ต่อจากตอนที่แล้ว วันนี้จะพาไป N Seoul Tower (N서울타워) กับ Seoul Sky จุดชมวิวที่สูงที่สุดในเกาหลีใต้และอันดับสามของโลกกัน แต่ตอนเช้าขอแวะไปทำธุระที่ย่าน Shinchon
วันนั้นแดดดีมาก อากาศก็ดี ก็มีคนมานอนอาบแดดแบบนี้แหละ
เติมพลังด้วยข้าวห่อไข่สูตรเกาหลี
Shinchon เป็นย่านวัยรุ่น+ผับ บาร์ ร้านอาหารแนวๆ เดียวกับย่านฮงแดครับ แต่ว่าดูสะอาดดูปลอดภัย ดิบน้อยกว่าฮงแดเยอะ วันที่ไปมีงานดอกไม้อะไรสักอย่างพอดี แต่บู๊ทยังจัดไม่เสร็จซะงั้น
Landmark ของย่าน Shinchon ก็เจ้าท่อแดงๆ นี่แหละ
พอทำธุระเสร็จก็ไปขึ้น N Seoul Tower ครับ คือเจ้า N Seoul Tower ผมเคยมาแล้วครั้งนึงกะขึ้นกระเช้าไปช่วงเย็นๆ ประมาณ Blue Hour แต่เจอคิว 90 นาทีขึ้นไปเลยต้องถอย ไม่กล้าเดินขึ้นตอนกลางคืนช่วงอากาศหนาวๆ ด้วย วันนั้นอากาศดีก็ขอวัดดวงอีกรอบละกัน ผมใช้วิธีนั่งรถไฟฟ้าไปย่าน Myeongdong (명동) แล้วลงเดินจากเมียงดงไปสถานีรถนัมซานเคเบิลคาร์ (Namsan Cable Car หรือ 남산 케이블카 เอาครับ ก็หาอะไรกินแถวๆ เมียงดงด้วย
รอรถเมล์
คนโคตรเยอะ
สำหรับวิธีขึ้นโซลทาวเวอร์โดยเคเบิ้ลคาร์ จะใช้เวลาเดินประมาณ 10 -15 นาที ก็เดินไปตามนี้ครับ
- โดยต้องนั่งรถไฟใต้ดินสายสีฟ้า (line 4) มาลงสถานี Myeong-dong ออก Exit 3
- จากนั้นเลี้ยวขวาตรง 7-11
- เดินตรงไปจะเจอโรงแรม Pacific Hotel เลี้ยวขวา(เดินเบี่ยงด้านขวาของโรงแรม)
- แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ จะผ่านนัมซานเกสเฮ้าส์
- และเดินไปอีกนิดจะเจอ บ.บางกอกคาร์โก้ (ป้ายสีเขียวๆอยู่ทางซ้ายมือ)
- จากนั้นจะเจอแยก ให้เดินตรงไปแล้วเบี่ยงขวา
- แล้วเดินตรงขึ้นเนินตรงไปเรื่อยๆ ตามทาง ประมาณ 5 นาที จะเจอทางบรรไดไม้ ทางสถานีขึ้นเคเบิ้ลคาร์
อาจจะดูงงๆ หน่อย แต่เอาเข้าจริงเดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ก็ถึงครับ ไม่ยากหรอก แต่พอมาถึงสถานีเคเบิ้ลคาร์ปุ๊บคิวยาวสาดดดดดดดดดดดดดดดดด ไหนๆ ก็ไหนๆ อากาศดีขนาดนี้ ผมเลยตัดสินใจเดินขึ้นเอาแล้วกัน!! (จริงๆ มีน้องในทริปเดินนำขึ้นไปแล้ว ฮาา) ทางขึ้นทีแรกจะงงๆ หน่อยเพราะว่าภูเขามันใหญ่และมีที่ให้ไปเยอะมาก งงระหว่างทางขึ้น Tower กับ Namsan Park – Seoul (남산공원(서울)) แต่พอเริ่มเป็นทางชันๆ ก็สบายล่ะครับ ภูเขามันสูงอยู่ แต่ว่าเดินไม่เหนื่อยมากเพราะว่าบันไดทำสโลปดี มีจุดให้พักและเติมน้ำดื่มเยอะ มีจุดที่เป็นทางราบก็เยอะ ทางเดินดีกว่าElephant Mountain ที่ไต้หวันมากๆ ผมเดินแบบเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักจิบน้ำแล้วเดินต่อ ไม่โหดเท่าไหร่ครับ
ขึ้นมาข้างบนมีงานแสดงพอดี ตัว Tower มีที่ให้เดิน ให้ shopping และถ่ายรูปเยอะมากๆ สุดท้ายผมก็ไม่ได้ขึ้น Tower อีกเช่นกันเพราะคิวแม่งยาวสัดๆ แต่ได้เดินขึ้นมาข้างบน ได้เดินถ่ายรูปวิวสวยๆ บนนี้ก็ฟินแล้วครับ
ขาลงผมกับเพื่อนลงมาอีกทางครับ ทางลงเดินง่ายๆ ไม่เหนื่อยมาก ผ่านสวนสาธารณะด้วย มีคนมาเดินเล่นกันพอสมควรเหมือนกัน พอลงมาสุดถึงได้รู้ว่าอยู่ใกล้ๆ ที่พักกับ Seoul Station เลย
ข้างบนสูงมาก เห็นวิว Seoul รอบเลย
กลับถึงที่พักพวกเราก็พักผ่อนกันแป๊บนึง พอหายเหนื่อยก็นั่งรถ subway ไป Lotte World Tower (롯데월드타워) ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดของเกาหลีใต้และอันดับ 5 ของโลกครับ สูงขนาดนี้พวกเราจะไปขึ้น Seoul Sky ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในเกาหลีใต้และอันดับ 3 ของโลกที่ตึก Lotte World กัน ค่าขึ้น Seoul Sky อยู่ที่ 27000 วอน ดูจะสูงอยู่สักหน่อยและต้องขึ้นตามเวลาที่กำหนดด้วยครับ แต่ว่าเราจะอยู่ข้างบนนานเท่าไหร่ก็ได้ ก็แนะนำให้ขึ้นไปช่วงเย็นๆ ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นแล้วอยู่ดูพระอาทิตย์ตกเลยครับ วิวสวยมากกก คุ้มสุดๆ
ที่เห็นนั่นน่ะเงาของ Lotte World Tower ครับ
ตัว Seoul Sky จะมีอยู่ 3 ชั้นด้วยกัน มีทั้งจุดที่เรียกว่า Sky Terrace ที่เป็นระเบียงยื่นออกไป (มีที่กั้นนะ แต่ด้านบนไม่มีหลังคา) ให้เราได้ออกไปชมวิวพร้อมสัมผัสลมแรงๆ ที่ความสูงระดับนั้น (หนาวมาก บอกเลย) รวมไปถึงโซน Sky Deck ที่เป็นพื้นใสๆ ให้เราขึ้นไปเหยียบแล้วถ่ายรูปพร้อมกับวิวโลกเบื้องล่างครับ (โคตรน่ากลัว บอกเลย) แต่ต้องบอกตรงๆ ว่าช่วงที่พระอาทิตย์ยังไม่ตกนั้นไม่สวยเท่าไหร่ ฟ้าสีมัวๆ ชอบกล รอไปจนถึงพระอาทิตย์ตกก็ยังไม่สวยเพราะว่าแสงมันแรงมากๆ จนขาวไปหมด แต่พออดทนรอจนถึงช่วงฟ้ามืดนิดๆ จนเป็นสีน้ำเงินที่เรียกว่า Blue hour และเมืองเบื้องล่างเริ่มเปิดไฟแล้วสวยมากๆ ครับ คุ้มค่าแก่การรอและราคาที่จ่ายไป
ที่เห็นนั่นคือ Olympic Park ที่กำลังมีคอนน้องแทอยู่
ลิพท์ขึ้นและลง มีกิมมิคเล็กน้อย ขึ้นลงไวดีครับ
พอลงมาพวกเราก็นั่งรถ subway ไปหาอะไรกินย่าน Konkuk University Station (건대입구역) เพราะเป็นย่านที่ร้านอาหารและร้านเหล้าเยอะมากๆ ราคาไม่แพงสมเป็นย่านมหาวิทยาลัย ส่วนบน Seoul Sky ก็มีของกินแหละ แต่แพงสาดๆๆๆ
ตอนแรกจะหาร้านที่เป็นบุฟเฟ่ แต่หาไม่เจอ ก็เลยไปกินร้านหมูเกาหลีร้านที่ดูน่ากินที่สุดแทน ไม่ผิดหวังครับ อร่อย อิ่ม หมดไป 15000 วอน
ขากลับแถวๆ หน้าที่พัก เห็นมีกองถ่ายละคร (คิดว่ากะเอาวิวที่เห็น N Seoul Tower) ผมเดินผ่านๆ ไม่เห็นคนที่ดูเป็นดาราสักเท่าไหร่ แต่น้องที่กลับมาก่อนและผ่านกองถ่ายบอกว่าพระเอกเป็นพระรอง Descendants of the Sun ครับ
ก็ขอจบตอนนี้ไว้เท่านี้นะครับ ก็หายอยากกันไปกับ N Seoul Tower ที่พลาดมา 2 รอบก่อนหน้ากับ Seoul Sky ที่ได้ขึ้นสมใจแล้ว ตอนนี้ Landmark แทบจะไม่เหลืออะไรใน Seoul ที่ค้างคาใจล่ะ รอบหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายของทริปโซลปี 2017 ละครับ
One thought on “สะพายกล้องเที่ยว Seoul-Persona 2017 #4: พาไต่ N Seoul Tower กับ Seoul Sky จุดชมวิวที่สูงที่สุดในเกาหลีใต้”