ผมไปเที่ยวเกาะคิวชู (九州) เป็นเวลา 6 วัน (เที่ยวจริง 5 วัน) กับโปรขากลับบาทเดียวของ Jetstar มาครับ ก็ไปตั้งแต่วันที่ 17 ถึง 22 มิถุนายนที่ผ่านมานี่เอง นี่เป็นการเที่ยวญี่ปุ่นครั้งที่ 3 ของผมและเป็นการเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวครั้งแรกครับ
แผนเที่ยวทั้ง 6 วันมีดังนี้ครับ:
- วันพุธที่ 17 มิถุนายน: (blog ตอนที่ 1, 2, 3)
- ออกจากไทยตี 2:15 ถึงจังหวัด Fukuoka (福岡県) ตอน 9 โมง 45 นาที
- นั่ง Subway ไปเมือง Hakata (博多区)
- เข้าที่พักที่ Khaosan Fukuoka Annex hostel ครับ นอนห้อง capsule room ราคา 5 คืนก็ 3,438.33 บาท
- ไปเที่ยว Dazaifu Tenman-gū (太宰府天満宮)
- กลับมาเดินเล่นย่าน Tenjin
- ไปตึก Vivre
- ไป Fukuoka Tower (福岡タワ)
- กลับมา Hakata ไปกินราเมงร้าน 博多一幸舎 (Hakata Ikkoucha) ในสถานีแล้วกลับ hostel
- วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน: (blog ตอนที่ 1, 2, 3)
- ใช้ตั๋ว JR Rail Pass นั่งรถไฟ LTD. EXP KAMOME 5 ไปเมือง Nagasaki (長崎市)
- ไป Atomic Bomb Hypocenter
- ไป Nagasaki Peace Park
- ไป Nagasaki Atomic Bomb Museum
- ไปกินจัมปงที่ร้าน Kouzanrou (江山楼) ที่ Chinatown
- ไปสะพาน Meganebashi (眼鏡橋)
- ไป Holland Slope (Ducth Slope) แล้วเดินต่อไป Glover Garden
- นั่งรถไฟ LTD. EXP KAMOME 40 กลับ Hakata (Ropeway ภูเขา Inasa ปิดยาวจ้า)
- ไปร้านกล้อง Yodobashi แถวๆ สถานี
- วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน: (blog ตอนที่ 1,2,3,4)
- ใช้ตั๋ว JR Rail Pass นั่งรถไฟ LTD. EXP YUFU 1 ไปเมือง Yufuin
- เดินเที่ยวในถนนสายคนเดิน Yufuin นั่นแหละ
- ไป ทะเลสาป Kirinko
- นั่งรถไฟ LTD. EXP YUFU 4 กลับ Hakata (ครับ จอง YUFUIN NO MORI ไม่ได้ฮะ)
- ไปย่าน Tenjin ไปกิน Yatai (やたい) ที่ร้าน 小金ちゃん (Kokinchan)
- กลับ Hakata แล้วเดินไปห้าง Canal City
- กลับมาเดินหาซื้อ CD ที่ห้าง AMU ในสถานี Hakata
- กินราเมงร้าน 元祖博多だるま ในสถานี Hakata
- วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน: (blog ตอนที่ 1, 2, 3,4,5)
- ใช้ตั๋ว JR Rail Pass นั่งรถไฟ SHINKANSEN TSUBAME 309 ไปเมือง Kumamoto (熊本市)
- นั่งรถไฟ LTD. EXP KYUSHU ODAN TOKKYU 2 ต่อไปเมือง Aso (阿蘇市)
- ไป จุดชมวิว Kusasenri เพราะ Aso ropeway ขึ้นไม่ได้
- นั่งรถไฟ LTD. EXP ASO BOY 102 กลับ Kumamoto
- ไปกินหมูทอดที่ร้าน Katsuretsu Tei (勝烈亭)
- ไป ปราสาท Kumamoto (熊本城)
- ไปสวน Suizen-ji (水前寺成趣園) แค่ 10 นาทีแล้วรีบกลับเลย
- นั่ง SHINKANSEN TSUBAME 338 กลับ Hakata
- กินซูชิร้าน Uogashi ในสถานี Hakata
- ไปกิน Yatai ที่ร้าน 小金ちゃん (Kokinchan) ย่าน Tenjin ซ้ำ
- เดินเล่นย่าน Tenjin จนเกือบถึงย่าน Gion
- วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน: (blog ตอนที่ 1, 2, 3,4)
- ไป Fukuoka Castle Ruins (Maizuru Park)
- ไป Ohori Park
- ไปซื้อของฝากที่ Don Quijote
- ไปกินซูชิที่ร้าน すし割烹かじ ในสถานี Hakata
- ไป Canal City
- เดินเล่นย่าน Tenjin
- กลับมาเดินเล่นแถวๆ Hakata ไปร้านกล้อง Yodobashi
- กินราเมงร้าน 博多一幸舎 (Hakata Ikkoucha)
- วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน: (blog ตอนที่ 1)
- ไปขึ้นรถ bus ไป Fukuoka Airport (International Terminal จาก Hakata Bus Terminal
- ถึงไทยแบบไม่สวัสดิภาพเท่าไหร่ (หูอื้อข้างเดียว + เกือบโดนญี่ปุ่นอ๊วกใส่)
ทริปนี้จริงๆ แล้วผมลอกทั้งโปรแกรมและที่กินมาจากแผนเที่ยวของ@pittaya (ดูเพิ่มเติ่มที่ https://pittaya.com/tag/kyushu/ ครับ) เกือบทั้งหมดครับ โดยดัดแปลงให้เข้ากับเวลาแค่ 5 วัน (ยากตรงนี้แหละ) แล้วผสมกับแผนเที่ยวของน้อง @processic และ @celerachan อีกนิดหน่อย
คิวชูช่วงที่ไปเป็นช่วงปลายฝนพอดีครับ คือถ้าไปหลังจากนี้ก็เข้าหน้าร้อนแล้วล่ะ แม้จะเป็นหน้าฝนแต่อากาศก็เย็นสบาย ฝนตกปรอยๆ แบบเป็นละอองเกือบทั้งวัน (มีแค่สามวันสุดท้ายที่ฝนไม่ตก) แต่ก็ยังเที่ยวได้ไม่มีปัญหานัก ปัญหามีแค่ฟ้ามันปิดทั้งวัน ไม่เหมาะกับการถ่ายรูปเท่าไหร่นักครับ ส่วนใครที่ชอบเที่ยวถึงดึกๆ น่าจะมีถูกใจเพราะพวกร้านต่างๆ ส่วนใหญ่ปิดกันตอนประมาณสามทุ่มครับ ไม่ใช่หกโมงเย็นก็ปิดแบบฮอกไกโด
การเที่ยวทั้งหมดผมใช้วิธีนอนในเมือง Fukuoka แล้วนั่งรถไฟออกไปเที่ยวเมืองอื่นๆ แบบไปเช้าเย็นกลับเอาครับ ก็ซื้อ JR North Kyushu Rail Pass แบบสามวันจาก HIS เอา การเดินทางระหว่างเมืองค่อนข้างสะดวกตรงที่นั่งรถไฟไปได้ทั้งหมด เพียงแต่ต้องวางแผนเรื่องเวลาดีๆ เท่านั้นซึ่งก็ใช้เวบ hyperdia ดูเวลารถไฟในแต่ละเมืองเอาแล้วก็โหลด app มันไปใช้ดูเวลาเผื่อฉุกเฉินได้ด้วย ครั้งนี้มีโอกาสได้นั่งชินคันเซนด้วย ก็เร็วสะใจจนน่าอิจฉาบ้านเขาจริงๆ ครับ ส่วนการเดินทางในเมืองก็ค่อนข้างสะดวกเพราะส่วนใหญ่มี Subway ไม่ก็รถรางที่ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดพร้อมตั๋ววันให้ด้วย แค่ดูให้ถูกว่าจะเที่ยวไหนต้องนั่งไปลงที่ไหนเท่านั้นเอง
อินเตอร์เนตที่โน่นก็ใช้ B-Mobile Visitor Sim แบบ 14 วัน 1GB เอา ก็โอเคดีครับ เร็วใช้ได้เลย แต่มี limit ว่าถ้าใช้ 3 วันต่อกันเกิน 360MB จะโดนลดสปีดลง ถ้าใช้นำทางเป็นหลักก็พอเหลือแหล่ครับ ราคา 3980 เยน ถ้าส่งที่สนามบินก็บวกอีก 216 เยน ข้อเสียหลักคือมันเป็น data sim อย่างเดียวแล้วเครื่องมันพยายามจะหา mobile network ตลอดทำให้เปลืองแบตมากหน่อยครับ
เรื่องการสื่อสาร ผมพบว่าคนญี่ปุ่นทั่วไปสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นมากจากตอนที่ผมไปฮอกไกโดเมื่อ 2 ปีที่แล้วครับ คือส่วนใหญ่จะเข้าใจภาษาอังกฤษที่เราบอกไป แต่ถ้าพูดกลับไม่ได้ก็จะพยายามอธิบายเราด้วยท่าทางหรือทำให้ดูเลย มีส่วนน้อยที่ไม่เข้าใจเลยเท่านั้นเอง ส่วนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นจีนกับเกาหลีครับ เจอแทบทุกหัวมุมถนน คนไทยเจอประปราย มารอบนี้เห็นคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวใช้ smartphone กันเกือบหมดแล้ว ส่วนกล้องนี่ก็ยังเห็น DSLR เยอะอยู่ พวก mirrorless ตัว “เรือธง” อย่าง OMD, X-E, X-T นี่ไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ แต่พวกรุ่น entry level ล่ะมีเยอะเลยครับ
เรื่องการเข้าญี่ปุ่นที่ ตม ไม่ถามอะไรเลย (หน้า passport ผมมี visa ตั้งแต่สองปีที่แล้วอยู่) มีแค่ศุลกากรถามนิดหน่อยว่ามาคนเดียวเหรอ เรื่องการเที่ยวคนเดียวที่นี่ก็ไม่มีปัญหาอะไรมากครับ เดินหิ้วกล้องไว้ที่คอตั้งแต่เช้ายันสี่ทุ่มก็ไม่เจออะไรน่ากลัว เว้นแต่เรื่องไม่มีรูปตัวเองตอนไปเที่ยวเลยกับเรื่องไม่มีเพื่อนกินด้วยระหว่างเที่ยวเท่านั้น ;____________;
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมเลือกที่จะพักที่ hostel ทุกคืนครับเพราะโรงแรมในเมือง Fukuoka มันแพงมากกก ยิ่งใกล้ๆ Hakata ยิ่งมีแต่แบบแพงๆ ก็เลยเลือกนอน hostel เพื่อประหยัดตัง ซึ่ง Khaosan Fukuoka Annex ก็เป็น hostel ที่ดีเลยครับ พนักงานบริการดี สะอาด มีห้องน้ำเพียงพอ เสียอย่างเดียวคืออยู่ไกลจากตัวสถานีหน่อยและต้องเดินผ่านจุดเปลี่ยวๆ เยอะ (แต่ก็ปลอดภัยดี) ครั้งนี้ผมนอน dorm แบบ capsule ซึ่งก็ดีตรงได้ความเป็นส่วนตัวสูง capsule ก็ไม่อึดอัดอย่างที่คิด แต่ข้อเสียคือไม่มีเหลี่ยมมุมให้ตากผ้ากับถ้านอนหลายวันมันจะอับต้องเปิดผ้าม่านตอนออกไปข้างนอกครับ ส่วนเพื่อนร่วมห้องเป็นเกาหลีกับจีนเป็นส่วนใหญ่แถมผมก็ออกแต่เช้ากลับดึกที่สุดเกือบทุกวันเลยแทบไม่ได้คุยกันเลย
สรุปทริปนี้ก็เป็นทริปที่สนุกมากๆ เลยครับ ได้เที่ยวครบทุกแนวทั้งธรรมชาติ, ประวัติศาสตร์และ shopping และยังมีที่ๆ ไม่ได้เที่ยว อาหารที่ไม่ได้กินอีกเยอะเลย เป็นอีกหนึ่งทริปที่ประทับใจมากครับ ^^
ป.ล. สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าเที่ยว+ค่าของฝาก (ไม่รวมที่รูดบัตร, JR Rail Pass, โรงแรม, internet และตั๋วเครื่องบิน): 68,688 เยนหรือ 19,301 บาท (เรท 0.2810) ครับ
ป.ล. 2 ถ้ารวมด้วยก็น่าจะประมาณ 19,301 + 1,169.96 (ค่า b-mobile) + 3,438.33 (ค่า hostel) + 6,041.40 (ค่าเครื่องบิน) + 2,060 บาท (ค่า JR Rail Pass) = 32,010.69 บาทครับ
20 thoughts on “สรุปทริปคิวชู”