สะพายกล้องเที่ยวฮอกไกโด #1: กว่าจะถึง Hakodate

ออกตัวก่อนว่า Blog ทริปอินเดียของผมยังไม่จบ แต่ทำรูปไม่ทำ เลยขอข้ามมาเรื่องเที่ยวญี่ปุ่นก่อนครับ -*-

ผมไปเที่ยวเมืองฮอกไกโดเป็นเวลา 8 วันตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนถึงวันที่ 1 กรกฏาคมครับ ไปแต่ฮอกไกโดนี่แหละ ไม่ไปโตเกียวเลย ไปก่อนเขายกเลิกวีซ่าสักเดือนนึงมั้ง -*- เซ็งเลย ออกจากกรุงเทพตอน 5 ทุ่มด้วยสายการบินแห่งชาติ TG ซึ่งก็ delay ไปประมาณ 30 นาทีให้งงเล่น รอบนี้ได้นั่งเครื่องแบบมีจอทีวีส่วนตัวทั้งๆ ที่เป็นชั้น ecomony ครับ ถูกใจดีเหมือนกัน คนไทยไปพร้อมกันเพียบเลย (รู้สึกว่าข้าราชการ กทม จะมาดูงานอะไรสักอย่างด้วยมั้ง)

ผมและเพื่อน (ไปกัน 3 คน) ไปถึงสนามบิน New Chitose Airport ตอนเช้าๆ ผ่านตม มาแบบไม่ได้ช้าอะไรนัก ตม ญี่ปุ่นทำงานรวดเร็วดีครับ รับกระเป๋า ล้างหน้าล้างตาแปลงฟันเสร็จก็ไปจัดการตั๋ว JR Pass ที่ซื้อไว้ตั้งแต่อยู่ไทยก่อนครับ (ตั๋วนี้ซื้อในญี่ปุ่นไม่ได้) โดยเราเลือกสาย JR Hokkaido โดยตรงเลยเพราะนั่งรถไฟแค่โซนนี้เท่านั้น จุดบริการ JR Pass นั้นอยู่ที่ชั้นล่างของสนามบินที่อยู่ติดกับรถไฟใต้ดินครับ


ญี่ปุ่นยามเช้า

พนักงานที่จุดบริการ JR Pass บริการดีมากๆ ครับ พูดภาษาอังกฤษได้ดี ฟังภาษาอังกฤษสำเนียงไทยออก เท่าที่สังเกตุดู แม้ว่าตั๋วจะออกจากคอมพิวเตอร์แต่ว่าพวกตารางเดินรถต่างๆ นี่เขาจะเปิดดูจากสมุดตารางเดินรถเอา พวกข้อมูลว่าต้องไปรอชานชาลาไหนก็ถามเขาได้เหมือนกัน แต่ว่าเขาจะตอบได้แต่สถานีใหญ่ๆ เท่านั้นครับ

พวกผมอยู่ตรงตั๋ว JR อยู่นานเพราะที่ๆ จะไปมันเยอะมาก เสร็จแล้วก็่ว่าจะเดินเที่ยวสนามบินก่อนเพราะมีที่เที่ยวในสนามบินด้วย ว่าจะเช่าตู้ locker แต่สุดท้ายคิดว่าแพง ไม่เอาดีกว่า


ร้านอาหารในสถานี ไม่ได้กิน


สิ่งแรกที่เสียเงินซื้อในฮอกไกโด

บรรยากาศทั่วไปของสนามบิน New Chitose นี่เหมือนพวก Shopping Mall มากกว่าครับ คือมีรถไฟใต้ดินอยู่ข้างล่าง มีด้านบนเป็น Shopping Mall ประมาณ 3 ชั้นแล้วมีสนามบินอยู่บนสุด



ในตัวสนามบินมีส่วนโซนสวนสนุกให้เดินเที่ยวกันด้วยครับ สิ่งที่ดังที่สุดคงไม่พ้นสวนสนุกโดราเอมอนอย่าง DORAEMON WAKUWAKU SKY PARK ซึ่งอยู่ชั้น 3 ก่อนจะเดินไปถึงจะมีร้านช็อคโกแลต Royce’ มาเปิดโรงงานเล็กๆ ให้เราดูกันก่อนครับว่าเขาทำช็อคโกแลตกันยังไง

เดินไปด้านในสุดก็ถึง DORAEMON WAKUWAKU SKY PARK ครับ ด้านนอกมีลานเด็กเล่นสำหรับเด็กๆ มีป้ายหน้าโดราเอมอนตัวโตๆ มีโซนระบายสีที่มีหนังสือการ์ตูนโดราเอมอนที่ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ วางอยู่เต็มผนัง มีร้านอาหารที่แต่งอาหารเป็นลายโดราเอมอน มีร้านขายของที่ระลึก

ด้านในเป็นโซนที่จำลองฉากจากในการ์ตูนครับ เป็นโซนหลักเลย เสียตังค์ค่าเข้าด้วยนะ ไม่มีล็อคเกอร์ให้ ก็ลากกระเป๋ากันเข้าไปนั่นแหละ มีได้ถ่ายรูปกับหุ่นยนต์ (มั้ง) โดราเอมอนฟรีด้วย เข้าไปข้างในมีแต่เด็ก ไม่ก็พ่อแม่พาลูกมา มีไอ้ผู้ใหญ่เดินเล่นถ่ายรูปลืมอายุกันอยู่ 3 ตัว 555


ห้องแห่งอนาคตของเซวาชิ


ข้างขวานั้นมีแป้นให้ประทับตราครับ จริงๆ สมุดต้องซื้อ แต่ผมปั้มเอากับสมุดบันทึกที่เอาไปด้วย :p


อันนี้เล่นกับเงา มินิร่า (ชื่อนี้ป่าววะ) จะเด้งตามเงาเรา


ลานกว้างที่เป็นฉากหลักฉากนึงของเรื่อง


อร๊ายยยยยยยยยยยยย

เที่ยวกันจนเหนื่อยก็ไปหาข้าวกินกัน กินในสนามบินนั่นแหละครับ มีหลายร้านมาก เลือกไม่ถูก สุดท้ายก็หลับหูหลับตาเดินเข้าไปร้านนึง สั่งข้าวหน้าไข่หอยแม่นกะไข่ปลาครับ มื้อแรกลองของเลยครับ 1,800 เยน แพงแสรดด มาถึงแล้วกินไม่เป็นอีก ต้องมองคนข้างๆ เอาสุดท้ายก็รสชาติธรรมดาๆ ยิ่งไข่หอยแม่นนี่เหียกมากกกกกกกกกกก (ไปเจอเทพเอาวันท้ายๆ ในราคาถูกกว่ามาก)

กินเสร็จก็ลงไป JR สถานีสะอาดดีมาก แต่ชานชาลาเล็กไปหน่อย รถมาตรงเวลาดีมากๆ พอรถมาก็นั่งรถต่อไปสถานี Minami Chitose Station ข้างในรถก็สะอาด กว้างขวางดี พนักงานบริการนอบน้อมดีมากๆ


ด้านในรถครับ เบาะหมุนไปมาสลับข้างตามการเดินรถได้ เทพ!

มาถึงสถานี Minami Chitose ตอน 13.30 ก็ลงมารอรถรอบ 13.35 ที่จะนั่งต่อไป Hakodate เห็นมีคันนึงจอดอยู่แล้วก็ตาลีตาเหลือกกันขึ้นไปเลย สักพักรถก็ออกก็ยังคุยกันว่า เออ รถคันนี้ออกก่อนเวลาวุ้ย นั่งไปสักพักเริ่มตะหงิดๆ ว่ามันจะใช่รึเปล่าวะ … เพื่อนเลยเดินไปถามพนักงานขายของซึ่งก็พาไปคุยกับนายตั๋วให้ คุยกันแบบกระท่อนกระแท่นก็ได้ความว่า ขึ้นผิดคันจ้าาาาาาาาาาาาาาาาา คันที่จะไป Hakodate จะมาทีหลังคันนี้ประมาณนาที – 2 นาที แล้วออกตามเวลา ฉิบหาย!!!

สุดท้ายด้วยความช่วยเหลือของพนักงานสาวขายของบนรถที่ช่วยให้เราสื่อสารกับนายตั๋วรู้เรื่อง (ทั้งๆ ที่ภาษาอังกฤษของทั้งคู่ก็พอๆ กัน) ก็ทำให้รู้ว่ารถคันนี้มันไปอีกทาง ถ้าจะไปลงสถานีหน้าแล้วรอรถ JR ไป Hakodate ก็รอบ 5 โมง ถึง Hakodate 2 ทุ่ม!! พวกผมเลยตัดสินใจว่าจะลงสถานีถัดไปแล้วลองถามนายสถานีดูครับ ไม่นานก็ถึง สถานี (จำชื่อไม่ได้) นั้นเงียบกริบมากกกกกกกกกกก


เมืองเล็กๆ ระหว่างทาง ถ้าตั้งใจมาน่าจะฟิน

คุยกับนายสถานีซึ่งก็ให้ความช่วยเหลือเราเป็นอย่างดี (ใช้ภาษาอังกฤษ+มือประกอบ) ก็ได้ความว่าถ้ารอนี่ก็ไปถึง 2 ทุ่ม -*- เขาเลยบอกว่าไม่งั้นก็ต้องนั่ง Taxi กลับไป Minami Chitose เพื่อรอ JR รอบบ่ายสาม พวกผมตอนนั้นคุยกันแล้วก็ว่านั่นคงเป็นทางเลือกเดียวแล้วล่ะ แล้วนายสถานีก็จัดการไปเรียก Taxi ให้เราเสร็จสรรพ คุยกับคนขับ Taxi ให้เรียบร้อยว่าเราจะไปไหน ยืนส่งเราด้วยครับ ซึ้ง


Taxi ญี่ปุ่นสภาพบอกตรงๆ ว่าโทรมกว่าไทยครับ (แต่ไม่ Extreme เท่าอินเดีย) แต่คนขับขับมีมารยาทกว่าไทยมากกกกกกกก


ราคาตอนลง โหดสัส เพื่อนบอกว่ามันขึ้นพรวดๆๆ เลย

สุดท้ายก็มานั่งรอที่สถานี Minami Chitose ใหม่ มาถึงก็ไปจองตั๋ว JR ด้วยบัตรอำมาตย์ JR Pass เลย แต่ตั๋วระบุที่นั่งหมดแล้ว ได้แต่ตั๋วแบบไม่ระบุที่นั่ง ระหว่างนั่งรอก็ถ่ายรูปสถานีไปเรื่อยครับ


จากาปอง!!!


หมี!!!


ตู้กดไอติม!!!

สักบ่าย 3 กว่าๆ ก็เข้าไปรอรถ คนญี่ปุ่นเข้าคิวรอรถกันเป็นระเบียบดีมากๆ พอขึ้นรถไปได้ก็เจอว่าคนแม่มเยอะมากกกกกกกกก ยืนจนถึงสถานีถัดไปถึงได้นั่ง

หลังจากนี้ก็หลับๆ ตื่นๆ ครับ ลืมเอา iPod ไปเลยได้ยินตลอดว่าเขาประกาศตลอดว่าถึงสถานีไหนแล้วเป็นภาษาญี่ปุ่น จีน และอังกฤษ (ถ้าสถานีใหญ่ๆ จะมีเกาหลีด้วย) มีป้ายไฟบอกทุกขบวนด้วย


วิวข้างทาง


เมืองข้างทาง

สุดท้ายก็มาถึงเมือง Hakodate ตอน 6 โมงกว่าๆ คน สถานีใหญ่มากๆ คนลงเพียบเลย สมเป็นเมืองใหญ่จริงๆ

ก็ขอจบ Entry นี้ไว้เท่านี้ก่อนครับ ตอนหน้าจะพาเที่ยว Hakodate ยามค่ำคืน ^^

2 thoughts on “สะพายกล้องเที่ยวฮอกไกโด #1: กว่าจะถึง Hakodate

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.