มะละกาเที่ยวเอง #1.2

ต่อจากตอนที่แล้ว นะครับ (ไม่มีชื่อตอนเพราะไปหลายที่มาก)

หลังจากนั่งชิวๆ ที่ Dutch Square สักพัก ผมก็เดินไป โบสถ์เซนต์ปอล ต่อ ตัวโบสถ์ตั้งอยู่บนเนินเขาเซนต์ปอลที่อยู่หลัง Dutch Square นี่เองครับ โดยเดินไปตามทางที่เห็นคนเขาเดินกันไปเป็นแถวๆ น่ะครับ ทั้งทัวร์ทั้ง backpack เดินไปทางเดียวกันหมด จริงๆ ตัวโบสถ์นี่ขึ้นได้หลายทางนะครับ แต่วันแรกผมใช้ GPRS แล้วงงว่าไปทางไหน (คือเห็นว่ามันอยู่ไหนแต่ไม่รู้ว่าขึ้นตรงไหน) สุดท้ายก็เลยลองเดินไปเรื่อยๆ ผ่านพิพิธภัณฑ์พรรคอัมโน, พิพิธภัณฑ์ศาสนาอิสลามจนไปถึงป้อมประตูซานติเอโก ก็เดินเข้าป้อมแล้วขึ้นบันไดขึ้นเขาไปเลยครับ


ป้อมประตูหน้าตาแบบนี้


ภาพจากมุมล่างของ “ทางลง” ที่ไปโผล่ข้างๆ พิพิธภัณฑ์อิสลามครับ

เดินไปเรื่อยๆ ไม่เหนื่อยมากเพราะลมแรงและวิวสวย ตัวโบสถ์สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1521 โดยพวกโปรตุเกส แต่โบสถ์พังเกือบหมดแล้ว ในตัวโบสถ์มีหลุมศพชั่วคราวของนักบุญ Francis Xavier ผู้เผยแผ่ศาสนาคริสต์ให้ได้รับการนับถือในเอเซียตะวันออก ส่วนด้านหน้าก็มีอนุสาวรีย์ของท่านตั้งอยู่ เป็นจุดเด่นของโบสถ์


หอระฆังนี่น่าจะสร้างใหม่นะ

มีเกร็ดนิดนึงว่าตอนสันตะปาปาจะประกาศให้ท่านเป็นนักบุญนั้น ได้รับสั่งให้ตัดมือขวาจากศพของท่านที่ไม่เน่าเปื่อยจากเมืองกัวไปยังกรุงโรม ซึ่งมือขวาของท่านก็เลือดพุ่งไปตลอดทางจนถึงโรมเลยครับ ส่วนรูปสลักของท่านหลังสร้างเสร็จก็เกิดเหตุการณ์ต้นไม้ใหญ่ล้มทับเอามือขวาของรูปสลักหักไปเหมือนศพของท่านจริงๆ


คำแนะนำ ควรมี CP-L และมาตอนหลังเที่ยงครับ แสงจะสวยมากๆ คนต่อคิวเยอะอยู่

ในตัวโบสถ์ก็มีขายของ (ตั้งแต่บันได้แล้ว) และมีนักดนตรีเปิดหมวกครับ วิวมองลงข้างล่างก็สวยดี ^^

ที่ชอบอีกอย่างคือทั้งมะละการวมถึงโบสถ์นี้น้องแมวน่ารักๆ เพียบครับ ผอมไปหน่อยแต่เชื่องมาก ผมถ่ายรูปสนุกเลย


ฟรี้

ผมถ่ายรูปอยู่ตรงนั้นก็ลงมาแล้วเดินวนไปทางแม่น้ำมะละกาครับ ตอนแรกจะไป Maritime Museum แต่ว่ามันปิดแล้วเลยไปขึ้น หอชมเมืองมะละกาที่อยู่ไม่ไกลกันแทน อ้อ ลงมาจากโบสถ์เดินเลยไปแยกไปอีกทางจะเข้าเมืองย่านที่ไม่ใช่มรดกโลกนะครับ มีห้างมีร้านค้าให้เดินเล่นกัน


นักท่องเที่ยวนั่งสามล้อกันเพียบเลย


อันนี้คือหอชมวิวครับ

ตัวหอจริงๆ ก็คือเหมือนเครื่องเล่นในสวนสนุกอ่ะครับ จะค่อยหมุนๆ ขึ้นไปช้าๆ ค่าขึ้นต่อรอบ 20 RM รวมเวลาขึ้นลง 7 นาที แพงไปหน่อยแต่ก็สนุกดีครับ


มุมจากด้านบนครับ ถ่ายลำบากหน่อย


ที่เห็นนั่นคือห้างครับ

ลงมาผมก็ไปเดินห้าง Dataran Pahlawan ที่เห็นในรูปข้างบนต่อครับ ตัวห้างมีทั้งห้างเก่าและห้างใหม่ ห้างใหม่มีแค่ 3 ชั้นแต่ความหรูหราของร้านนี่ระดับพารากอนบ้านเรา เดินไปเจอ Bar B Q Plaza จากบ้านเราด้วย (ไม่แน่ใจว่าขายหมูมั้ย) ส่วนห้างเก่านี่พอๆ กับ MBK ครับ คนไม่ค่อยเดินเท่าไหร่


ห้างเก่า

ตอนเดินกลับเจอแมวเหมียวเป็นฝูงเลยครับ ไม่เชื่องนัก เรียกไม่มาแต่ก็ไม่หนีด้วย!!!

ผมเดินเรียบแม่น้ำมะละกากลับมาย่าน Dutch Square และถนน Jonker อีกครั้ง พบว่าร้านอะไรต่างๆ ปิดกับเกือบหมดแล้ว (ตอนนั้น 6 โมงเย็นกว่าๆ แล้ว) ก็เลยเดินไปอีกด้านตามย่านตึกแดงๆ ไปถ่ายมุมประกาศมรดกโลกและโบสถ์เซนต์ฟรานซิส เซเวียร์ครับ (คนละที่กับบนเนินเขาเซนต์ปอลนะ)


เรือทัวร์แม่น้ำมะละกา ผมนั่งวันที่ 2 ครับ


ป้อมปืน


จตุรัส Ducth Square ยามเย็น รูปปั้นกะจงในรูปมาจากตำนานกำเนิดเมืองมะละกาที่เจ้าชายปรเมศวรเมืองปาเล็มปังเห็นกะจงสู้ชนะหมาป่าในระหว่างท่านนั่งพักริมต้นมะละกา (มะละกอ)


ป้ายประกาศมรดกโลกครับ ตอนนั่นรถเมล์มาจะเห็นแต่ไกลเลย แต่ตึกย่านนี้ไม่ค่อยมีคนเดินเท่าไหร่นะ


โบสถ์เซนต์ฟรานซิส เซเวียร์

ชมย่านนั้นเสร็จผมก็กลับมาย่าน Ducth Square อีกครั้ง (เมืองมันนี้แค่นี้แหละ) โดยเลือกที่จะเดินเลียบแม่น้ำมาครับ ฝั่งแม่น้ำก็จะเป็นด้านหลังของแต่ละร้าน, bar ของแต่ละโรงแรม,ร้านอาหารเสียส่วนใหญ่แต่ว่าเขาก็เว้นทางเดินไว้ให้เดินชมแม่น้ำไม่ได้เกะกะแบบบ้านเรา พวกอาหารต่างๆ ดูราคาแล้วโหดใช้ได้เลย – -” ส่วนแม่น้ำนี่เห็นสีดำๆ แต่ก็ไม่น่านะครับ ไม่มีกลิ่นเหม็นเลย


Selfi


Pre Wedding

เดินกลับมาถึง Ducth Square ผมไปเจอรถเข็นขายไอติมเลยไปลองครับ taxi แถวนั้นเห็นผมถือกล้องก็ยุให้ผมถ่ายรูปคนขายไอติมเลย บอกว่า Uncle Ice creamๆ ส่วนไอติมก็โอเคถ้าไม่ติดว่าดันมีรสทุเรียนมาด้วย กลิ่นแรงกลบรสอื่นหมดเลย


Uncle Ice cream


กรวยแปลกดี

ก็ขอจบตอนนี้ไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.