The Martian

The Martian

The Martian เป็นหนังที่สร้างจากนิยายขายดี เล่าถึง Dr. MannMark Watney หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังปฏิบัติภารกิจสำรวจดาวอังคารที่ถูกทิ้งไว้บนดาวอังคารเพราะความเข้าใจผิด (หรือซวย) เขาจึงต้องหาทางเอาตัวรอดบนดาวอังคารพร้อมๆ กับหาทางติดต่อกลับไปที่โลกให้ได้

หนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนังอวกาศอย่าง Interstellar หรือ Gravity ตรงที่มันไม่ได้เหนือจินตนาการแบบ Interstellar หรือลุ้นระทึกแบบ Gravity แต่มันเป็นหนังเอาตัวรอดในอวกาศที่เข้าใจง่ายแถมยังตลกมากๆ มุกตลกทุกมุกแทรกมาได้ถูกจังหวะ ฮาทุกดอก โดยเฉพาะมุข The Lord of the ring นี่สุดตรีนมากเลยครับ เพลงประกอบก็เจ๋งทุกเพลง (โดยเฉพาะเพลง End credit) เรื่องราววิทยาศาสตร์ในเรื่องก็นำเสนออย่างเข้าใจง่ายๆ ดูเข้าใจแน่นอน จังหวะจะลุ้นระทึกนี่ก็ลุ้นพอตัวเลย ส่วนตัวแล้วชอบมากกว่า Interstellar อีกนะ

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดและทำให้เกิดคำถามมากที่สุดของ The Martian คือการเลือก Matt Damon มารับนำทั้งๆ ที่พี่แกเพิ่งรับบทคล้ายๆ กันใน Interstellar เมื่อปีที่แล้ว (แถม Jessica Chastain หรือ Murph ด้วยอีกคน) ซึ่งนักแสดงทุกคนก็เล่นดีมากโดยเฉพาะ Matt ที่เล่นดีมากๆ จนลืม Dr. Mann ไปเลย (ฮาาา)

สรุป: ควรไปดู ผมกะจะไปซื้อหนังสือมาอ่านล่ะ ^^

Pawn Sacrifice

Pawn Sacrifice เป็นหนังชีวประวัติของ Bobby Fischer นักเล่นหมากรุกระดับ Grandmaster ชาวอเมริกันที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเล่นหมากรุกที่เก่งที่สุดตลอดกาล เขาซึ่งมีปัญหาสุขภาพจิตต้องแบกรับความหวังของคนทั้งประเทศ (และความอยากเป็นที่หนึ่งของเขาเอง) ในการพิชิตแชมป์หมากรุกชาวรัสเซียในระหว่างที่โลกยังอยู่ในช่วงสงครามเย็น

ตัวหนังดูสนุกและหดหู่ไปพร้อมๆ กันครับ แทรกบทตลกได้ถูกจังหวะ หนังปลายเปิดให้คิดตามเยอะมาก ดูแล้วรู้สึกว่าทุกคนมอง Bobby ว่ามีค่าแค่เป็นคนเล่นหมากรุกให้ชนะรัสเซียได้ก็เท่านั้น ไม่มีใครรักเขาจริงๆ เลย (ยกเว้นพี่สาว) มีประเด็นการสงครามที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้อาวุธมาฟาดฟันกันเสมอไป แต่มาสู้ผ่านตัวแทนประเทศแทน ซึ่งผลสุดท้ายตัวแทนประเทศก็เจ็บช้ำไม่แพ้ทหารที่ออกไปรบจริงๆ แถมสงครามจบเขาก็ถูกลืมไม่ต่างกันด้วย

เป็นอีกหนึ่งหนังดีฟอร์มเล็กที่อยากแนะนำในช่วงที่มีแต่หนังใหญ่ๆ แบบนี้ครับ

Maze Runner: The Scorch Trials

The Scorch Trials (หนังสือ) เล่าเรื่องราวต่อจากภาคแรก เมื่อพระเอกหนีออกจากเขาวงกตออกมาได้ ก็มีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายมาช่วยพวกเขาออกไปอยู่ในค่ายที่มีชีวิตความเป็นอยู่ดีเยี่ยม ก่อนที่จะพบว่า..หนีเสือปะจระเข้ชัดๆ

  • ภาคแรกมีประเด็นการอยู่ร่วมกันในสถานการณ์ดิบๆ (Lord of the Files) และความขัดแย้งระหว่างสองกลุ่มความเห็นให้พอมีเนื้อหาด้านลึกบ้าง แต่ภาคนี้ไม่มีเลย กลายเป็นหนังหนีซอมบี้ธรรมดาๆ
  • ภาคแรกเปิดเผยเนื้อเรื่องและผูกปมใหม่ได้อย่างฉลาด น่าติดตาม แต่ภาคนี้ปมที่เปิดเผยกับที่ผูกไว้ไปต่อก็งั้นๆ
  • มีนักแสดงจาก Game of Thrones เพิ่มมาอีก 2 คนคือ Littlefinger และแม่สาวล่าม Missandei

สรุปภาคแรกสนุกกว่าเยอะ แต่ก็คงดูภาค 3 ล่ะนะ อยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไง