python: สร้าง string 1 ถึง 500

ช่วงนี้มีงานที่ต้อง test api กับ dummy item ประมาณ 500 item บ่อย ซึ่งต้อง input เข้าไปเป็น string แบบ “1,2,3,4,5,6,…,499,500” (ไอ้ … คือ 7,8,9,10 ไปเรื่อยๆ จนถึง 500) จะให้เขียนมือก็กระไรอยู่ ก็เลยเขียน script ง่อยๆ มา gen แม่มซะ

",".join([str(value) for value in range(1,501)])

ซึ่งก็จะได้ผลลัพท์มาประมาณนี้

'1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12,13,14,15,16,17,18,19,20,21,22,23,24,25,26,27,28,29,30,31,32,33,34,35,36,37,38,39,40,41,42,
43,44,45,46,47,48,49,50,51,52,53,54,55,56,57,58,59,60,61,62,63,64,65,66,67,68,69,70,71,72,73,74,75,76,77,78,79,80,81,82,
83,84,85,86,87,88,89,90,91,92,93,94,95,96,97,98,99,100,101,102,103,104,105,106,107,108,109,110,111,112,113,114,115,116,1
17,118,119,120,121,122,123,124,125,126,127,128,129,130,131,132,133,134,135,136,137,138,139,140,141,142,143,144,145,146,1
47,148,149,150,151,152,153,154,155,156,157,158,159,160,161,162,163,164,165,166,167,168,169,170,171,172,173,174,175,176,1
77,178,179,180,181,182,183,184,185,186,187,188,189,190,191,192,193,194,195,196,197,198,199,200,201,202,203,204,205,206,2
07,208,209,210,211,212,213,214,215,216,217,218,219,220,221,222,223,224,225,226,227,228,229,230,231,232,233,234,235,236,2
37,238,239,240,241,242,243,244,245,246,247,248,249,250,251,252,253,254,255,256,257,258,259,260,261,262,263,264,265,266,2
67,268,269,270,271,272,273,274,275,276,277,278,279,280,281,282,283,284,285,286,287,288,289,290,291,292,293,294,295,296,2
97,298,299,300,301,302,303,304,305,306,307,308,309,310,311,312,313,314,315,316,317,318,319,320,321,322,323,324,325,326,3
27,328,329,330,331,332,333,334,335,336,337,338,339,340,341,342,343,344,345,346,347,348,349,350,351,352,353,354,355,356,3
57,358,359,360,361,362,363,364,365,366,367,368,369,370,371,372,373,374,375,376,377,378,379,380,381,382,383,384,385,386,3
87,388,389,390,391,392,393,394,395,396,397,398,399,400,401,402,403,404,405,406,407,408,409,410,411,412,413,414,415,416,4
17,418,419,420,421,422,423,424,425,426,427,428,429,430,431,432,433,434,435,436,437,438,439,440,441,442,443,444,445,446,4
47,448,449,450,451,452,453,454,455,456,457,458,459,460,461,462,463,464,465,466,467,468,469,470,471,472,473,474,475,476,4
77,478,479,480,481,482,483,484,485,486,487,488,489,490,491,492,493,494,495,496,497,498,499,500'

แล้วก็จะให้ print ลง file หรือ redirect ลง file ก็ได้ เพื่อเอาไอ้ string 1 ถึง 500 นี่ไปใช้ต่อ

จริงๆ จะเขียนให้ code ที่มาเรียก api gen 1 ถึง 500 นี่ก็ได้นะ แต่ว่า code บน JavaScript น่าจะหลายบรรทัดอยู่มั้ง (?)

ex C.S.I. meeting @ปาเต๊ะ by Note II

เดือนที่แล้วผมมีนัดกินข้าวกับเพื่อนๆ ที่เคยร่วมงานกันสมัยยังทำงานอยู่บริษัท C.S.I. Thailand กันที่ร้านปาเต๊ะ ตรงแถวๆ เซ็นทรัลลาดพร้าวครับ

เพื่อนกลุ่มนี้พวกเรารู้จักกันมานับได้ก็ 10 ปีแล้ว แม้ว่าทุกคนจะมาจากต่างสถาบัน, ต่างมหาวิทยาลัย แต่ทุกคนเริ่มต้นทำงานที่บริษัท C.S.I. เป็นที่แรกเหมือนกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขและฝ่าดงตีนคมหอกคมดาบมาด้วยกันทำให้สนิทสนมกันมาก ปัจจุบันนี้ผมและเพื่อนหลายๆ คนแม้ว่าจะแยกย้ายกันไปเกือบหมดแล้วแต่ก็ยังสนิทสนมและคบหากันอยู่ครับ


ถั่วฟรี จุดเด่นของปาเต๊ะเลย

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ลองย้ายที่กินมาที่ปาเต๊ะ เพราะเบื่อร้านแพงๆ และบุฟทั้งหลาย ผมเลยแนะนำร้านนี้ดู เพราะอาหารอร่อย บรรยากาศดี ราคาไม่แพงนัก ติดที่ร้านคับแคบไปนิดนึงก็เท่านั้น
Continue reading “ex C.S.I. meeting @ปาเต๊ะ by Note II”

กู เป็น API Support

แนะนำให้อ่านกู เป็น Support ก่อนนะ

ผมเคยเขียน blog เรื่องชีวิตทำงานนานแล้ว (link ข้างบนนั่นแหละ) ว่าผมไม่ได้หากินกับการเขียน code เพราะเป็น support แต่สุดท้ายยังไงๆ ผมก็หนีไม่พ้น code อยู่ดี เพราะสิ่งที่ผม support คือ api -*-

การ support api นั้นความรู้ที่จะต้องมีต่างจากการ support product อื่นๆ อย่างพวกสาย end user support หรือ server support ก็คือ

  • แน่นอนว่าต้องเขียนโปรแกรมเป็น โดยเฉพาะภาษาของ api ที่เรา support เราต้องเขียนโปรแกรมเรียกใช้ api ที่เรา support ได้
  • ต้องอ่าน code ของ dev-ลูกค้า ที่มาเรียกใช้ api เราได้
  • ต้องอ่าน code example ของ api เราที่ส่งออกไปให้ dev-ลูกค้า อ่านได้
  • ต้อง debug code ไม่ว่าจะของลูกค้าหรือ example เราได้
  • ในกรณีที่เข้าถึง code api ที่เรา support ได้ ควรจะอ่าน code พอเข้าใจ/ไล่ flow/debug/build diagnostic binary ได้ เพราะว่า No matter what the documentation says, the source code is the ultimate truth

จะเห็นว่า skill ด้านบนมันก็ไม่ต่างจาก dev เท่าไหร่ หลักๆ คือต้องเขียนโปรแกรมเรียกใช้ api เราได้ (ผมใช้คำว่าเขียนได้ คือไม่จำเป็นต้องลึกมาก แต่ยิ่งรู้ลึกๆ ยิ่งดี) ,อ่าน source code ออก , อ่าน source code ชาวบ้านออก (ประสบการณ์การเป็น outsource และการเป็น dev ใน support phase ช่วยผมได้เยอะมาก) debug เป็น ซึ่งการฝึกฝนการเป็น support api ก็คล้ายๆ กับการหัดเป็น dev คือหัดเขียนโปรแกรม, หัดอ่าน code, หัดอ่าน document , ลองมันเข้าไป สงสัยอะไร ติดอะไรก็ไปถาม dev

อ่านดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ปัญหาหลักๆ ก็คือคนมาเป็น support เพราะไม่อยากเขียนโปรแกรมแล้ว …. คือไม่อยากเขียนโปรแกรมแล้วแต่ยังอยากอยู่สาย IT อยู่ คือกะจะขึ้นสายบริหารก็กะว่ามาเป็น support จะได้ management มากขึ้น -*- เราจึงมี support ที่เน้นการ managment ปัญหาให้พ้นๆ ตัว ไม่ก็โยนงานไปที่ dev เลย ดีหน่อยก็ reproduce ได้แล้วก็ส่งให้ dev ต่อโดยที่ไม่ลองหาทางแก้ไขปัญหาเองเลย

ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงการ support api เพราะส่วนใหญ่ไม่ยุ่งกับ code แล้ว skill ด้านบนเกือบทุกอย่างนี่ตัดทิ้งไปได้เลย ให้หัด support api ก็ไม่อยากจะอ่าน code, ไม่ลองเล่น example, ไม่คิดจะขวนขวายอะไร รอให้คนที่เป็นอยู่แล้วทำ powerpoint มาสอนให้เขียนโปรแกรมเป็น ให้อ่านโปรแกรมออก

เจริญล่ะมึงเอ๊ย

ป.ล. ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจ require.js ที่ api ผมเริ่มเปลี่ยนมาใช้ แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือผ่านการอ่านและลองเล่นมาแล้ว ให้ตายไงก็ไม่เข้าใจมัน (คิดว่าตัวเองยังไม่เข้าใจ JavaScript ดีพอ)