iPhone 5s mini review

ช่วงเดือนที่แล้วเจ้า Note II ของผมมันรวนจนแทบใช้ไม่ได้ เลยมีโอกาสได้ยืม iPhone 5s (32gb) ของเพื่อนมาใช้ประมาณเกือบๆ 1 เดือน ซึ่งก็นำไปใช้ทั้งชีวิตประจำวันและเที่ยวญี่ปุ่น ก็เลยอยากแชร์ประสบการณ์ใช้ iPhone จากคนที่เคยใช้แต่มือถือ Android ดูบ้างครับ

การย้ายมา iPhone ของผมนั้นง่ายกว่าที่คิดเพราะว่าผมมี iPad mini อยู่แล้ว ก็เลยอยู่ใน ecosystem ของทั้ง Apple และ Google ทำให้ย้ายง่ายมาก จะมีแค่การย้ายพวก two-factor authen ทั้งหลายที่ต้องไปปิดแล้วเปิดมันใหม่กับต้องไปตัดซิมให้เป็น nano sim แค่นั้น

สิ่งที่ชอบ:

  • กล้องดีมาก ถ่ายสนุกจริง เป็นสิ่งที่ชอบที่สุดแล้วของ iPhone , file ภาพที่ได้ก็ดีจนขี้เกียจหยิบกล้องมาถ่ายเลย โฟกัสก็ไว ไม่วืดวาด วัดแสงก็แม่น
    กล้องอื่นถ่ายหมาตัวเองไม่ค่อยทันนะ – รูปนี้ปรับแสงทีหลังนิดหน่อย


    กลางคืนก็ใช้ได้

  • งานประกอบดีมากๆ เนี๊ยบสุดๆ
  • การ update OS ที่เร็วและทั่วถึงชนิดมือถือ Android ตระกูล Nexus ยังสู้ไม่ได้เลย
  • Copy รูปจากมือถือลงคอมง่ายครับ เสียบสาย lighting ปุ๊บก็ขึ้นมาแต่ folder รูปเลย ไม่เหมือน Android ที่ขึ้น Folder ทุกตัวมาให้กดยังกะเข้า C:\Windows ที่งงว่า folder ไหนมันคืออะไร
  • แบตชาร์จไวดี แป๊บเดียวก็เต็ม

แน่นอนว่ามีสิ่งที่ชอบแล้วก็ต้องมีสิ่งที่ไม่ชอบ หลายๆ อย่างเป็นสิ่งที่หงุดหงิดเพราะ iOS มาตั้งแต่ตอนใช้ iPad ซึ่งก็สืบทอดมาสู่การใช้ iPhone นี้ด้วย

  • Keyboard ภาษาไทยนี่ถือว่าห่วยเข้าขั้นระยำ คือจอแม่งเล็กสัด ปุ่มก็เล็ก กดยากฉิบหาย เป็นสิ่งที่หงุดหงิดที่สุดแล้วตลอดระยะเวลาที่ยืมเพื่อนมา คิดว่าพอเป็น iPhone 6 แล้วมันน่าจะดีขึ้นเพราะจอใหญ่ขึ้น
  • รูปทุกรูปที่ถ่ายหรือใช้ instagram แต่งมามันลงไปอยู่ใน folder เดียวกันหมด ไม่แยก folder แบบ android พอตอน up ลงคอมนี่ลำบากเลยว่ารูปไหนมันมาจาก app ไหม
  • ไม่มี short cut ให้ปิดเปิด Cellular Data อยู่ในหน้ารวม shortcut เลย เอาข้างๆ wifi ก็ได้ (อันนี้ติดมาจาก Android) คือผมเป็นคนที่ไม่ได้เปิด Cellular Data ตลอดเวลา จะปิดหรือเปิดทีต้องเข้า Settings –> Cellular Data –> เปิด/ปิด
    อยากให้มันอยู่ตรงนี้
  • แบตหมดไวมากกกกกกกกก คือแบตมันน้อยไงมันเลยไหลเป็นน้ำเลย มันชาร์จไวจริงแต่นี่เล่นเนตไปถ่ายรูปไปนี่หมดวันนึงสองรอบเลยนะ !!!
  • หลายๆ คนบอกว่ามันลื่นหัวแตก แต่ผมใช้จริงแล้วรู้สึกว่าไอ้พวกปุ่มเล็กๆ ของเกือบทุก app มันไม่กดไม่ค่อยติดนะ – –
  • อันนี้เป็นของเสียของ พวก app ที่มี auto upload รูปอย่าง Google Photo, Dropbox, OneDrive ครับ แม่งต้องมากดเปิดให้ app มัน active อยู่ตลอด ถึงจะ upload รูปได้ ส่วน android แค่เสียบ wifi มันก็ upload เงียบๆ อยู่ใน backgroud แล้ว แม่ง
  • เอารูปออกจาก iPhone ง่ายแต่จะเอา file จากคอมเข้า iPhone นี่ยากล่ะ
  • กล้องวัดแสงแม่นมาก แต่ถ้าเกิดอยากจะให้มันมืดหรือสว่างกว่าที่มันไว้ได้นี่ปรับ exposure ยากใช้ได้ จะลากขึ้นหรือลงรู้สึกว่ามันไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ มาปรับใน app เอาง่ายกว่า


รูปนี้ปรับแสงทีหลังนิดหน่อย

สรุปแล้วสิ่งที่ผมประทับใจ iPhone 5s มากที่สุดก็คือกล้องมันนี่แหละครับ หวังผลได้ ใช้งานสนุก เหมาะกับการถ่ายรูปทุกแบบเลย ใช้ๆ ไปแล้วก็อดคิดในใจไม่ได้ว่าถ้าเป็น iPhone 6s(+) มันจะเยี่ยมไปกว่านี้ขนาดไหน รองลงมาคือ Ecosystem ที่การันตีการ update อันทั่วถึงและแสนจะไวของมัน แค่สองอย่างนี้ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถ้าไม่ใช่ iPhone ก็ไม่ใช้ iPhone

ป.ล.
1. เท่าที่ใช้ๆ ไปแล้วรู้สึกว่า iOS นี่เป็น OS ที่เหมาะกับ iPad มากกว่า iPhone นะ :p
2. เกือบทุกรูปปรับแค่ย่อขนาดกับ sharpen ครับ มีแค่สองรูปที่ปรับแสงนิดหน่อย

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.