแลทำกับข้าวดูแลหมอทั้งหลายและน้องๆ ของเธอในตอนเช้า วันหนึ่งมีเหตุบังเอิญให้เธอรู้จักกับจุน ประธานชมรมหนังสือพิมพ์ที่กำลังรณรงค์ต่อต้านการทุบตึกชมรมทิ้ง ทั้งคู่ช่วยกันทำงานหนังสือพิมพ์ประจำโรงเรียนและช่วยกันบูรณะตึกชมรมเพื่อป้องกันไม่ให้ถูก vote ทุบทิ้งพร้อมๆ กับความสัมพันธ์ที่คืบหน้า (แบบน่ารักมากกกก) แม่มก็มีดราม่าว่าพ่อของยูมิอาจจะเป็นพ่อของจุนซะงั้น – -”

หนังเรื่องนี้ Goro แก้ตัวจาก Tales from Earthsea ที่ไม่มีอะไรดีเลยนอกจากภาพสวยได้ดีมากๆ ครับ หนัง feel good (รึเปล่า) ตามสไตล์จิบลิ เนื้อเรื่องเรียบๆ ง่ายๆ ไม่มี climax แต่ดูติดพัน ภาพประกอบยังคงสุดยอด เพลงประกอบก็เจ๋งมาก เข้ากับเนื้อเรื่องดี ช่วยต้นๆ ที่จุนกับยูมิจีบกันนี่ทำออกมาได้น่ารักมากกกกก คือดูสมวัยและสมกับยุคสมัยจริงๆ ฮ่าๆๆ เรื่องการรณรงค์ไม่ให้ทุบตึกนั้นก็ทำดูเบาๆ และสร้างสรรค์ดีครับ คือทะเลาะกันให้ตายแต่สุดท้ายก็ต้องใช้เหตุผลคุยกันอ่ะนะ

ข้อเสียอันร้ายกาจคือดราม่าพี่-น้องที่เหมือนจะเป็น climax ของเรื่องนี้ คือมันแรงมากไป แม้กระทั่งตอนจบจะเฉลยว่าทั้งคู่ไม่ใช่พี่น้องกันก็ตาม (อุ๊ป) แต่มันทำให้เรื่องเป๋ออกทะเลไปเลย – -”

สรุปเรื่องนี้เป็นหนังที่ดี ดูสนุกครับ แม้จะไม่ถึงขึ้นอิ่มเอมใจ สุขใจเหมือน Totoro หรือ Spirited Away ก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นการ์ตูนจิบลิที่ดูสนุก สนุกกว่าหนังการ์ตูนฝรั่งหลายๆ เรื่องเลย ผมว่าสนุกกว่า Brave อีกเอ้า

Blue Sky Resort @Ranong

หลังจากไป Blue Sky Resort ที่เกาะพยามมาแล้ว (อ่าน) ก็นั่งเรือกลับมาฝั่งระนองเพื่อที่จะไป Blue Sky Resort ต่อ ทางที่ไปงงมากครับ ผมหลับๆ ตื่นๆ จำทางไม่ได้หรอก ฮ่าๆ Resort นั้นอยู่ริมแม่น้ำกระบุรี ฝั่งตรงข้ามเป็นพม่า มือถือ AIS ก็จัดการโรมมิ่งไป cell site ฝั่งพม่าทันที แสรดดด


อีกฝั่งน่ะพม่า


Welcome Drink

ไปถึงก็เที่ยงพอดี (อีกแล้ว) อาหารกลางวันมีให้เลือกเป็น Set อาหารไทยหรือฝรั่ง ผมเลือกอาหารไทย ก็มาเป็นผัดไท รสชาติใช้ได้เลย

พวกอาหารฝรั่งก็เป็นแบบนี้

กินเสร็จก็ไปเก็บข้าวของ นอนพักผ่อนก็จะรีบออกมาไป City Tour ต่อตามโปรแกรมที่ซื้อไว้ มันคือพาไปเที่ยวเมืองระนองนั่นเอง ที่แรกไปบ่อน้ำพุร้อน เฉยๆ แต่แมวในร้านค้าน่ารักมาก


ไข่ลวกน้ำพุร้อน

Continue reading “Blue Sky Resort @Ranong”