สะพายกล้องเที่ยว KL #1.2

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ ผมออกมาข้างนอกห้าง Suria KLCC ตอนฟ้าเริ่มมืดพอดี กะจะถ่ายตึกแฝด Petronas ตอนแสง Twilight แต่ปรากฏว่ามุมที่คิดว่าเจ๋งที่สุดตอนมาถ่ายคราวโน๊นมันปิดซะงั้น ก็เลยจัดมุมงัดเหมือนชาวบ้านมาหลายรูปเลย


ลองนอนถ่ายเหมือนชาวบ้านดูก็ได้แบบนี้


ถ้าลุกแล้วถอยออกมาหน่อยก็จะเป็นแบบนี้

ถ่ายไปเยอะมากจนนึกได้ว่าด้านหลังมันมีแสดงน้ำพุตอนกลางคืนนี่หว่า ก็เลยเดินทะลุห้างไปครับ คนมาดูเยอะกว่ามุมตะกี้อีก

ผมถ่ายน้ำพุตรงนี้สักพักก็นึกได้ว่าถ้าเดินลึกไปโซนสวนสาธารณะแล้วถ่ายรูปกลับมาเก็บทั้งตึกแฝดและน้ำพุน่าจะแหล่มก็เลยลองเดินไป แม้จะมืดๆ หน่อยแต่ก็ไม่อันตรายเพราะคนยังมาวิ่งอยู่เยอะครับ แถมนักท่องเที่ยวก็เยอะไม่แพ้กันโดยเฉพาะตรงจุดสะพานไม้ที่จะเห็นวิวทุกอย่างครบที่สุด


รูปนี้รอโคตรนานกว่าจะได้จังหวะพอดี

>

ส่วนการแสดงแสงสีเสียงน้ำพุก็สวยดี ดูได้เพลินๆ ครับ

ผมอยู่ตรงนี้นานมากๆ คือทั้งดูทั้งถ่ายรูปตึกนี้จนอิ่มใจ (เพราะมันสวยจริงๆ นะ) แล้วก็ย้อนกลับไปหาอะไรกินที่ถนน Petaling เพื่อหาอะไรกิน + ถ่ายรูป China Town ยามค่ำคืน

มาถึงแล้วคนโคตรเยอะเลยครับ ร้านก็เยอะ ร้านอาหารก็เยอะกว่าเดิมมากๆ เลย


ลุงขายเกาลัด ไม่ได้ซื้อแต่แค่ยกกล้องมาแกก็แอ็คท่าให้แล้ว

ผมเลือกร้านไม่ถูกเพราะมีทั้งร้านทั่วไปและร้านอาหารแบบเน้นกินกับเบียร์เยอะเลย สุดท้ายมาสะดุดตากับร้านเล็กๆ ร้านนึงที่ขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อครับ อร่อยดีนะ คนขายทักด้วยว่าเป็นคนไทยเหรอ

กินอันนี้เบาๆ เสร็จผมก็ไปต่อที่สุกี้จิ้มจุ่มมาเลย์ครับ มันคือพวกลูกชิ้น ปลาหมึก ฯลฯ เสียบไม้ เราเลือกแล้วก็จุ่มลงในหม้อจนสุกแล้วก็กิน คิดราคาตามไม้ ผมเห็นตั้งแต่ที่มะละกาแล้วล่ะแต่ลืมกิน ก็มาจัดที่ KL แทน ผมเลือกได้ปุ๊บ (รอคนจีนเลือกอยู่ นานโคตร) เขาก็พาไปที่โต๊ะที่มีหม้ออยู่ตรงกลางโต๊ะครับ ผมได้แชร์โต๊ะกับคนที่รอปิ้งๆ ย่างๆ ดูอาการเขาแล้วรู้สึกว่าเขารอมานานมากแต่ก็ไม่ได้กินซะที ไอ้ผมก็ลวกๆ ไปจิ้มไป รสชาติก็ธรรมดาๆ แต่ได้กินก็ happy แล้วครับ


ที่ผมเลือก


ได้กินซะที สะใจจจจจ

กินเสร็จผมก็เดินถ่ายรูปต่อจนดึก แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่ได้ลดลงเลย


ห่อหมก


ปิ้งย่างที่รอกันนานๆ

ถ่ายรูปจนพอใจผมก็เดินกลับโรงแรมครับ มืดและเปลี่ยวหน่อยแต่ก็ไม่เจออะไร (ผมเก็บกล้องตลอด) กลับมาถึง Hostel ก็พบว่าเพื่อนร่วมห้องส่วนใหญ่นอนกันอยู่ มีคนนึงบอกว่าขอให้ช่วยเบา Air หน่อยแต่ผมดันเข้าใจไปว่าเธออยากจะเร่งแอร์ -*- กว่าจะรู้ก็ตอนเรียกพนักงาน Hostel มาปรับแอร์ที่ห้องแล้ว (ห้องปรับแอร์เองไม่ได้) ส่วนตัวแปลงปลั๊กผมที่ใช้งานได้ดีมาตลอดดันมาใช้ที่ไม่ได้ซะงั้น ก็เลยต้องไปขอยืม Hostel มาใช้ก่อน

ตอนผมกลับมาที่ห้องนี่ส่วนใหญ่นอนกันอยู่ เลยไม่ได้คุยกันเท่าไหร่นัก ผมก็เก็บของ จดบันทึกเงียบๆ ไปสักพักแล้วก็นอนแต่นอนหลับไม่สนิทดีเท่าไหร่ (จำไม่ได้ว่าทำไม 555) ก็ขอจบ entry นี้ไว้เท่านี้นะครับ

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.