พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์เป็นจุดท่องเที่ยวที่สองของดอยสุเทพครับ ถ้าเหมาขึ้นมาแค่พระตำหนักเขาจะคิด 80 บาท แล้วให้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ (มั้ง ถ้าจำไม่ผิด)
พระตำหนักเก็บค่าเข้าคนละ 20 บาทครับ ถ้าใส่กางเกงขาสั้นมาต้องเสียค่ากางเกงเลขายาวใส่คลุมขาอีก 15 บาท ซึ่งผมเจอฝนตกหนักจนกางเกงขายาวที่เตรียมไปตัวเดียวเปียกตั้งแต่วันแรก ผมก็เลยต้องใส่กางเกงขาสั้นไปให้เสียค่ากางเกงเลอีก 15 บาทซะงั้น
ในตัวพระตำหนักมีป้ายบอกทิศทาง, ที่ห้ามเข้าชัดเจนครับ จุดเด่นของพระตำหนักนี้คือแปลงดอกไม้นานาพรรณ ที่ออกดอกสวยๆ รับอากาศหนาวบนดอย ผมเองเป็นคนที่ไม่ค่อยถ่ายดอกไม้ ถ่ายมาโครเท่าไหร่ยังติดใจกับการเดินถ่ายดอกไม้ท่ามกลางอากาศหนาวๆ และฝนตกปรอยๆ ของที่นี่เลย
ภายในพระตำหนักกว้างมากครับ มีแปลงดอกไม้ให้ถ่ายรูปเยอะด้วย จุดให้ถ่ายรูปอื่นๆ ก็เยอะดี
ที่เหลือก็ให้ภาพเล่าเรื่องไปละกัน
จุดถ่ายรูป ตรงนี้มีร้านขายของกินด้วยครับ
ด้านนอกมีร้านขายของ ขายกาแฟของชาวบ้านแถวๆ นั้นให้เลือกซื้อตามอัธยาศัย
สำหรับพระตำหนักภูพิงฯ นี่กว้างและมีจุดให้ถ่ายรูปเยอะกว่าที่คิดครับ ยิ่งถ้าชอบถ่าย macro ด้วยน่าจะอยู่ได้ทั้งวันครับ ขนาดผมตอนแรกเฉยๆ กับการถ่ายรูปดอกไม้ยังคิดว่าชั่วโมงนึงยังไม่พอเลย
ดูเหมือนมีหมอกพอสมควร แต่ถ่ายออกมาได้ชัดเลยค่ะสวยมาก ไปมาครั้งก่อนแดดเปรี้ยงเลย 🙂