StarCraft II: Heart of the Swarm

StarCraft II: Heart of the Swarm เป็นภาคเสริมของเกม StarCraft II: Wings of Liberty ครับที่เล่าเรื่องราวของ Sarah Kerrigan และเผ่า Zerg ของเธอครับ

StarCraft II: Heart of the Swarm Poster

ผมเพิ่งเล่นเกมนี้จบเมื่ออาทิตย์ก่อน นับได้ว่าเป็นเกมที่ 4 ที่จบในปีนี้ครับ จริงๆ ก็ซื้อมาตั้งแต่มันออกนี่แหละ แต่เพิ่งได้เล่นยาวๆ จนจบก็เดือนสองเดือนที่ผ่านมานี่เอง

ภาคนี้เป็นเนื้อเรื่องของ Zerg ล้วนๆ โดยเนื้อเรื่องต่อจากภาค Wings of Liberty ที่ Jim Raynor ใช้ Artifact ของ Xel’Naga ทำให้ Kerrigan กลับมาเป็นคนได้สำเร็จ แต่อยู่ๆ Dominion ก็มาโจมตี มีเพียง Kerrigan ที่หนีออกมาได้ แต่ Jim Raynor กลับโดนจับและโดนฆ่าทิ้ง เธอที่ยังมีพลังในการควบคุม Zerg อยู่เลยเดินหน้ารวบรวมเหล่า Zerg เพื่อทำการล้างแค้นให้ Jim ครับ สรุปเนื้อเรื่องก็คือ “มึงหักหลังกูไม่ว่า แต่ฆ่าผัวกูมึงตาย” … ความแค้นของอิสตรีช่างน่ากลัวยิ่งนัก


Continue reading “StarCraft II: Heart of the Swarm”

Metal Gear Rising: Revengeance

ผมเพิ่งเล่นเกม Metal Gear Rising: Revengeance จบเมื่อวันเสาร์โน๊นที่ผ่านมา เกมนี้เป็นเกม Xbox 360 เกมที่ 3 ที่ผมเล่นจบในปีนี้ (ไม่นับพวกเกม fighting นะ)

เกมนี้ได้รับความฮือฮาตั้งแต่เปิดตัวในฐานะ Metal Gear Solid: Rising ในงาน GDC 2009 ที่เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอย Microsoft พอดูเพราะว่ามันเป็นเกม Metal Gear เกมแรกที่ exclusive สำหรับ Xbox 360, Hideo Kojima มาเปิดตัวเกมนี้ด้วยตัวเองและสุดท้ายคือเดโมการฟันแบบอิสระสุดๆ

Metal Gear Rising: Revengeance Poster

แต่หลังจากนั้นก็เริ่มเงียบๆ มีดราม่าว่าสุดท้ายก็ไปลง PS3 และ PC ด้วย และสุดท้ายก็ดราม่าว่าทีมพัฒนาถึงทางตัน ก่อนที่จะมาจบที่ว่าได้ Platinum Games ทำเรื่อง game play ส่วน Kojima Production ดูเนื้อเรื่องและ concept แทน

  • เกมนี้เลือดสาด บู๊ล้างผลาญ สมศักศรีดิ์ Platinum Games มากๆ ไม่เน้นซ่อนตัวแบบ MSG Series หลักเท่าไหร่นัก (จริงๆ ก็ทำได้ แต่ทำลำบากมาก ไปฟันแม่มเลยดีกว่า)
  • การต่อสู้เน้น ทำแพรี่ (แบบ Street III นั่นแหละ) แล้วสวนด้วย combo ฟันเบา + ฟันหนัก + Ninja Run ดูเผินๆ เหมือนจะธรรมดาแต่ เอาจริงๆ สนุกมาก สนุกกว่า DMC อีกทั้งๆ ที่มีแต่ดาบให้ฟัน
  • Blade Mode ฟันได้อิสระ แต่ใช้เกจพลัง จังหวะไวๆ ก็พลาดได้ง่ายเหมือนกัน ใช้จอยอนาล็อก Xbox ปรับมุมยากหน่อย และต้องใช้บ่อยมากเพื่อกระชากไส้ของศัตรูมาเติมพลังเรา
  • ฉาก Action มีอะไรให้ตื่นเต้นจนร้องเหยดเยอะมาก (feel เดียวกับตอนเล่น Modern Warfare 1-2) Quick time event ก็เนียนดี เข้ากับ action นั้นๆ กดทีโคตรลุ้นเลย
  • บอสทุกตัวสมกับเป็นบอส โหด เท่ สะใจ อลังการโคตรๆ Quick Time Event ตอนบอสนี่แม่มโคตรบีบเลย
  • เนื้อเรื่องเราเล่นเป็น Raiden คนเดียว (พี่เท่ทุกฉากเลยฮะ) เนื้อเรื่องเกิดหลัง MSG 4: Guns of the Patriots แต่ค่อนข้างจะอ้างอิงไปถึงเหตุการณ์ใน MSG 2: Sons of Liberty มากกว่า ซึ่งผมไม่เคยเล่นสักภาค (ฮาา)
  • เนื่อเรื่องสั้นมาก แต่ก็เหมือนกับ Series MSG อื่นๆ ที่เห็นคนอื่นเล่นมา คือมีกดเข้า call แล้วคุยกับตัวละครต่างๆ ได้ (หลักๆ คือเพื่อ save) ซึ่งจุดนี้มีบทสทนาเป็น plot รองเยอะมากกกกกกกกกกก บางทีนั่งฟังมันคุยกันไปเรื่อยๆ ก็เพลินนะ

สรุป สนุกมากๆ คุ้มโคตรๆ มี DLC Story Mode อีกสองตัว ต้องเก็บล่ะ

Bioshock Infinite: สู่อนันตกาล

Bioshock Infinite (อันนี้เวบหลัก http://www.bioshockinfinite.com/) เป็นเกมเครื่อง xbox 360 เกมแรกที่ผมเล่นจบในปีนี้ (เพิ่งเล่นจบเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเอง) ซ้ำยังเป็นเกมในตระกูล Bioshock เกมแรกที่ผมเล่นจบด้วย เพราะภาคแรกซื้อ steam ลดราคามาแต่กลัวผีจนเลิกเล่น

เกมนี้เราได้รับบทเป็น DeWitt Booker อดีตนายทหารผ่านศึกที่มีหนี้สินท่วมหัว เขารับงานนึงที่น่าจะง่ายๆ ว่าให้ไปช่วยผู้หญิงชื่อ Elizabeth ที่ถูกขังอยู่ในเมืองที่ชื่อ Columbia ออกมาแล้วจะล้างหนี้ทั้งหมดให้ เขาไม่รู้ว่าเมือง Columbia จริงๆ มันเป็นเมืองลอยฟ้า และเขาก็ลืมไปว่าไอ้งานง่ายๆ เนี่ย สุดท้ายมันจะโหดหินจนแทบเอาตัวไม่รอดเสมอ

เกมนี้สนุกมากๆ ครับ ตอนแรกเดินเรื่องด้วย plot อเมริกันแอนตี้ฮีโร่ vs อเมริกาคลั่งชาติขวาจัดคลั่งศาสนาที่เกมสร้างบรรยากาศ propaganda ได้สมจริงสุดๆ จนน่าขนลุกพอถึงกลางเรื่องๆ ก็เปลี่ยนธีมเป็น sci-fi ชั้นดีและจบด้วยตอนจบที่ทำให้ผมที่รู้ spoil มาแล้วครึ่งนึงแบบไม่ตั้งใจ (ก็หนังสือเกมเล่น spoil ตัวเป้งๆ นี่ครับ) ยังอึ้งจนต้องไปหาอ่านบทวิเคราะห์ในเนตอีกรอบเลย

game play ของเกมนี้เป็น fps ที่ผสมเกมแบบยุคเก่าที่มีเกทพลังชีวิต, มีเกราะ (ฟื้นอัตโนมัติ) และไม่เน้นการเล็งเท่าไหร่ บวกกับเกมยุคใหม่ที่ใช้ระบบ autosave เรื่อยๆ เราสู้ได้ทั้งมือขวามือซ้าย มือขวาจะเป็นปืน ส่วนมือซ้ายจะยิงพลังวิเศษที่ชื่อว่า Vigor มีให้เลือก 8 แบบทั้งยิงลูกไฟ, สะกดจิต, ยิงอีกาทั้งฉาก ฯลฯ ซึ่ง Vigor นี้ต้องใช้เกทพลังที่ชื่อว่า Salt ในการยิงครับ ฉากต่อสู้แต่ละฉากกดดันและมันมากๆ มีทุกอย่างที่เกม fps ชั้นดีควรจะมี ศัตรูฉลาดดี มีหลบ มีอ้อม มีล้อมเราได้ตลอด เรายังโหนตามราวในเมืองด้วย skyhook ซึ่งก็ตื่นเต้นหวาดเสียวดีแม้ว่าจะเล่นจนจะจบแล้วก็ตาม ตัวเกมไม่ยากไม่ง่ายเกินไปนัก พื้นที่ให้สำรวจเยอะมากๆ พร้อมมีอะไรซ่อนเยอะแยะแม้ว่าจะเดินเรื่องเป็นเส้นตรงก็ตาม ผมมาอ่านบทสรุปย้อนหลังแล้วก็พบว่าผมพลาดพื้นที่ลับไปหลายฉากเลยทีเดียว

อีกอย่างที่ยอดเยี่ยมคือนางเอกอย่าง Elizabeth ที่ช่วยเราในการต่อสู้, ดูแลตัวเองได้ (เราไม่ต้องดูแลเธอระหว่างต่อสู้เลย) บวกด้วยเนื้อเรื่องและ AI ที่ทำให้เราอินและเอาใจช่วยไปกับเธอ ผมยกให้เธอคือหนึ่งในตัวละครที่น่าจดจำที่สุดตัวหนึ่งในวงการเกมเลย

ข้อเสียเกมนี้ก็มีบ้างครับเช่นเกมมันออกจะเหนือธรรมชาติระดับนี้แล้วพี่จะให้พกปืนได้ทีละ 2 อันทำไม -*-, vigor มีให้เลือกน้อยไปหน่อยและที่ใช้ยิงตรงๆ ก็มีน้อยและเนื้อเรื่องอเมริกันแอนตี้ฮีโร่ vs อเมริกาคลั่งชาติก็ไม่ได้รับการคลายปมเท่าไหร่ (แต่ได้ sci-fi ที่เดาได้แต่นึกไม่ถึงมาแทน)

Bioshock infinite poster

สรุปแล้วเกมนี้ดีมากๆ เนื้อเรื่องดี ลึกซึ้ง อึ้ง game play สนุก ตื่นเต้นโคตรๆ ลุ้นได้ตลอดเกม ผมให้ 9.8/10 เลย ^^

ป.ล. เล่นแล้วอยากย้อนกลับไปเล่นภาคแรกเลยแฮะ
ป.ล. 2 แม้ประเด็นการเมืองจะถูกทิ้งไว้ค้างๆ คา แต่ก็พอสอนเราได้ว่าคนมันก็แบบเป็นสองแบบคือ 1. สันดานขวาที่อยู่ฝ่ายขวา และ 2. สันดานขวาที่อยู่ฝ่ายซ้าย