ขุนพันธ์ 1 + ขุนพันธ์ 2

เห็นหนังขุนพันธ์ 3 ใกล้จะเข้า ใน Netflix มีสองภาคแรกครบก็เลยลองดูแบบสองภาคติดกันเลยครับ พบว่าหนังน่าสนใจและมีศักยภาพดีเลย ก็เลยขอรีวิวสั้นๆ รวบเลยละกัน

ขุนพันธ์ 1 เล่าเรื่องราวช่วงต้นๆ ก่อนจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 “ร้อยตำรวจโท ขุนพันธรักษ์ราชเดช” (aka ขุนพันธ์) นายร้อยตำรวจฝีมือดีผู้เชี่ยวชาญคาถาอาคม เขาได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติภารกิจลับไปหาข้อมูลของ “อัลฮาวียะลู” จอมโจรชื่อดังแห่งภาคใต้ผู้มีคาถามอาคมร้ายกาจหนังเหนียวและจัดการเขาซะ เขาแฝงตัวไปอยู่กับหมู่บ้านชาวประมงและพบว่าปัญหาจริงมันเกี่ยวพันกับนักการเมืองและข้าราชการท้องถิ่นที่ร้ายแรงกว่าแค่มหาโจรมากครับ



จุดเด่นของหนังขุนพันธ์คือตัวหนังได้แรงบันดาลใจจากขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์) นายตำรวจชื่อดังที่มีตัวตนจริง เพียงแต่มันไม่ใช่หนังชีวประวัติท่านนะครับ แค่เอาชีวิตและผลงานของท่านมาเป็นแรงบันดาลใจสร้างหนัง super hero สัญชาติไทยเฉยๆ ซึ่งภาคแรกถือว่าสร้าง World Setting ได้ดีเลย มันชัดเจนเลยว่าโลกนี้คาถาอาคมเป็นใหญ่ เราโยนเหตุผลกับ Logic ทิ้งไปได้เลย (ฮา) วัดกันว่าใครเวทย์แเกร่งกว่า จิตแข็งกว่าหรือมีของดีอยู่กับตัวมากกว่า เรียกได้ว่าแค่ 30 นาทีแรกเราก็รู้ล่ะเราจะคาดหวังความกาวสะใจระดับไหน

นักแสดงภาคแรกก็เล่นดีครับ อย่างน้อย วงพรูที่แสดงเป็นอัลฮาวียะลูได้ร้ายสะใจมาก แต่ขณะเดียวกันก็เป็นวายร้ายที่มีมุมมองที่น่าสนใจและชีวิตที่น่าสงสารพอดู อีกคนนึงที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเดี่ยว ชูพงษ์กับบทเสือสังสมุนมือขวา เล่นได้เลวโดดเด่นโคตรๆ ลีลาบู๊สะใจสุดๆ ไปเลย ส่วนอนันดานั้นไม่ต้องคิดมาก แกเหมาะกับบทขุนพันธ์ดีครับไม่ว่าจะมาดเท่ๆ บทบาทที่ต้องแสดงอารมณ์ที่ขัดแย้งกัน หรือฉากต่อสู้ก็ทำได้ดี เรียกว่านักแสดงดีงามทุกคน

ข้อเสียคือภาคแรกคือทั้งๆ ที่นักแสดงดีกับ setting ทำออกมารองรับความบ้าสุดขั้วแล้ว แต่ก็ยังพยายามจะแทรกดราม่าสมจริงแปลกๆ เข้ามาเรื่อยๆ จนทำลายจังหวะการเดินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบเลย สรุปแล้วเป็นหนังที่มีศักยภาพแต่กลับไปไม่ถึงฝั่งเพราะความกาวไม่สุดของมันนี่แหละครับ

ขุนพันธ์ 2 เล่าเรื่องราวของขุนพันธ์ที่โดนบีบให้ออกจากราชการ จนตัดสินใจหนีไปไปเข้าร่วมโจรเสื้อเชิ็ตดำของกลุ่มเสือฝ้าย (พันเอก วันชนะ สวัสดี) และเสือใบ (อารักษ์ อมรศุภศิริ) หนึ่งในมหาโจรที่แผ่อิทธิพลเย้ยภาครัฐอยู่ในภาคกลางครับ ขุนพันธ์จะเปลี่ยนไปหรือไม่ และเสือจองขมังเวทย์ทั้งสามตัวจะอยู่ถ้ำเดียวกันได้มั้ย ต้องลองติดตามดู

ขุนพันธ์ 2 เป็นหนังที่พัฒนาจากภาคแรกไปทุกด้านครับ มันลงตัวขึ้นเยอะ ไม่มีการแทรกดราม่าสมจริงสลับไปมาทำลายจังหวะเรื่องอีกแล้ว การเดินเรื่องสนุก ลื่นไหลดีมาก ฉากต่อสู้สนุกเพราะมีผู้มีวิชาอาคมแปลกๆ มากขึ้น กาวสุดติ่งมากขึ้นแบบไม่ต้องความสมจริงอะไรแล้ว เนื้อเรื่องเข้มข้นเหมือนเดิม เนื้อหาประเด็นของเรื่องยังคนเน้นที่ความฉ้อฉลของผู้มีอำนาจที่บีบให้คนชายขอบต้องเป็นโจรครับ หนังภาคนี้เล่นเรื่องเส้นแบ่งของความดี ความชั่ว ความยุติธรรมได้ดี

นักแสดงภาคนี้เล่นดีสมตัวละครครับ ไม่ว่าจะเป็นพันเอกวันชนะกับบทเสือฝ้ายจอมขมังเวทย์ผู้เป็นผู้นำของเสือร้ายกลุ่มใหญ่สุดของภาคกลาง แกก็เล่นตามสไตล์แกได้ดี (ถือว่าพัฒนาขึ้นกว่าเรื่องก่อนๆ หน้าเยอะ) ส่วนเป้ อารักษ์นั้นฝีมือเชื่อถือได้อยู่แล้ว เขาเล่นเป็นเสือใบที่ต้องแสดงหลากอารมณ์ได้ดีมากๆ ครับ สำหรับอนันดาภาคนี้มีบทให้เขาได้แสดงบทบาทที่ต้องชั่งใจระหว่างหน้าที่กับความจริงที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้น (ไม่ขอใช้คำว่าความถูกต้องละกัน) เขาแสดงบทที่แสดงออกถึงความอีหลักอีเหลื่อในเรื่องได้ดีเลย

ข้อเสียของภาคนี้คือผมว่าตัวร้ายเทียบเสน่ห์ภาคแรกไม่ได้เลย (ภาคแรกนี่น้อยวงพรูแกเอาอยู่จริงๆ) โดยเฉพาะตัวผู้กองที่อยู่ๆ เปลี่ยนใจมาเชื่อเรื่องคาถามอาคมในชั่วข้ามคืนนี่มันทำใจให้เชื่อในตัวละครนี้ไม่ได้จริงๆ

สรุปแล้วขุนพันธ์ทั้ง 2 ภาคนั้นเป็นหนังที่ทำให้เห็นพัฒนาการหนังบู๊ series ขุนพันธ์ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มันกาว แต่สนุก ดูเป็นหนังไทยๆ ในบริบทของไทยดี ที่น่าสนใจคือหนังจงใจใส่ชุดความคิดความเชื่อในวีรบุรุษใส่เราแบบโต้งๆ เลยทั้งสองภาค (งานเก่าๆ ของพี่แกผมไม่เห็นยัดมาแบบนี้) ซึ่งเราก็รู้กันดีว่าชุดความคิดคาดหวังในตัวบุคคลนั้นแหละตัวสร้างให้เกิดปัญหาระยะยาว แถมยังเนียนใส่โฆษณาเข้ามาได้อีก ยอมใจฮะ

ตอนนี้ขุนพันธ์ทั้ง 2 ภาคมีฉายใน Netflix (ภาค 1 ภาค 2) แนะนำให้ลองดูกัน สนุกกว่าที่คิดครับ

Link:
“ขุนพันธ์” พูดถึง “อะแวสะดอตาเละ” ขุนโจร (การเมือง) ชาวมุสลิมจอมขมังเวทย์

One thought on “ขุนพันธ์ 1 + ขุนพันธ์ 2

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.