สะพายกล้องเที่ยว KL #1

จริงๆ อันนี้เป็นทริปเดียวกับเที่ยวมะละกาในตอนที่แล้วครับ สองวัน (จริงๆ วันครึ่ง) สุดท้ายของทริปผมเปลี่ยนมาเที่ยว KL แทนครับ

พอมาถึง KL Sentral ปุ๊บผมก็นั่งรถต่อมาสถานี Masjid Jamek เพื่อไป check in ที่ Hostel Backhome เป็นการไปนอน Hostel คนเดียวครั้งแรกของผมเลย ได้ห้องรวมด้วย Hostel สะอาดดี แต่พวกผ้าห่มอะไรนี่ต้องเสียเงินเพิ่ม -*- ในห้องมีตู้ locker ให้ (เอากุญใจมาใส่เอง) ตอนผมเข้าไปนี่คนอื่นในห้องออกไปหมดแล้ว ผมนั่งพักสักครู่ก็มีสองสาวอังกฤษเข้ามา คุยกันก็ได้ความว่าพวกเธอเพิ่งเดินทางมาถึงเลย Jet lag สุดๆ จนมาถึงปุ๊บก็นอนเลย -*- ผมก็เลยออกไปมาเที่ยวต่อครับ

ก่อนอื่นก็ไปหาของกินก่อนครับ ก็ไปกินข้าวกลางวันที่ China Town (ถนน Petaling) ร้านค้าขายของเยอะมาก ร้านอาหารยังเปิดน้อยอยู่ ผมเลือกไปได้ร้านนึงมีข้าวหมูกรอบที่ผมอยากกินพอดี ก็เลยจัดซะ


อูย


ร้านข้างๆ (จริงๆ ก็ร้านเดียวกัน) ลวกบะหมี่กินเองอยู่ เหมือนร้านนี้จะเป็นเฟรนชายน์นะ เห็นหลายร้านเลย

กินเสร็จก็เดินถ่ายรูปเล่นใน China Town ยามกลางวันครับ ถ่ายรูปสนุกดี


รูปนี้เขาบอกคนจีนว่าห้ามถ่ายเขากับลิง แต่คนจีนยังถ่ายเขาเลยชี้หน้าด่าเลยครับ

เสร็จแล้วก็เดินออกมาไปนั่งรถไฟฟ้าจากสถานี Pasar Seni ไปสถานี Dan Wangi เพื่อไปต่อรถ Monorail ครับ (เดินไกลอยู่) สถานีต่างๆ เขายังเก่าๆ โทรมๆ เช่นเคย แต่ต้องอย่าลืมว่าเขามีขนส่งมวลชนพวกนี้ก่อนบ้านเราเป็น 10 ปีทั้งๆ ที่ตอนแรกเขามาดูงานที่บ้านเรานะ -*-


ทางเดินจากถนน Petaling ไปสถานี Pasar Seni จะงงๆ หน่อยครับ (เด็กร้านข้าวแม่งบอกให้นั่ง Taxi) ตรงสถานีนี่มีจุดป้ายรถเมล์หลายสายด้วย


โทรมๆ เหมือนเดิม


ในรถ Monorail
Continue reading “สะพายกล้องเที่ยว KL #1”

สะพายกล้องเที่ยวฮ่องกง #3.5: บ๊ายบายฮ่องกง

ต่อจากตอนที่แล้ว พอพวกผมกลับมาจากกระเช้าหนองปิง ก็เดินซื้อของกันครั้งสุดท้ายที่ห้าง Citygate ครับ รอบนี้ผมนึกไงไม่รู้ลองเดินไปหลังห้างดูว่ามีอะไร ก็ไปเจอทางเดินที่เข้าไปในหมู่บ้านของชาวบ้านแถวนี้ เห็นร้านขายของชำ เห็นชาวบ้านเดินมาออกกำลังกาย ก็ดูแล้วแถวนี้น่าอยู่ดีแม้จะไกลจากเขตหลักๆ ของฮ่องกงมาก

หลังจากเดินซื้อของทั้งของตัวเอง ซึ่งก็หาซื้อไม่ค่อยได้เพราะไอ้ที่อยากได้ลดแล้วยังรู้สึกว่าแพงอยู่ดี ส่วนตัวห้าง Citygate ผมรู้สึกว่ามันใหญ่ขึ้น ร้านก็เยอะขึ้นนะ

ผมและเพื่อนก็ไปกินข้าวเย็นกันที่ Food Republic ครับ รอบนี้มีรู้สึกว่าร้านอาหารนานาชาติจะเยอะขึ้นมาก ไอ้ผมอยากกินอาหารจีนพวกข้าวหมูแดงหรือเป็ดอะไรงี้มื้อสุดท้ายก็ดันไม่มีซะงั้น -*- คนเยอะทุกร้านเลยครับ สุดท้ายก็ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลามาแทน ดูจีนที่สุดล่ะ (ร้านนี้ขายโจ๊กด้วย)

กินเสร็จก็ไปเอากระเป๋าใน Locker (มีจัดกระเป๋าใหม่บ้างเล็กน้อย) แล้วก็นั่งรถเมล์ไปสนามบินครับ ตอนแรกเพื่อนจะสั่ง MTR ย้อนไปนั่ง Airport express แต่ผมบอกว่าไปรถเมล์ดีกว่า เร็วกว่า ถูกกว่ากันเยอะ ซึ่งก็จริงเพราะใช้เวลาแค่ 10 นาทีเองก็ถึงสนามบินแล้ว


หือ ทุเรียน

พอถึงสนามบินก็ต้องลงไปแลกคืนบัตร Octopus ที่ชั้น 1 ครับ ส่วน counter สายการบิน Hong kong Airline นี่อยู่ไกลมากกก พวกผมไป check in, โหลดกระเป๋าแล้วก็เดินเล่นล่ะ สนามบินที่นี่ใหญ่โคตรๆ ครับ ข้างในมีร้านอาหารเยอะมาก

ส่วน Duty free ที่นี่อลังการมากครับ มีกระจายหลายๆ gate รวมกันแล้วใหญ่ยังกับห้าง ผมเดินดูๆๆ ซื้อของฝากอะไรนิดหน่อย (เน้นเดินดูเป็นหลักเพราะมีเยอะมากกกก) พอห้าทุ่มเขาก็เริ่มปิด duty free ละครับ เพราะตามเวลาเขาปิดเที่ยงคืน พอ duty free ปิดปุ๊บพวกผมก็ไม่มีที่เดินเล่นล่ะ ต้องมาแหง่วรอที่หน้า gate แทน ระหว่างรอก็เล่นเนต free wifi สนามบินครับ ไม่ต้องลงทะเบียนอะไรเลยด้วย ดีจัง


Gate แม่งก็โคตรไกลลล เดินหลงกับเพื่อนเป็นชั่วโมงเลยกว่าจะเจอกัน

สุดท้าย Flight แม่งก็ delay ครับ พอได้ขึ้นเครื่องนี่ขากลับทัวร์จีนเพียบเลย พวกสาวๆ วัยรุ่ยจีนก็แหล่มดีอยู่หรอก แต่ว่าแม่งโคตรวุ่นวายทั้งลำเลยครับ ตั้งแต่ก่อนเครื่องจะขึ้น เครื่องขึ้นยันเครื่องลงนี่เสียงดังมากก เดินไปเดินมาตอนเขาห้ามให้เดิน เล่นเกมเสียงดังอีก

อาหารบนเครื่องขากลับก็มีนะครับ เป็นขนมปัง 1 ชิ้น หอมดี ใหญ่ด้วย อร่อยกว่าที่คิด

หลังจากทรมานทรกรรมกับทัวร์จีนในที่สุดผมก็หลับลง กว่าจะกลับถึงไทยก็เกือบๆ ตีสามครับ กว่าจะเอาของอะไรก็ตีสามกว่า แล้วก็นั่ง taxi สนามบินถึงบ้านโดยสวัสดิภาพครับ (แม้จะเสียวๆ เหมือนรถมันจะหลับในก็ตาม)

สรุปทริปนี้ก็เป็นทริปที่สนุกดีครับ ได้กินอาหารอร่อยๆ เพียบ ได้ไป sky100 ที่อยากไป (แม้จะไปผิดเวลา) ข้อเสียอย่างเดียวของทริปนี้ก็คือเป็นทริปเน้นกินตามที่ list ไว้จนทำให้พลาดหลายๆ ร้านที่น่าสนใจที่มีมากมายอยู่เต็มไปหมดซะงั้น -*- สำหรับผมแล้วฮ่องกงยังเป็นประเทศที่เที่ยวง่ายและถ่ายรูปสนุกเช่นเคยครับ

Bangkok photo 101: day 3