สรุปทริป อินเดีย-สิกขิม-ดาร์จีลิง

ผมหนีร้อนช่วงสงกรานต์ไปเที่ยวรัฐ Sikkim ของประเทศอินเดีย มาครับ เป็นทริป backpack ที่ไปยาวนานที่สุดที่เคยไปคือ 10 วันตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน – 21 เมษายน ไปกับเพื่อนๆ 7 คนด้วยกัน (รู้จักอยู่ 2 อีก 4 เพื่อนใหม่)

  • วันที่ 11 เมษายน:
    – ออกเดินทางไปอินเดียโดยสายการบิน indigo airline
  • วันที่ 12 เมษายน:
    – ถึงเมือง Kolkata ตอนที่ 4 แล้วเที่ยวเมือง Kolkata ไปเที่ยว Dakshineswar Kali Temple, Ramakrishna Math
    – บินต่อไปเมือง Bagdogra
    – เช่ารถนั่งเข้าไปรัฐ Sikkim ไปเมือง เมืองหลวงของรัฐ Sikkim
  • วันที่ 13 เมษายน:
    – เช่าทัวร์ 1 day trip เที่ยวในเมือง Gangtok ไปหลายที่มาก

  • วันที่ 14 เมษายน:
    – เริ่มต้น trip North Sikkim 3 วัน 2 คืน
    – ออกเดินทางนั่งรถไปเมือง Lachen
  • วันที่ 15 เมษายน:
    – เที่ยว Chopta_Valley
    – ออกเดินทางนั่งรถไปเมือง Lachung
  • วันที่ 16 เมษายน:
    – เที่ยว Zero Point, Yumthang
    – กลับ Gangtok ถึงดึกมาก
  • วันที่ 17 เมษายน:
    – อดไปทะเลสาปชางกู่ เพราะถนนปิด
    – ซื้อทริป 3 วัน 2 คืนจาก Gangtok ไปเมือง Namchi, Pelling แล้วจบที่เมือง Darjeeling แทน
    – นั่งรถไปเมือง Namchi
  • วันที่ 18 เมษายน:
    – ไป Siddhesvara Dham, Samdruptse
    – ไป Pelling
    – แวะ Buddha Park of Ravangla
  • วันที่ 19 เมษายน:
    – ตื่นเช้ามาดูเทือกเขา Kanchenjunga ยอดเขาอันดับ 3 ของโลกจากโรงแรม งามแท้ๆ
    – ไปเที่ยวน้ำตก, rock garden, สระศักดิ์สิทธิ์ Khecheopalri Lake และ Rabdentse Ruins
    – บึ่งไปเมือง Darjeeling
  • วันที่ 20 เมษายน:
    – เริ่ม 1 Day Tour รอบเช้า ไปชมวิวที่ Tiger Hill, วัด Samten Choling Monastery และ Batasia Loop
    – จองตั๋ว Toy Train ไม่ทัน
    – เที่ยว 1 Day Tour รอบบ่าย ไปเจดีย์สันติภาพของญี่ปุ่น, สวนสัตว์และ HMI Museum, ไปขึ้น Ropeway ชมวิว และสุดท้ายศูนย์อพยพผู้ลี้ภัยชาวทิเบต
  • วันที่ 21 เมษายน:
    – บึ่งไปสนามบิน Bagdogra แต่เช้า ขึ้นเครื่องตอน 11 โมงไปถึง Kolkata ตอนบ่ายๆ
    – อากาศร้อนจนเพื่อนบางส่วนขี้เกียจออกไปเที่ยวเมือง ขอรออยู่สนามบิน เลยฝากกระเป๋าไว้
    – นั่ง Taxi ไปสถานีรถไฟใต้ดิน Dum Dum แล้วนั่งต่อไป India Museum
    – กินข้าวแล้วไปเดิน New Market แล้วไปดู Victoria Memorial
    – นั่ง Taxi ฝ่ารถติดไปสนามบิน แล้วนั่งเครื่องบินกลับสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ

รัฐสิกขิมนั้นอยู่ด้านบนๆ ขวาของอินเดีย ติดกับเนปาล, ทิเบต, จีน และภูฏาน แถมยังติดกับเทือกเขาหิมาลัย ลักษณะพื้นที่จึงมีแต่ภูเขา เกือบจะไม่มีที่ราบเลย บ้านเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวจะเป็นแนวๆ ตามเชิงเขา ธรรมชาติ ภูเขา หนาวๆ อากาศเย็นๆ ถึงหนาวโคตรพ่อโคตรแม่ การเดินทางจะเป็นนั่งรถขึ้นเขา ลงเขาเสียส่วนใหญ่ หลายๆ ที่ไปก็สูงประมาณ 3,000 – 5,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งมีโอกาสจะเป็นโรคแพ้ความสูง (AMS) ได้ ทางบนเขาก็มีทั้งลาดยางดีๆ ผสมกับทางที่กำลังทำอยู่ ส่วนหมู่บ้านเล็กๆ มีกระจายให้เห็นทางเชิงเขามากมาย


เนื่องด้วยรัฐนี้เพิ่งผนวกเป็นส่วนหนึ่งของอินเดียได้ 50 กว่าปี แถมยังมีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านเยอะมาก การเข้าออกและเที่ยวในรัฐนี้เลยเข้มงวดมาก ต้องทำเรื่องขอ permit ทั้งตอนเข้าและออก แยกจาก Visa อินเดีย จะไปเที่ยวภูเขาหิมะ ทะเลสาปในส่วน North Sikkim ก็ต้องไปกับบริษัทัวร์ (ท้องถิ่น) เท่านั้น และแต่ละที่ต้องทำ permit แยกอีก บางที่้ต้องทำ permit ขอก่อนไปเที่ยว 1 วัน สรุปแล้ว ผมใช้สำเนา passport, สำเนา visa และรูปถ่ายได้ 7 – 8 ชุดได้ เวลานอนในโรงแรม เค้าก็ต้องเอา passport เราไปสำเนาแล้วส่งให้สถานีตำรวจในวันนั้นหรือวันรุ่งขึ้นทันทีก่อนที่จะคืน passport เราคืน -*-


ทะเลหมอกที่ Tiger Hill ดาร์จีลิง

ในสิกขิมนี้ผู้คนจะเป็นแนวๆ จีนๆ ทิเบตๆ เนปาลๆ หน่อย (แต่พูดภาษาฮินดีได้) วีถีชีวิต ภูมิประเทศ วัฒนธรรมต่างๆ จะต่างจากอินเดียส่วนอื่นค่อนข้างมาก โดยเฉพาะฝั่ง North Sikkim อย่างเมืองลาชุงและลาเชนที่ผู้คนและบ้านเมืองแทบจะเป็นแนวทิเบตล้วน ผมเลยเจอนักท่องเที่ยวอินเดียด้วยกันเองเยอะมาก แต่อาหารย่านนี้ส่วนใหญ่ก็ยังมีแกงกระหรี่ปนๆ อยู่ ส่วนใหญ่คน North Sikkim ที่เจอจะพูด eng ไม่ค่อยจะได้นะ

อีกเมืองที่ไปคือดินแดนแห่งชาอย่างดาร์จีลิง ก็มีความเป็นแขกมากกว่าสิกขิม วุ่นวายกว่า คนเยอะกว่ามาก สกปรกกว่า อากาศอุ่นกว่า พอเย็นๆ สบายตัว ส่วนเมือง Kolkata นี่ก็เละเทะๆ คนมหาศาลตามแบบเมืองสมัยใหม่ ที่น่าสังเกตุคือบ้านเมืองร้านค้าในรัฐสิกขิมและเมืองดาร์จีลิงปิดไวมากกก 6 โมงครึ่งถึงทุ่มก็เริ่มปิดร้านแล้ว 3 ทุ่มครึ่งนี่ปิดหมดแล้ว อย่างดาร์จีลิงนี่ปิดร้านปิดประตูโรงแรมไม่พอแต่ยังปิด wifi ด้วย -*- น่าแปลกใจที่เป็นเมืองท่องเที่ยวแท้ๆ มีไฟดับบ้าน แต่ไม่เจออาการน้ำไม่ไหลนะ ส่วน Kolkata นี่ก็แปลกใจที่ตอนกลางคืนเค้าคนออกมาเดิน ออกมาเที่ยวเยอะมาก แต่ถนนหนทางดันปิดไฟซะเป็นส่วนใหญ่ อ้อ ไฟฟ้าบ้านเค้านี่ปลั๊กเสียบไม่ค่อยจะติดนะเพราะมันจะหลวมๆ ต้องขยับๆ ทำมุมดีๆ หน่อย

เท่าที่ไปอินเดีย 1 รัฐและ 3 เมืองใหญ่ พบว่าอินเดียมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเชื้อชาติมากๆ (สมที่ @markpeak เขียนถึงอินเดียว่า อินเดียเป็น “อนุทวีป” ไม่ใช่ “ประเทศ”) ทั้งสิกขิมและดาร์จีลิงเหมือนจะมีคนเชื้อสายเนปาลอยู่มาก เพราะอย่างในสิกขิมเองช่วงที่ไปก็ชนกับวันหยุดที่เป็นวันเนปาลอะไรสักอย่าง และเครื่องแต่งกายดั้งเดิมของทั้งสิกขิมและดาร์จีลิงก็บอกว่าเป็นชุดเนปาล ส่วน Kolkata นี่เห็นว่าแขกล้วน เพื่อนที่มาด้วยกันทริปนี้เคยไป ราชาสถาน ก็บอกว่าที่โน่นกะที่สิกขิมต่างกันฟ้ากะเหว เจอคู่รักอินเดียจากมุมไบก็บอกว่ามันไม่เหมือนกันเลย

ถ้าพูดเรื่องอินเดียสิ่งที่หลายๆ คนถามเลยคือความสะอาด คือเมืองในรัฐสิกขิมนี่ พวกถนนหนทาง บ้านเรือน โรงแรม สกปรกแบบแฉะๆ กว่าต่างจังหวัดบ้านเรานิดหน่อยฮะ แต่ห้องน้ำสุดตรีนใช้ได้เลย สกปรกกว่าบ้านเราเยอะ แต่เพื่อนที่ไปจีนพวกแชงกีล่ามาแล้วบอกว่าจีนสกปรกกว่านี้ เมืองใหญ่ขึ้นมาอย่างดาร์จีลิงก็สกปรกแบบเละๆ แฉะๆ มากขึ้น และเละเทะในเมือง Kolkata ความสะอาดของอาหารนี่ผมไป 9 วันแรกไม่เป็นอะไรเลยนะ มีวันสุดท้ายเผลอซัดโยเกิร์ตสดริมถนนใน kolkata เลยออกอาการหน่อยๆ


ซื้อน้ำขวดละ 25 INR ให้แบงค์ 50 ไป พี่ทอนมาแบบนี้ บอกว่าช๊อคโกแลตมูลค่า 5 INR

อีกเรื่องคือเรื่องแขกโกง ทั้งสิบวันส่วนใหญ่จะเจอแต่พวกคนขับรถ taxi และคนขับรถ 1 day trip โกงและเล่นตุกติก เช่นตอนจ่ายระบุจะพาไป 10 ที่ก็ไปไม่ครบ หรือเนียนเอาที่เล็กๆ มาใส่แทนบ้าง taxi หลอกว่าสถานที่เราจะไปปิดบ้าง พวกร้านค้า โรงแรม ร้านอาหารโดนนิดหน่อยตรงได้เงินทอนเป็นแบงค์เก่าๆ ขาดมาบ้าง (มีพวกเด็กหิ้วกระเป๋าหรือพาไปขึ้นรถโดยที่เราไม่ขอนี่แหละที่เนียนขอตังค์) ส่วนใหญ่คงเพราะคนอินเดียที่เข้ามาทัก มาคุยมักจะเป็นนักท่องเที่ยวด้วยกันเองนี่แหละ เลยไม่เจออะไรมาก อ้อ เพื่อนผมโดยงัดรถที่พาเที่ยวขึ้นมาขโมยเงินไปประมาณ 5 พันกว่าบาท T^T

อาหารก็พวกแกงกระหรี่กินกันจนเอียน มีเกี๊ยวนึ่ง (หรือทอด) ใส้ผักหรือไก่ที่เรียกว่าโมโม่ เยอะมาก ร้านอาหารในรัฐสิกขิมส่วนใหญ่จะเป็น fastfood คือเป็นร้านมีแต่เคาเตอร์ยืนกินไก่ทอดหรือโมโม่ 6 – 8 ชิ้น อาหารส่วนใหญ่มีแต่ผักไม่ก็ไก่ เนื้อหรือหมูมีน้อยมาก มีบะหมี่ผัดหรือข้าวผัดจานใหญ่มาก ถ้ามีบะหมี่น้ำมักจะไม่ร้อน ร้านใหญ่ๆ ก็จะมี Chicken Tikka หรือ Chicken Tandoori เพิ่มมา พอเข้า North Sikkim จะมีแต่ผัดกระหล่ำกับกระหรี่+ผัดมันกับกระหรี่+ซุปทั่ว+น้ำพริกอินเดียมีรสเปรี้ยวๆ เค็มๆ ไม่อร่อยอย่างแรงที่ชื่อ pickle ซึ่งกินแต่พวกนี้แม่มเอียนมากกกกกกกกก โดยรวมสำหรับผม อาหารอินเดียข้อเสียคือไม่หลากหลายเท่าไหร่ รสชาติถ้าไม่เอียนกลิ่นผงกระหรี่ไปนักคงไม่มีปัญหาอะไร อาหารตามร้านส่วนใหญ่จะได้จานใหญ่มากกก คนไทยไปอาจจะสั่ง 1 จานต่อ 2 คนได้ ส่วนชาที่เรียกว่า จัย นี่มีให้กินทุกวันทุกที่ทั่วๆ ไป ขายถ้วยเล็ก ถ้วยๆ ละ 10 INR แต่ในเมืองที่ผมไปนี่จะใส่ขิงน้อยแต่นมเยอะ เลยดูเหมือนชานมบ้านเราไปหน่อยแต่ก็อร่อยและแก้หนาวได้ดี กาแฟมีบ้างซึ่งก็อร่อยแต่หวานไปหน่อย


วิวเมือง Pelling ตื่นมาเจอแบบนี้จากห้องนอนเลย


ร้านอาหารในเมืองดาร์จีลิง

อีกอย่างที่พบในอินเดียคือผมรู้สึกไปเองว่าคนที่นี่ชอบถูกถ่ายรูป พูดไม่ได้ว่า 100% เพราะมีบ้างที่ปฏิเสธหรือถ่ายแล้วขอตังค์ แต่ผมเพิ่งเคยเจอว่าอยู่ๆ เดินมาสะกิดขอให้ถ่ายรูปให้หน่อย หรือผมขอถ่ายรูปเค้าก็ยิ้มอนุญาตให้ถ่าย แต่พอถ่ายจะทำท่าเหมือนถ่ายรูปติดบัตร พอให้ดูรูปก็ยิ้มมีความสุข -*- สรุปแล้วถ่ายรูป portrait ในประเทศนี้ขอบอกว่า “มันมากกกก” พวกคนอินเดียชอบเดินมาชวนคุยมาก ถามว่ามาจากไหน ไอเคยไปเมืองไทย เคยไปเที่ยวพัทยานะ ทำนองนี้ อ้อ อีกเรื่องที่ไปถึงแล้วงงช่วงแรกๆ คือคนอินเดียไม่ว่ารัฐไหนเชื้อสายอะไรเวลาตอบตกลง,ปฏิเสธหรือบอกว่าไม่แน่ใจมันจะส่ายหัวหมดเลย -*- สามสี่วันกว่าจะชิน

Kolkata มีรถไฟใต้ดิน สภาพเก่าและโทรมกว่าเราเยอะมาก แต่ราคาเริ่มต้นที่ 4 INR และถูกสุด 6 INR มีที่นั่งเฉพาะผู้หญิง

พวกค่าครองชีพบ้านเค้าค่อนข้างจะถูกกว่าบ้านเราเกือบ 50% (ไปช่วง 1 INR === 0.545 THB) ค่าอาหารแพงๆ ก็ตกคนละร้อยกว่าบาท ค่าเดินทางอะไรถ้าต่อดีๆ ก็ไม่ได้แพงมากมาย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของทริปนี้รวมค่าเครื่องบิน ค่า visa ค่ากินค่าอยู่ ค่าเดินทาง ค่าของฝากหมดไป 19,6xx บาท ครับ สำหรับผมถือว่าไม่ได้แพงอะไรมากมายนะ

รถที่เห็นในอินเดียส่วนใหญ่ก็ tata ทั้งรถบรรทุกและรถใหญ่ๆ รองลงมาก็ Mahindra ที่เป็นของอินเดียเอง, Swaraj Mazda และ Maruti Suzuki ที่เป็นลูกผสม ส่วน Honda Toyota น้อยมาก

สรุปแล้วทริปอินเดียครั้งนี้สนุก โหด มันส์ ฮามากๆ ถ้ามีโอกาสได้ไปอินเดีย (เมืองอื่น) ก็จะไปอีก อยากไปพวก Kashmir Leh Ladakh แล้วก็พวกราชาสถาน ทัชมาฮาล แม่น้ำคงคาพวกนี้มาก ^^


หิมะแบบนี้จริงๆ เอาขึ้นมาแล้วกล้องเปิดไม่ติด ต้องถอดเลนส์ มาเช็ดทั้งหมดเลย ><

13 thoughts on “สรุปทริป อินเดีย-สิกขิม-ดาร์จีลิง

  1. แข็งแกร่งจริงครับ 😀

    ดูรูปเพื่อนร่วมทริป อ้าว นั่นปิยะนัยก็ไปทริปนี้ด้วยแฮะ เจ้าพ่อแบ็คแพ็คจริงๆ 😉

  2. สวยมากๆ อยากไปตอนหลังปีใหม่ ช่วงวันที่ 10 ไปคนเดียวได้ไหมครับ /

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.