ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ พออกจากพิพิธภัณฑ์ เราก็ไป Nagasaki Peace Park กันต่อ สวนสันติภาพนี่อยู่เลย Atomic Bomb Hypocenter ไปครับ เดินไปพอเห็นเนินที่มีทางขึ้นที่มีทั้งบันไดและบันไดเลื่อนก็ใช่เลย
เนินนี้เคยเป็นที่ตั้งของคุกเก่า แต่หลังผ่านเหตุการณ์ทิ้งระเบิด ก็เปลี่ยนเป็นสวนสันติภาพเพื่อแสดงให้รู้ว่าโลกไม่ต้องการเหตุการณ์แบบนั้นอีกครับ ด้านบนสุดของเนินมีรูปปั้นตามรูปด้านบนอยู่ เป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ มือขวาที่ชี้ขึ้นบนสื่อถึงภัยร้ายจากระเบิดปรมานู ส่วนมือซ้ายที่กางออกสื่อถึงสันติภาพ
น้องๆ ที่มาทัศนศึกษาขึ้นมาถึงข้างบนแล้ว
ด้านบนยังมีรูปปั้นและงานประติมากรรมแสดงถึงสันติภาพจากประเทศอื่นๆ ด้วยครับ จริงๆ ด้านหน้ามีน้ำพุสวยมากๆ แต่ว่าผมถ่ายรูปมากากสุดๆ เลยไม่ได้เอามาลง ;___;
อยู่บนนั้นสักพักก็เดินลงมาขึ้นรถที่สถานีรถราง Matsuyamamachi ที่อยู่ขนาดไปกับถนนใหญ่ (มีป้ายบอกทางชัดเจน) เพื่อไปกินข้าวกลางวันที่ Nagasaki Chinatown ครับ
China Town อยู่ตรงสถานี Tsuki-machi ครับ ซึ่งเป็นคนละเส้นกับรถไฟที่มาจากทางสวนสันติภาพ เราต้องไปเปลี่ยนรถที่สถานี Kokaido-mae ก่อน พอลงที่ Tsuki-machi ก็เดินตามคลองประปา (มองดีๆ จะเห็นปลาคาร์ป!!!) ไปเรื่อยๆ เห็นประตูจีนๆ ก็แสดงว่าถึงแล้ว
แม้ว่าชื่อจะเป็น Chinatown แต่อย่าคิดว่าจะอลังแบบเยาวราชบ้านเรานะฮะ คือมันก็แค่ถนนไม่กี่บล็อคพร้อมตกแต่งแบบจีนๆ ร้านอาหารจีนนิดๆ หน่อยแค่นั้นแหละ – -” บ้านเรายังดูจีนกว่าเลย แต่เหตุที่มาคือเพื่อมากินจัมปงร้าน Kouzanrou (江山楼) ตามลายแทงลุง @pittaya ครับ
แล้วก็เดินกลับไปสถานี Tsuki-machi เพราะที่นี่มันไม่มีแมวน้ำอะไรเลยจริงๆ
ปลาคาร์ปหน้าร้านอาหาร ก็ไม่จีนนะ
อันนี้ขายกันหลายร้านมาก เหมือนแป้งซาลาเปาห่อหมูสามชั้น แต่ผมอิ่มเลยไม่ได้ลอง
จริงๆ ตรงสถานี Tsuki-machi เดินข้ามไปอีกฝั่งจะเป็นที่เที่ยวอีกที่ชื่อ Dejima Wharf ครับ แต่ว่าผมไม่ได้ขึ้นไป ผมนั่งรถรางไป Nigiwaibashi เพื่อไปดูสะพานแว่นตา Meganebashi (眼鏡橋) ต่อ
สะพานนี่แหละ เดินจากสถานีรถรางนิดนึง
ตามมุมวันนั้นถ้าผมลงไปถ่ายข้างล่างจะเห็นเป็นแว่นตาชัดกว่านี้อีกครับ แต่ว่าเพราะฝนมันตก น้ำมันเลยขึ้นสูงจนจุดนั้นลงไปไม่ได้ก็เลยไม่ได้ลง – -” มาที่นี่ก็เจอเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษา มาเดินเล่นกันเพียบเลย (มีเด็กขอให้ถ่ายรูปด้วย :p)
แล้วผมก็ไป Glover Garden ต่อ ทางที่ใกล้ที่สุดคือไปลงสถานีรถราง Ishibasi ที่อยู่สุดสาย 5 แต่ว่าผมจะเดิน Ducth Slope ไปก็เลยไปลงที่ Ouratenshudo-shita แทน
Holland Slope หรือที่เรียกว่า Ducth Slope เป็นทางเดินโบราณผ่านย่านที่พักของชาวดัทช์ในสมัยโบราณครับ ระหว่างทางจะมีอาคารตะวันตกเก่าๆ กำแพงหินสวยๆ ให้ชม ซึ่งกว่าจะหาเจอนี่ลำบากมากเพราะป้ายบอกทางค่อนข้างแย่เลยล่ะ – –
อาคารเก่าๆ บางหลังเปิดให้เข้าชมด้วยนะครับ เช่นบ้านนี้ ผมก็แวะเข้าไปดู เช่นบ้านหลังนี้
เดินชมบ้านชมตึกไปเรื่อยๆ (ไกลอยู่นะ) ก็จะมาถึงทางขึ้น Glover Garden ที่เป็นบ้านพักของคนต่างชาติที่มาทำธุรกิจที่ญี่ปุ่นในสมัยโบราณล่ะครับ เห็นแบบในรูปนี้ก็ใช่เลย
ขึ้นมาถึงก็จะมีป้ายบอกทางเล็กๆ ให้เดินตามไป มีจุดชมวิวเมืองนางาซากิจากมุมสูงด้วย
ตรงใกล้ๆ จุดชมวิว เจอแมวฝูงใหญ่มากกำลังนั่งๆ นอนๆ น่ารักอยู่ ผมถ่ายรูปแมวอยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงตะโกนมาว่า “เนโกะะะะ คาวาอี้อออออ” แล้วสาวๆ ในชุดนักเรียนก็วิ่งมาถล่มแมวจนแมวแตกทั้งฝูง … แม่ม
เดินจากฝูงแมวมาอย่างเสียดาย ขึ้นบันไดแล้วอ้อมไปอ้อมมาก็มาถึง Glover Garden แล้วครับ ซึ่งต้องขอยกยอดไปตอนต่อไปละกัน
Link:
– สรุปทริปคิวชู
Very nice