Seoul Station

Seoul Station (서울역) เป็นภาพยนต์อนิเมชั่นที่เป็นเรื่องก่อนหน้าของ Train To Busan (รีวิว) โดยตอนแรกผู้กำกับ Yeon Sang-ho แกสร้าง Seoul Station ก่อน แล้วค่ายชอบเลยบอกให้สร้างหนังคนแสดง แกก็เลยสร้าง Train To Busan ออกมาเป็นภาคต่อแต่ฉายก่อนแทน

ถ้า Train To Busan (T2B) คือหนังแอ็คชั่นซอมบี้สุดมันส์ว่าด้วยเรื่องการหนีเอาตัวรอดของชนชั้นกลางและคนรวยบนพื้นที่ปิดละก็ Seoul Station (SS) ก็เป็นหนังซอมบี้โคตรดราม่าที่เล่าเรื่องราวของชนชายขอบและชนชั้นล่างที่หนีเอาตัวรอดจากวิกฤติซอมบี้ในเมืองใหญ่ที่ทุกคนรังเกียจพวกเขาครับ

Seoul Station นั้นเล่าเรื่องราวที่เป็นคนละธีมกับ T2B ชัดเจน คือไม่ได้เน้นแอคชั่นอะไร, ไม่มีดราม่าเรื่องการเอาตัวรอด vs เห็นแก่ตัว, ไม่มีตัวร้ายหลักของเรื่องด้วยซ้ำ เพราะว่ามันตั้งคำถาม (และตบหน้า) ในสเกลที่ใหญ่กว่านั้นมากทั้งเรื่องความแตกต่างระหว่างชนชั้น, การเหยียดชนชั้นทั้งของสังคมและของรัฐและวิธีการรับมือปัญหาของรัฐ ซึ่งเอาเข้าจริงถ้าเปลี่ยนจากซอมบี้เป็นปัญหาหรือภัยพิบัติอื่น พวกเขาก็ยังประสบชะตากรรมเดียวกันนี่แหละ วายร้ายตัวจริงของเรื่องก็คือทุกอย่างที่ถีบไสไล่ส่งพวกเขาไปอยู่จุดนั้นจนไม่มีแม้กระทั่งทางเลือกในการเอาตัวรอดจากซอมบี้แม้จะอยู่ในเมืองใหญ่ ไม่เหมือนกับตัวละครใน T2B

ถ้าเทียบกับ T2B แล้วเรื่องนี้ไม่ได้ดูมันลุ้นระทึกเท่าไหร่นัก แต่ก็ได้ความเป็นดราม่าจัดๆ ที่คาดเดาไม่ได้ (แนวตระกูล 28) มาแทน ซึ่งผมมองว่า Seoul Station มันเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ทั้งสองเรื่องเลยมากกว่า ส่วนตัวแล้วผมชอบเรื่องนี้นะครับ ข้อเสียก็มีบางอย่างงานภาพหยาบกว่าอนิเมฝั่งญี่ปุ่นชัดเจนรวมไปถึงจุดหักมุมที่ดูไม่ทรงพลังเท่าไหร่ (แต่ก็จบได้สมบูรณ์แบบดี)

ป.ล.
– ดูพากษ์ไทยครับ พบว่าทีมพันธมิตรพากษ์โอเค ไม่หลุดตลกออกมาเท่าไหร่

Spoil!!!!

สิ่งที่ตอกย้ำเรื่องความต่างของโอกาสของแต่ละชนชั้นคือขณะที่ชนชั้นกลาง-สูงใน Train To Busan มีคนรอด แต่คนชายขอบใน Seoul Station นั้นไม่รอดสักคน