เมื่อวันที่ 26-28 ตุลาคมที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวประเทศสิงคโปร์กับที่บ้านมาครับ นับเป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของผมในรอบ 4-5 ปีเลยครับ(ครั้งสุดท้ายคือทริปหลวงพระบางตั้งแต่ปี 2019 โน่น) รวมถึงเป็นการเที่ยวต่างประเทศพร้อมอาการป่วยเรื้อรังของผมครั้งแรกเช่นกัน
ทริปนี้ขาไปพ่อกับแม่ผมไปก่อนตอนเช้าๆ ส่วนผมตามไปตอนเย็นๆ เพราะต้องไปโรงพยาบาลก่อน วันแรกเลยโดนหักไปแล้ววันนึง สรุปได้เที่ยวจริงๆ ก็วันครึ่งหรือสองวันนิดๆ ครับ
- วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม
- รักษาตัวตอนเช้าที่โรงพยาบาลเสร็จก็นั่ง taxi ไปสนามบินสุวรรณภูมิ
- นั่งการบินไทยรอบ 4 โมงเย็นไปสนามบิน Changi ประเทศสิงคโปร์ ถึงเวลาประมาณทุ่มครึ่ง
- เดินเล่นห้าง Jewel แป๊บนึง แล้วรีบนั่งรถไฟฟ้าไปย่าน Chinatown
- หาข้าวกิน พบว่า Hawker ปิดหมดแล้ว สุดท้ายเลยเข้าร้าน Old Chengdu แถวๆ นั้น อร่อยดี แต่ราคาคิดออกมาแรงกว่ากินที่สนามบินอีก ฟฟฟฟ
- เข้าพักที่โรงแรม 1900 จริงๆ ผมจองที่ Bliss Hotel ที่อยู่ใกล้ๆ กันแต่ว่าแอร์เขาเสียทั้งชั้น เขาเลยย้ายไปที่ 1900 ให้
- วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม
- กินข้าวเช้าที่ Chinatown Complex Food Centre
- เดินชม Buddha Tooth Relic Temple and Museum วันนั้นมีพิธีพอดี + เคยมาแล้วหลายรอบ เลยเดินตากแอร์แค่สองชั้นแรก
- ไปถ่ายรูปมุมมหาชนที่ Potato Head (เพิ่งได้ข่าวว่าเขาจะปิดเร็วๆ นี้ แง)
- ไปเดินดูชุมชนย่าน Marine Terrace จริงๆ ตั้งใจจะไปดูทะเล แต่เดินไปยังไงก็ไม่ถึงเลยหาข้าวกินแทน
- ย้อนกลับมาเดินตากแอร์ห้าง Marina Bay Sands เดินชมคลอง ชมวิวย่าน Marina Bay
- ตั้งใจจะเข้า ArtScience Museum แต่ค่าเข้าแพงมาก เทศกาล Ghibli ก็เต็ม Teamlab รอบก็หัวค่ำเลย
- เดินทะลุ Gardens By the Bay ไปกินลมชมวิวที่ Marina Barrage
- ย้อนกลับมา Raffles Place MRT เดินเล่นเลาะริมแม่น้ำสิงคโปร์ไปถึง Merlion Park
- ถ่ายรูป Merlion, Esplanade กับ Marina Bay Sands ตอนกลางคืน
- หาข้าวกินที่ Market Street Hawker Centre แต่ปิด เลยไปกินข้าวที่ห้าง Chinatown Point แล้วกลับไปนอน หมดพลัง
- วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม
- กินข้าวเช้าที่ Hong Lim Food Centre
- กลับไปโรงแรม เก็บของ checkout แล้วฝากกระเป๋าไว้
- ไปเดินเล่นกับ Shopping ย่าน Orhard shopping ทั้งของตัวเองกับของคนฝากซื้อที่ห้าง ION Orchard Takashimaya/Ngee Ann City, Lucky Plaza แล้วก็ Tangs
- กินข้าวกลางวันที่ food court Takashimaya
- กลับไปเอาของ แล้วไปสนามบิน เดินห้าง Jewel (เดินตั้งนานก็ไม่หมด ฮา)
- กินข้าวที่สนามบินนั่นแหละ
- นั่งการบินไทยกลับไทยพร้อมกันทั้งบ้าน
ปกติเวลาไปเที่ยวผมจะกินมันทุกอย่างแหลกเลย แต่ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ผมไปเที่ยวต่างประเทศหลังจากผมป่วยเรื้อรังก็เลยเป็นทริปที่ระมัดระวังการกินมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สุดท้ายก็พลาดไปหลายอย่างอยู่ดี อย่าง Honglim Food centre นี่ไม่มีอะไรที่ผมกินได้เลยดีกว่า หรืออาหารบนเครื่องที่ไม่ควรกินขาไปผมก็ซัดไปเต็มที่เพราะหิวมาก ก็ได้แต่จำเป็นบทเรียนไว้ เรื่องอากาศร้อนนี่ก็ทำใจไว้แล้ว พบว่าหาน้ำเย็นๆ กินยากมาก ไม่รู้ทำไมบ้านเขาไม่กินน้ำแข็งแบบบ้านเรา
นอกจากนี้ในภาพจำของผมคือสิงคโปร์เนี่ยมี Hawker มี street food ที่เปิดถึงดึกๆ มากี่โมงก็หาอาหารกินได้ แต่ปรากฏว่ามารอบนี้กลายเป็น Hawker ที่ตั้งใจว่าจะกินตอนกลางคืนกลายเป็นปิดแต่หัววัน อย่าง Chinatown ตอนกลางคืนก็เงียบลงไปมาก บอกได้ว่าเปลี่ยนแปลงไปเยอะจริงๆ
การใช้จ่ายที่สิงคโปร์ก็ง่ายขึ้นกว่ารอบปี 2019 มาก คือใช้เงินสดแค่ที่ Hawker แต่นอกนั้นใช้บัตรเดบิต travel card กับ credit card แปะได้หมดเลย ผมเอาไปทั้งบัตร YouTrip กับ SCB Planet ซึ่งใช้ได้ทั้งซื้อของ แปะเข้า MRT คือไม่ต้องซื้อบัตร Tourist Pass กับ EZ-Link แล้ว การเดินทางบ้านเขาก็สะดวก MRT ไปได้ครบทุกที สถานีก็มีทั้งลิพท์ ทั้งบันได ทั้งทางลาดให้เดินง่าย
ทริปนี้จริงๆ ตั้งใจจะไปชมย่าน Marina หลายที่เลย แต่มีนอกแผนก็เลยข้ามๆ ไป ไว้คราวหน้าละกัน
ที่ประทับใจที่สุดคงเป็นสนามบินและห้าง Jewel ของเขาครับ แก้ปัญหาที่เที่่ยววันไปและกลับได้ดีมาก คือนึกอะไรไม่ออกก็ไปสนามบินแล้วเดินห้างเลย มีร้านค้า ร้านอาหาร มีน้ำตกสวยๆ ให้ชม จะทำ Duty Free ก็ทำได้ที่นี่อีก
ที่เหนื่อยที่สุดคงเป็นเรื่องการจองโรงแรม คือตอนแรกจองกับ agoda แบบจ่ายเงินตรงให้โรงแรม พอถึงตอนจะจ่ายโรงแรมก็ส่ง link มาให้ทาง inbox ของ agoda ซึ่ง link ก็โดน remove เพราะเหตุผลด้านความปลอดภัย จ่ายไม่ได้ สรุปโทรติดต่อ CC agoda เขาประสานงานให้คุย mail ตรงให้ ก็จ่ายไป พอใกล้ๆ เขา mail มาบอกว่าระบบธนาคารที่โน่นมีบั๊ก ที่ผมจ่ายมันไปจ่ายเข้า UAT ไม่ใช่ Production เงินเลยไม่เข้า ซึ่งผมตรวจดูแล้วเงินก็ไม่โดนตัดจริงๆ ก็ตกลงกันว่าจะไปจ่ายที่โน่น แล้ววันก่อนจะไปมีเรื่องแอร์เสียทั้งชั้นจนเขาต้องพาไปพักโรงแรมอื่นแทนอีก เหนื่อยมากกกกกกกก
สรุปแล้วถึงจะเป็นทริปที่คุมอาหารตามที่ต้องการไม่ได้ แต่ก็สอนอะไรหลายๆ อย่างในเรื่องการท่องเที่ยวยามป่วยให้แก่ผมเป็นอย่างดี คิดว่าเป็นบทเรียนให้กับทริปต่อๆ ไปของผมได้ (เพราะไปได้แค่ประเทศใกล้ๆ นี่แหละ) สิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่เที่ยวได้ง่าย เดินทางสะดวกที่สุดสมกับเป็นประเทศที่เจริญที่สุดในย่านนี้ครับ