SPL 2: A Time for Consequences

SPL 2: A Time for Consequences เป็น “ภาคต่อแต่เพียงในนาม” ของหนัง action ฮ่องกงชื่อดังอย่าง SPL: Sha Po Lang (เคยรีวิวไว้ทีนี่)

SPL 2 Poster

SPL 2 นั้นเป็นเรื่องราวของคิท ตำรวจฮ่องกงที่แฝงตัวมาหาข้อมูลขบวนการค้าอวัยวะมนุษย์แล้วดันพลาดท่าโดนจับได้ เขาโดนจับมาขังคุกเมืองไทยเพื่อเป็นตัวประกันแลกกับพยานรายหนึ่งของตำรวจซึ่งหัวหน้าแกงค์มาเฟียกำลังต้องการตัว เขาได้พบกับชัย ผู้คุมที่มีฝีไม้ลายมือหมัดมวยพอๆ กับเขาซึ่งกำลังสงสัยในตัวพัสดีว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับขบวนการค้าอวัยวะมนุษย์ที่เขากำลังต้องการไขกระดูกสันหลังมารักษาลูกเขาพอดี

SPL 2 เป็นหนังแอคชั่นที่มันฉิบหายทั้งฉากบู๊และเนื้อเรื่องครับ ตัวเนื้อเรื่องและบทก็ทำได้ดีมีเนื้อหาน่าสนใจโดยเฉพาะประเด็นเรื่องขบวนการค้ามนุษย์และเรื่องจริยธรรมของตำรวจ ตัวหนังถ่ายทอดความกดดัน, ความสิ้นหวังและความอันตรายได้ดีไม่แพ้ภาคแรก ที่โดดเด่นคือฉากต่อสู้ที่โคตรเจ๋งไม่แพ้ภาคแรกแถมยังมีเยอะกว่า ทั้ง Wu Jing, จา พนมและ Zhang Jin เล่นฉากบู๊ได้ดีมากๆ โดยเฉพาะ Zhang Jin ที่โคตรโดดเด่นกับบทพัสดีใจโฉดมาดเนี๊ยบที่มีฝีมือต่อสู้ขั้นเทพจนนับได้ว่าฉากต่อสู้ตอนจบเป็น Boss Fight ที่ดูสนุกโคตรๆ เลย

นอกเหนือจากนักแสดงสายบู๊แล้ว นักแสดงสายดราม่าท่านอื่นอย่าง เยิ่นต๊ะหัว และกู่เทียนเล่อ ก็แสดงได้ดีมาก โดยเฉพาะกู่เทียนเล่อที่มารับบทหัวหน้าขบวนการค้ามนุษย์สุดโฉดได้ยอดเยี่ยมและน่ากลัวชนิดดูแล้วโคตร surprise (คือไม่คิดว่าพี่จะเล่นได้ชั่วขนาดนี้) เลยครับ

ถ้าจะพูดถึงข้อเสียของหนังก็คงไม่พ้นกับการไปเทียบกับภาคแรกที่ทำให้รู้สึกว่าภาคสองยังด้อยกว่าอยู่แน่นอน ประเด็นหลักๆ คือภาคแรกเนื้อเรื่องและบททุกอย่างมันสมเหตุสมผลกันไปหมด แต่ภาคนี้มันมีเนื้อหาบางส่วนที่ไม่มีคำอธิบายอะไรเลยว่ามันเกียวกับหนังยังไง อีกอย่างคือภาคแรกมันผลักให้คนดูรู้สึกอับจนหนทางและรู้สึกอินไปกับตัวละครได้มากกว่านี้ครับ (แต่ภาคนี้ก็อินนะ)

แม้ว่า SPL 2 จะมีจุดที่ด้อยกว่าภาคแรก แต่ยังไงมันก็เป็นหนังแอคชั่นที่ดีมากๆๆ เรื่องนึงที่คอหนังบู๊ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ป.ล. 1: แม้ว่าหนังจะไม่มีอะไรเกี่ยวกับภาคแรกเลย แต่ว่าตัวหนังก็มีอะไรหลายๆ อย่างล้อภาคแรกอย่างจงใจเยอะมาก
– นักแสดงส่วนใหญ่ใช้ชุดเดียวกับภาคแรกเลย บางคนรับบทเดิม ชื่อตัวละครเดิมด้วยซ้ำ
– ภาคแรก Wu Jing เล่นเป็นนักฆ่าที่ถนัดการใช้มีดและสุดท้ายก็แพ้ให้กับเจิน จื่อตันที่ใช้กระบองตำรวจ ภาคนี้ Wu Jing เล่นเป็นตำรวจและมีฉากสู้กับนักฆ่าที่ถนัดการใช้มีดด้วยกระบองตำรวจเช่นกัน
– ภาคแรกฉากสุดท้ายมีการตกตึก ภาคนี้ก็มีมุกการตกตึกมาใช้อีก
ป.ล. 2: ดูแล้วรู้สึกว่าสิ่งที่จา พนมขาดตอนอยู่กับหนังไทยคือ “หนังที่มีบทดีๆ”
ป.ล. 3: SPL ภาคแรกเป็นหนังที่เจิน จื่อตันสร้างขึ้นมาเพื่อตอกกลับองค์บากโดยเฉพาะว่า “หนังกังฟูฮ่องกงเหนือชั้นกว่า” ส่วนภาคสองก็มีจา พนมมาเล่น และยังใช้มวยไทยในหนังด้วย (ฮาาา)

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.