Mini Review: Amazon Kindle

ผมตัดสินใจซื้อ Kindle เพราะผมเริ่มอ่านหนังสือนิยายภาษาอังกฤษมากขึ้นอย่าง Series The Heroes of Olympus, The Kane Chronicles รวมไปถึงหนังสือภาษาอังกฤษอื่นๆ อีกเพียบ

ผมเลือก Kindle รุ่นเล็กสุด ซึ่งนับเป็นรุ่น 5 ในราคาแบบมีโฆษณา $69 เพราะคิดว่าเอาถูกไว้ก่อน ใช้วิธีการสั่งซื้อจาก Amazon ตรงเลยแล้วให้ส่งไปให้เพื่อนที่ไปทำงานที่อเมริกามันหิ้วกลับมาให้ตอนมันกลับไทยครับ สั่งมาพร้อมกับเคสหนังของ Amazon เองด้วย (มารู้ทีหลังว่าเปลี่ยนสีตอนเลือกซื้อได้ เสียใจมาก อยากได้สีน้ำตาล)



ผมได้ของเมื่อต้นเดือนเมษาที่ผ่านมา เสียดายที่เพื่อนไม่ได้เอากล้องกลับมาให้ด้วยเพราะมันเอามาแค่เคส, ตัว kindle เองแล้วก็สาย usb กับการ์ด instrunction manual แผ่นเล็กๆ 1 แผ่น Kindle ที่ผมได้มามัน register เครื่องเข้ากับ account Amazon ผมอยู่แล้ว มี ebook “Welcome Wasin” เสียด้วย! หลังจากนั้นก็พยายามจะอ่านจากมันสลับๆ กับหนังสือเล่มจริงๆ ที่ซื้อจากงานสัปดาห์หนังสือ ที่ไปอินเดียมา 10 วันก็หิ้วมันไปด้วยครับ

ข้อดีคือมันคือจอ E Ink มันเหมือนกระดาษมากๆ คืออ่านสบายตา อ่านดีกว่าอ่านบน Tablet เยอะมากก ที่สว่างจ้าๆ ก็อ่านได้ ส่วนข้อเสียมันก็เหมือนกระดาษคือที่มืดๆ สว่างน้อยๆ ก็อ่านไม่ได้แล้ว อ่านบนรถที่กำลังเคลื่อนที่ก็เวียนหัวเหมือนกัน (เกี่ยวกันป่าววะ)

ผมลองซื้อหนังสือจาก Amazon มาสองเล่มคือ Little House in the Big Woods แล้วก็ Harry Potter and the Philosopher’s Stone ซึ่ง Harry จะต้อง link ไปซื้อที่ http://www.pottermore.com/ อีกที (ซื้อเล่มแบบ UK English ถูกกว่านะเออ) สำหรับประสบการณ์การอ่านบน Kindle จนอ่าน Harry ภาคแรกจบ+เพชรพระอุมาจบไป 3 เล่ม มันก็เหมือนๆ กับการอ่านหนังสือที่กระดาษไม่ได้ขาวมากๆ เลยครับ มองใกล้ๆ ก็จะเห็นตัวอักษรของหน้าอื่นจางๆ เหมือนกัน (มัน defect หรือพี่ตั้งใจทำให้เหมือนวะครับ) ข้อที่ดีกว่าคือมันปรับ font size ได้และมี dict มาให้ด้วย ส่วนที่หลายๆ คนบอกว่ามีผลดีในแง่จิตวิทยาที่ทำให้เราอ่านหนังสือจบเร็วขึ้นเพราะไม่เห็นความหนาของหนังสืออันนี้ผมเฉยๆ นะ คือยังไงเราก็เห็น % completed อยู่ดีว่าเหลืออีกตั้งกี่หน้ากว่าจะจบ


ภาษาไทยแสดงผลเพี้ยนๆ อยู่

การ sync กับ kindle ด้วยการซื้อจาก Amazon หรือการ email ไปที่ @kindle ของตัวเองก็สะดวกดี แต่ว่ามัน sync ช้าไปนิด คือนึกว่ามันต่อ wifi แล้วจะโหลดปรู๊ดๆ ตอนนั้นเลย แต่จริงๆ ต้องรอเกือบ 5 นาทีกว่าหนังสือจะโผล่มาในเครื่อง ><


เปรียบเทียบขนาดกับ Nexus 7

ตัว Kindle พอใส่เคส (ที่ถอดยากมาก) แล้วน้ำหนักไม่ถือว่าเบาอะไรนัก หนักพอๆ กับหนังสือหนาๆ 1 เล่ม ปุ่มพลิกหน้านี่ก็ต้องใช้เวลาปรับตัวหน่อย บางมุมมันกดไม่ลงเลยแต่บางมุมก็เผลอกดง่ายไปหน่อยและผมก็ไม่ชอบที่ปุ่มพลิกกลับไปหน้าเก่ามันเล็กกว่าปุ่มพลิกไปหน้าถัดไปด้วย ส่วนเรื่องแบตก็อึดดีนะ ยิ่งพอปิดต่อ wifi แล้วอยู่ได้ยาวมากกกเลย

สรุปแล้วผมโอเคกับ Kindle ตัวนี้ ยังคิดย้อนหลังเลยว่าทำไมกูไม่ซื้อตัว Paperwhite วะ -*- แต่ตัวนี้ก็โอเคดีอยู่ ผมคงจะอ่านหนังสือบน Kindle สลับๆ กับแบบเล่มๆ ต่อไป เพราะบางเล่มบน Kindle ดันทะลึ่งแพงกว่าแบบกระดาษซะงั้น+ยังไม่มีหนังสือไทยด้วย

ป.ล. หนังสือไทยเล่มที่อยากให้มีบน Amazon/Kindle มากๆ คือเพรชพระอุมา คิดดูว่า 40 กว่าเล่มอยู่ใน kindle อันเล็กๆ อันเดียวมันจะเจ๋งขนาดไหน

One thought on “Mini Review: Amazon Kindle

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.