สะพายกล้องเที่ยวจีนตอนที่ 2.1: สวัสดีตงชวน

ต่อจากตอนที่แล้ว ลุงแกขับรถพาเราลงมาเข้าเมืองฮุ่ยเจ๋ออีกรอบ เราก็นึกว่าจะเป็นทางผ่านไปเมืองหงตู้ตี้ แต่ปรากฏว่าแกขับมาจอดหน้าโรงแรมลุงเฉินซะงั้น พวกเราก็งงถามว่าไม่ไปหงตู้ตี้เหรอ แกบอกว่าเหมา 300 ก็เท่านี้แหละ ถ้าจะไปหงตู้ตี้ต้องบวกอีก 800 เพราะมันอ้อม เหี้ยล่ะะะะะะะะะะะะะ

kunming_day2_47
หมู่บ้านที่แวะระหว่างทาง

ลุงแกบอกว่าทางไปตรงๆ น่ะมันไม่มี มีแต่ทางหลวงที่มันอ้อม ไกลนะ (ทั้งหมดนี้คุยด้วยภาษามือ + แปลผ่าน google translate แบบง่อยๆ) พอถามว่าแล้วรถบัสมีป่าวแกก็บอกว่าหมิงเทียนคือแปลว่าพรุ่งนี้ พวกผมคุยกันแล้วรู้สึกว่าแม่งกะจะฟันพวกกูเกินไปหน่อยล่ะ ก็เลยจ่ายตังค์ 300 หยวนแล้วลงจากรถเลย ระหว่างที่คิดไม่ออกว่าจะเอายังไงดีก็ไปกินข้าวกลางวันกันก่อนครับ เป็นร้านบะหมี่เนื้อ เดาว่าเป็นร้านอิสลาม

kunming_day2_48

แล้วกินเสร็จก็ลองเดินไปถามที่สถานีรถบัสดูครับ ตอนเดินเข้าไปทางที่เราออกมาเมื่อวานก็เห็นลุงแกชี้ๆ อีกทางก็งงอยู่ แต่ก็คิดว่าแม่งจะหลอกกูอีกแล้วก็เลยเดินต่อ สุดท้ายก็รู้ว่าเราเดินออกมาผิดทาง ทางเข้ามันอยู่อีกด้านที่ลุงแกชี้นั่นแหละ เราก็เลยเดินผ่านเครื่องแสกนอะไรมาแบบงงๆ พอไปถามที่ขายตั๋วเขาก็บอกว่ารถไปหงตู้ตี้ไม่มี มีแต่รถไปตงชวนใน 10 นาทีนี้หรือไม่ก็พรุ่งนี้เช้าเลย (ลุงแม่งหลอกกูจริงๆ) ก็เลยเอาคันนี้แหละ (มีขอไปเข้าห้องน้ำแล้วห้องน้ำในสถานีปิด เขาพาไปเข้าห้องน้ำสำนักงานเลย) สภาพรถก็เก่าๆ โทรมๆ เลยล่ะ นั่งย้อนไปทางอ้อมๆ ยาวเลย

kunming_day2_50
จุดจอดรถระหว่างทาง

นั่งรถนานมากกก กว่าจะถึงเมืองตงชวน (东川区)ก็ตั้ง 5 โมง พอเข้าเมืองตงชวนปุ๊บก็รู้สึกได้ว่าเมืองมันเจริญกว่าฮุ่ยเจ๋อมากคือดูเป็นเมืองตึกสูงๆ แออัด คนเยอะๆ รถเยอะๆ พอลงจากรถปุ๊บก็ปรี่ไปถามคนขับว่าจะไปหงตู้ตี้ยังไง แกก็งงๆ แล้วเรียกผู้โดยสารอีกคนมาช่วย พี่คนที่มาช่วยก็พอจะพิมพ์ Pinyin ได้แต่เหมือนแกจะนึกไม่ออกว่าจะบอกยังไง สักพักแฟนแกกับลูกแกก็มารับแล้วก็ช่วยกันหาทางอธิบายให้กับเราสักพักใหญ่ๆ จนแฟนแกก็โทรไปหาเพื่อนที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษแล้วให้คุยกับเรา (คือเป็นล่ามนั่นเอง) สุดท้ายก็ได้ความว่าสถานีรถบัสไปหงตู้ตี้มันอยู่อีกสถานีเลย เด๋วคู่นี้จะขับรถพาเราไปส่งว่าเป็นที่ไหน \ w / เย้ๆๆๆๆๆ

เราก็เดินตามเขาไปขึ้นรถ แล้วก็นั่งออกไปอีกด้านของเมือง แล้วพี่ผู้หญิงก็จูงมือเราเข้าไปในสถานีเพื่อไปถามตารางรถเลย (มีรอบ 8.30, 12.30 และ 13.30) แล้วแกก็โทรหาเพื่อนแก (คนที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ) คุยกันสักพักแล้วเพื่อนแกก็บอกว่าเด๋วคู่นี้จะพาไปหาโรงแรมแถวๆ นั้นนะ เฮ้ยยยย ใจดีสุดยอดดดดดดดดดดดดด เขาก็ขับพาไปหาโรงแรม ซึ่งโรงแรมไหนก็ไม่รับเราเลยเพราะว่าเราป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เห็น passport มาก็ไม่รับล่ะ แถมยังถามอีกว่า Taiwan ใช่ไหม (อ้าว) เขาพาเราไปหาประมาณ 3 โรงแรมก็ไม่รับเราสักที่ จนเพื่อนเขาที่เป็นครูขับมอไซค์มาช่วยคุยก็ยังไม่รับ สุดท้ายเขาไปคุยจนโรงแรม 3 ดาว (คืนละ 280 หยวน) ที่นึงยอมให้เราพัก คือจังหวะนั้นซึ้งใจมากครับ ช่วยเราทุกอย่างเลยทั้งๆ ที่ไม่ใช่ธุระของเขา ทั้งคุยจนโรงแรมยอมให้เข้าพัก, แปลหน้าแรก passport เราเป็นภาษาจีนให้ reception โรงแรม, ต่อรองราคา ซึ้งใจสุดๆ แถมยังจะพาเราไปกินข้าวอีกซึ่งเราก็ได้แต่ปฏิเสธไป ก่อนจากกันผมขอให้เขาเขียนชื่อสถานีไปหงตู้ตี้เป็นภาษาจีนไว้ด้วยสำหรับเรียก taxi ครับ

kunming_day2_51
ในรูปพี่ใส่แว่นคือคนที่่ช่วยเราตั้งแต่ที่สถานีรถครับ ส่วนอีกคนคือคนที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ส่วนพี่ผู้หญิงกับลูกชายรออยู่ที่รถ เสียดายมากที่ไม่ได้ขอถ่ายรูปไว้
Continue reading “สะพายกล้องเที่ยวจีนตอนที่ 2.1: สวัสดีตงชวน”

สะพายกล้องเที่ยวจีนตอนที่ 2: พาเที่ยวทุ่งหญ้าฮุ่ยเจ๋อ

ต่อจากตอนที่แล้ว พวกเราตื่นกันแต่เช้า ล้างหน้า แปรงฟันโดยไม่ได้อาบน้ำเพราะมันหนาวมากแถมยังเสียเวลารอน้ำอุ่นอีกต่างหาก มองจากหน้าต่างโรงแรมออกไปเห็นสวนสาธารณะแล้วมีเหรียญกลมใหญ่ๆ อยู่คร่อมสะพานพอดี ก็ดูแปลกดีครับ

kunming_day2_1

เก็บของเสร็จก็ลงมา ลุงคนขับรถที่นัดแนะกันตั้งแต่เมื่อคืนมารออยู่แล้วพอดีก็ checkout แล้วขนของขึ้นรถแกเลย แกขับออกไปแล้วก็หันมาทำท่ากินข้าวแบบถามว่าจะกินข้าวไหมพวกเราก็บอกว่าโอเค แกก็ขับพาไปร้านบะหมี่ร้านนึง

kunming_day2_9

วิธีสั่งก็ง่ายๆ ร้านมีเมนูเป็นรูปใหญ่ๆ แล้วมีรหัสบอกอยู่ เราก็เดินไปชี้ๆ จ่ายเงิน รับคิวแล้วก็มานั่งรอที่โต๊ะ บนโต๊ะมีเครื่องปรุงอยู่ ก็พวกกระเทียม เกลือ ผักโรย ที่เด็ดสุดคือมีผงชูรสให้ใส่เพิ่มด้วยครับ -*-

kunming_day2_2

kunming_day2_7
ร้านมีนมถั่วเหลืองให้ซดฟรี

kunming_day2_6
แอบถ่ายครัวเขามา

รอสักพักบะหมี่ก็ทะยอยมาครับ ผมสั่งบะหมี่เห็ด ตอนแรกนึกว่ามีแต่เส้นกับเห็ดแต่ปรากฏว่ามีหมูสับซ่อนอยู่ข้างล่าง ก็มันๆ เลี่ยนๆ เผ็ดๆ ผมกินเส้นกับหมูหมด แต่ซดน้ำหมดไม่ไหวแฮะ เลี่ยนเกิ๊น อุปกรณ์การกินเขาให้มาแต่ตะเกียบนะครับ พอผมหยิบเอาช้อนกินนมถั่วเหลืองมาตักน้ำซดเท่านั้นแหละ หันมามองกันทั้งร้านเลย…

kunming_day2_8
บะหมี่เห็ดที่ผมสั่งครับ

กินเสร็จก็นั่งรถออกไปทุ่งหญ้าฮุ่ยเจ๋อ (Da Haichao Shan – หา link กับชื่อจีนไม่เจอจริงๆ ครับ) กันครับ มีวนไปสวนสาธารณะข้างๆ โรงแรมก่อนด้วยนิดนึง ก็นึกว่าแกจะจอดให้ลงไปดู แต่ที่ไหนได้แกขับเลยไปเลยแฮะ

kunming_day2_10
เมืองฮุ่ยเจ๋อยามเช้า

บนรถลุงแก (ซึ่งรถเหมาในจีนรวมถึง taxi ด้วย) มี GPS เสร็จสรรพแถมแกยังเปิด vdo สอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กวนไปวนมาอีกต่างหาก ตอนนั้นก็เลยได้คำจีนหลายคำเลย (ซึ่งก็ลืมในวันถัดไป) จากเมืองฮุ่ยเจ๋อไปทุ่งหญ้าฮุ่ยเจ๋อไกลพอดูครับ ขึ้นเขาเกือบตลอดทางเลยแถมหมอกยังลงจัดอีก

kunming_day2_11

แกขับรถยิงยาวไม่จอดแวะให้ถ่ายรูปเลยครับ (หรือเราไม่ได้บอกแกวะ) วิวข้างทางก็สวยมากๆ เป็นภูเขาอลังๆ สลับกับทุ่งนาขั้นบันได สักพักแกก็จอดแอบๆ ให้พวกเราจุดนึง พวกผมนี่ถ่ายรูปกันลืมตายเลย แม่งสวยจริงๆ

kunming_day2_13
ถ่ายแบบ pano มา

kunming_day2_12
Continue reading “สะพายกล้องเที่ยวจีนตอนที่ 2: พาเที่ยวทุ่งหญ้าฮุ่ยเจ๋อ”

สะพายกล้องเที่ยวเชียงใหม่: พาเที่ยวดอยปุย

ผมไปงานแต่งงานเพื่อน+เที่ยวเชียงใหม่มาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาครับ (entry สรุป) วันนี้ก็เพิ่งได้ฤกษ์เขียน blog เสียที รอบนี้ขี้เกียจเขียนแบบตอนละวัน (หรือหลายตอนต่อ 1 วัน) แต่จะเขียนแบบตอนละที่เที่ยวแทนก็ขอเริ่มด้วยการพาไปเที่ยวดอยปุยครับ

สำหรับการขึ้นดอยปุยนั้นผมเลือกที่จะไปขึ้นรถที่หน้า ม เชียงใหม่ครับ นั่งรถแดงจากท่าแพวันแรกเขาคิด 40 (มีจอดรถลงมาบอกว่าขอให้เหมา 150 ด้วย) วันที่สองอีกคันแม่งคิด 50 ซะงั้น ราคารถหน้า ม ถ้าเหมาไปกลับก็คนละ 110 ครับ เขาจะพาไปดอยปุยก่อนแล้วลงมาตำหนักภูพิงค์แล้วก็วัดพระธาตุดอยสุเทพตามลำดับ (ให้เวลาทีละ 1 ชั่วโมง) ถ้าไปดอยสุเทพอย่างเดียว 40 บาทต่อเที่ยว วันแรกผมก็เหมาแหละ (เขารอรถเต็มแล้วออก) แต่พอถึงพระตำหนักคนอื่นแม่งเปลี่ยนใจไม่เหมาแล้วซะงั้นผมเลยเหมาแค่พระตำหนัก-ดอยสุเทพในราคา 80 บาท (มั้ง)

P1330431
ทางเข้าหมู่บ้านม้งดอยปุย

วันที่สองผมขึ้นไปใหม่ รอบนี้กะไปแค่ดอยปุยก็เลยนั่งรถไปดอยสุเทพก่อน (ค่าขึ้น 50 บาท ฝรั่งเสือกยอมจ่ายแม่ง) แล้วกะยิงยาวเลย ปรากฏว่ารออยู่ 40 กว่านาทีกว่าจะได้รถ (มีฝรั่งมาเป็นคนขับรถวินด้วย!!) แถมไอ้คนที่ขึ้นไปด้วยก็เป็นคนที่ขึ้นมาด้วยกันจากท่าหน้า ม. นั่นแหละ (มันเที่ยวดอยสุเทพเสร็จแล้ว) สุดท้ายก็ได้ขึ้นไปดอยปุยสมใจครับ ระหว่างทางอากาศเย็นๆ หมอกลงหน่อยๆ กำลังสวยเลย ค่ารถขึ้นมาดอยปุยจากดอยสุเทพนี่ 60 บาทครับ

P1330434

20141025_125533
อร่อยดี

ขึ้นมาก็จะเป็นร้านค้าของชาวม้งตามรูปที่เห็นข้างบนครับ ทางเดินไปสวนน้ำตกดอยปุยก็ต้องเดินทะลุตลาดนี่ไปเลย ค่าเข้าสวนน้ำตกก็แค่ 10 บาทเอง ถูกมากๆ

P1330440

สำหรับสวนน้ำตกนี่ก็จะเป็นตรงแถวๆ หน้าผาก่อนถึงตัวหมู่บ้านที่ชาวม้งอยู่อาศัยกันจริงๆ ครับ มีสวนดอกไม้ น้ำตก (ไม่รู้ว่าของจริงรึเปล่า) อากาศหนาวๆ เห็นวิวภูเขา คือถ้าไปเที่ยวตำหนักภูพิงค์มาก่อนจะรู้สึกว่าดอกไม้ที่นี่สู้ไม่ได้ แต่ค่าเข้ามันก็ถูกแถมอากาศก็ดี (ตามโปรแกรมจริงๆ ต้องมาที่นี่ก่อนตำหนักด้วย) ผมก็คิดว่าโอเคเลย

P1330444

P1330446
สวนดอกไม้ตรงหน้าผา เดินขึ้นชมได้หลายชั้นเลย
Continue reading “สะพายกล้องเที่ยวเชียงใหม่: พาเที่ยวดอยปุย”