Hotaru no Hikari: สาวปลาแห้งขอปิ๊งรัก

Hotaru no Hikari: It’s Only A Little Light In My Life (Asian Wiki: season 1, season 2) หรือชื่อไทยว่า “สาวปลาแห้งขอปิ๊งรัก” เป็น Series ญี่ปุ่นแนว Romantic Comedy ที่ฉายตั้งแต่ปี 2007/2010 โน่นเลยแต่ผมไม่ได้ดู (คุ้นๆ ว่าในไทยก็มีฟรีทีวีเอามาฉายมั้ง) ตอนนี้ Netflix ประเทศไทย เพิ่งเอาเข้ามาก็เลยเพิ่งดูรวดเดียวจบเมื่ออาทิตย์ก่อนเองครับ

ภาพประกอบจาก Drama Wiki

Hotaru no Hikari เล่าเรื่องราวของ Amemiya Hotaru (แสดงโดย Haruka Ayaseพนักงานดาวเด่นของแผนกตกแต่งภายในของบริษัทก่อสร้างในโตเกียว ด้วยบุคลิกความเป็น Working Women เต็มตัว ทั้งฉลาด เก่ง ทุ่มเทกับงานและเข้ากับคนอื่นได้ดี แต่ใครจะรู้ว่ายามเธออยู่บ้านนั้นเธอจะกลับสู่ร่าง “สาวปลาแห้ง” ที่ชอบใส่ชุดวอร์ม มัดผมจุก กินเบียร์ ทำตัวขี้เกียจ ทิ้งของไว้เกลื่อนบ้าน รักการนอนอยู่บ้านมากกว่าไปเดตกับผู้ชาย (ค่านิยมสมัยนั้นอ่ะนะ) เธอใช้ชีวิตสองแบบอย่างปกติสุขจนกระทั่งวันหนึ่ง Takano Seiichi (แสดงโดย Naohito Fujiki) ผู้จัดการแผนกสุดหล่อจอมเนี๊ยบของเธอแยกทางกับภรรยาและต้องระหกเหินกลับมาอยู่บ้านพ่อแม่ แต่ว่าบ้านหลังนั้นพ่อเขาปล่อยให้ Amemiya เช่าไปแล้วนี่สิ พวกเขาต้องอยู่ด้วยกันโดยปิดบังไม่ให้คนอื่นรู้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกัน ในระหว่างนี้ผู้จัดการก็คอยช่วยให้ Amemiya สมหวังกับหนุ่มที่เธอแอบรักเพื่อที่เธอจะได้ย้ายออกไปจากบ้านพ่อเขาสักทีครับ

ภาพประกอบจาก Drama Wiki

ส่วน Season 2 นั้นเล่าเรื่องราวของ Amemiya ที่กลับจากการทำงานที่ฮ่องกงมา 3 ปีโดยไม่ได้ติดต่อใครเลย เมื่อเธอกลับมาทำงานที่แผนกเดิมก็พบว่าเพื่อนร่วมงานในแผนกเปลี่ยนหน้าไปหมดแล้ว ไม่เพียงแต่เพื่อนร่วมงานที่เปลี่ยน ผู้จัดการของเธอก็เปลี่ยนไปด้วยใน 3 ปีนี้ เธอกับผู้จัดการต้องอยู่ร่วมกันโดยไม่ให้คนอื่นรู้ พร้อมๆ กับมีหนุ่มหล่อหน้าใหม่ที่ชื่อ Seno มาสนใจ Amemiya แบบออกหน้าออกตาครับ

อ้อ สงสัยเพราะ Series นี้เก่ามากผมก็เลยหา Trailer ใน youtube ไม่ได้เลย (เพราะสมัยนั้นไม่ค่อยมีตัวอย่างลง internet ด้วยมั้ง)

ผมดูทั้ง 2 Season ก็เข้าใจล่ะครับว่าทำไมมันถึงยังเป็น Series ในดวงใจของหลายๆ คนจนถึงบัดนี้ มันสนุกติดงอมแงมมาก ตลก เนื้อเรื่องน่ารัก ดูแล้วโคตรมีความสุข เคมีของนักแสดงก็เข้ากันดีโดยเฉพาะ Haruka Ayase ที่น่ารักวัวตายควายล้มมากกับ Naohito Fujiki ที่รับบทเป็นผู้จัดการจอมเนี๊ยบที่ต้องเก๊กเวลาอยู่นอกบ้านได้ดี เวลาฉากทั้งคู่อยู่ที่บ้านนี่มันให้ความรู้สึกเหมือนคนที่อยู่ด้วยกันจนรู้ใจกันจริงๆ นักแสดงท่านอื่นก็เล่นดีไม้แพ้กัน แต่ผมชอบเคมีของบรรดาเพื่อนร่วมใน Season แรกมากกว่า

อีกอย่างคือถึงเนื้อเรื่องจะเก่า (มือถือฝาผับทั้งสอง Season) แต่ประเด็นหลายอย่างในเรื่องก็ยังคงทันสมัยเมื่อดูตอนนี้ ไม่ว่าจะเรื่องส่งเสริมผู้หญิงในที่ทำงาน ค่านิยมทางเพศกับค่านิยมของสังคมในเรื่องการวางตัวต่างๆ ใน Season 1 จะเน้นเรื่องการเป็นตัวของตัวเองกับการยอมรับความแตกต่างของคนอื่น ส่วน Season 2 จะเน้นเรื่องความสัมพันธ์มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเชื่อใจกัน การปรับตัว ความคาดหวังต่างๆ ในชีวิตคู่ ค่านิยมของคนรุ่นใหม่ หรือกระทั่งเรื่องที่อาจจะเฉพาะประเทศญี่ปุ่นหน่อยอย่างเรื่องแต่งงานแล้วจะทำงานต่อหรือเป็นแม่บ้านดีทำนองนี้ ประเด็นต่างๆ เหล่านี้แทรกมาได้เข้ากับเนื้อเรื่องได้อย่างดีเลย มีแค่เรื่องสาวปลาแห้งที่ส่วนตัวผมว่าก็ไม่ได้แปลกเลยไม่อินกับอาการของคนในเรื่องเท่าไหร่

นอกจากสิ่งที่เป็นธีมร่วมของทั้งสองภาคคือในเรื่องเวลาเราชอบใครเราจะอยากให้เขามีความสุขกับคนที่เขารักครับ เราแทบจะไม่เห็นการชิงรักหักสวาทอะไรในเรื่องเท่าไหร่ (มีบ้าง แต่น้อย) กลายเป็นคอยช่วยให้คนที่เรารักสมหวังแทน (แต่ก็บอกรักนะ แต่ออกตัวว่ายอมแพ้งี้) ซึ่งเป็นแง่มุมที่ไม่เห็นในละครไทยเท่าไหร่ อีกอย่างนึงคือความรักในเรื่องไม่ใช่ความรักที่แบบหวือหวา รักแรกพบอะไรแบบนั้นแต่เป็นแนวอยู่ด้วยแล้วสบายใจ เป็นตัวของตัวเองพร้อมๆ กับเปิดใจรับอีกฝ่ายได้ ออกแนวรักซึมรึกเกือบทุกคู่ในเรื่องเลย น่ารักและน่าสนใจดีครับ

ถ้าใครอยากดูเรื่องนี้ซ้ำหรือไม่เคยดูมาก่อนล่ะก็แนะนำเลย สนุก ฟิน น่ารัก ตลก Haruka Ayase น่ารักสุดๆ ส่วน Naohito Fujiki ก็หล่อฮาสุดๆ ไม่แพ้กัน รับรองว่าไม่ผิดหวัง