สะพายกล้องเที่ยวทิพย์ยุโรป: ตอนที่ 10 พาเดินเล่นย่าน Montmartre

ห่างหายไปนาน 1 เดือนเต็มๆ วันนี้มาต่อจากตอนที่แล้วนะครับ เช้านั้นพวกเราไปเดินเล่นย่าน Montmartre (มงมาทร์) โดยจุดมุ่งหมายหลักคือ Sacré-Cœur Basilica (Basilica of the Sacred Heart of Paris – มหาวิหารพระหฤทัยแห่งมงมาทร์) ที่อยู่บนยอดเนิน (จริงๆ มันคือภูเขา) พอดี

มาถึงเจอร้านนี้ก่อนเลย มีทัวร์มาจอดรถให้ลูกทัวร์ถ่ายรูปด้วย

ย่านนี้ก็จะออกแนวคนรวย ฮิปๆ หรูๆ หน่อยครับ มีร้านค้ากับตึกสวยๆ เพียบ

ขนาด Graffiti ยังสวยเลย

จุดมุ่งหมายอีกอย่างของพวกเราที่ย่านนี้คือร้าน Café des 2 Moulins ที่ใช้ถ่ายหนังเรื่อง Amélie ครับ ตัวผมเองไม่เคยดูหนังเรื่องนี้หรอกแต่รู้ว่าดังและดีมากๆ ตัวร้านเองก็เป็น landmark สำคัญของย่านนี้ คนมาถ่ายรูปหน้าร้านเพียบ ส่วนในร้านก็มีคนพอประมาณ ไม่แน่นมาก

ก็นั่งกินอะไรกันเบาๆ ในร้าน ไม่ได้จดมาว่าเป็นยังไง แต่คิดว่าคงโอเคอยู่เพราะไม่ได้บ่นอะไรกัน ด้านในร้านก็แต่งรับกับหนังเต็มที่ครับ ถ่ายรูปได้

กาแฟ อร่อยๆ

ไข่ดาวสามฟอง อลัง!!!

กินเติมพลังกันเสร็จก็ออกเดินทางต่อ ยิ่งเดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ บ้านเรือนและตึกต่างๆ ก็ยิ่งสวยครับ มีร้าน มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากๆ

ด้านนอกสวย

ร้านนี้ก็สวย

เนินชันอยู่ครับ แต่ว่าดูวิวดูอาคารสวยๆ บ้านเขาแล้วหายเหนื่อย

มียันกังหัน

หรืออะไรแบบนี้

ยิ่งใกล้มหาวิหาร Sacré-Cœur คนยิ่งเยอะครับ เดินเบียดเสียดกันเลย (ต้องระวังกระเป๋าหน่อย) ร้านขายของที่ระลึกก็เยอะเช่นกัน

ทุกอย่างน่าถ่ายรูปเสียทั้งหมด

กุญแจล็อคตามมาจากเกาหลี!!!

คิวเข้าไปในมหาวิหารยาวมาก แถวขดไปขดมาหลายรอบเพราะต้องตรวจเข้มกันหน่อยครับ ยิ่งวันนี้มีพิธีด้วยคนยิ่งเยอะ แต่โชคดีที่แถวไหลไวอยู่

ระหว่างรอก็หันมาถ่ายมหาวิหาร Sacré-Cœur ครับ วิหารนี้เป็นวิหารที่สร้างมาตั้งแต่ปี 1875 (เสร็จ 1914) เลยดูใหม่หน่อยเมื่อเทียบกับวิหารอื่นๆ ซึ่งก็ทำให้สภาพยังดีและสวยงามอยู่ครับ

เข้ามาด้านในก็สวยงาม อลังการ คนเยอะด้วยครับ

มุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก ชอบๆ

สถาปัตยกรรมถึงจะใหม่หน่อย (ไม่ระดับศตวรรษที่ 12) แต่ก็สวยงามครับ

เดินเล่นในวิหารจนหายอยากแล้วก็ออกมาชมวิวข้างนอก เห็นเมือง Paris สวยๆ จากด้านบนมุมกว้างเลยครับ คนเยอะกว่าในวิหารอีก ตรงนี้จะมีคนเดินมาขายของหรือมาให้เซ็นอะไรบางอย่าง อันนี้มีคนบอกให้ระวังเพราะว่าจริงๆ แล้วเป็นพวกมิจฉาชีพฉวยจังหวะล้วงหรือกรีดกระเป๋าเราครับ แถวนี้แม่งเยอะด้วย ผมก็เอามือซุกกระเป๋าจับของไว้ตลอดเลย

คนเยอะขนาด

ขากลับผมกับเพื่อนลองนั่งรถรางลงไปดู ระหว่างรอก็มีก๊วนนึงมาชวนคุยบอกให้ไปซื้อตั๋วรถรางกับให้เซ็นอะไรบางอย่าง พวกผมก็ไม่ตอบอะไรเอามือล้วงกระเป๋าแน่นเชียว จนพวกนี้ถอยไป แล้วเจ้าหน้าที่ขายตั๋วรถ Cable car ถึงมาบอกว่าให้ระวังโดนล้วงกระเป๋านะ ก็เป็นประสบการณ์เฉียดที่สุดในทริปนั้นแล้วล่ะครับ