Chungking Express

Chungking Express เป็นหนังหว่องกาไวเรื่องสุดท้ายที่สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล นำมาฉายใหม่แบบ 4K และเป็นเรื่องที่สองที่ผมดูทันด้วย (เรื่องระหว่างนั้นป่วย อดดูไป) อ้อ อีกสิ่งที่เป็นตำนานของเรื่องนี้คือชื่อไทยที่ไม่รู้นึกไงตั้งว่า “ผู้หญิงผมทอง ฟัดหัวใจให้โลกตะลึง”….

ภาพประกอบจาก imdb

Chungking Express เล่าเรื่องราวของคน 2 คู่ที่ไม่เกี่ยวอะไรกัน (เกี่ยวแบบหลวมๆ ก็ได้) คู่แรกคือนายตำรวจ 223 (แสดงโดย Takeshi Kaneshiro) ที่เพิ่งเลิกกับแฟนไปและทำใจไม่ได้กับสาวนักค้ายาผมทอง (แสดงโดยหลินชิงเสีย!!!) ที่พบเจอกันโดนบังเอิญ อีกคู่คือนายตำรวจ 663 (แสดงโดยเหลียงเฉาเหว่ย) ที่ก็เพิ่งเลิกกับแฟนเหมือนกันกับอาเฟย (แสดงโดย Faye Wong) ที่แอบชอบ 663 อยู่ข้างเดียว

บอกตรงๆ ว่าคู่นายตำรวจ 223 กับสาวผมทอง (ฟัดหัวใจให้โลกตะลึง) นั้นดูแล้วผมไม่อินไม่เข้าใจเท่าไหร่ คือในมุม 223 น่ะเข้าใจอยู่เรื่องไม่พร้อมที่จะ move on, สภาพของคนที่ทำยังไงก็ลืมไม่ลงพร้อมตั้งข้อสงสัยว่าความรักมีวันหมดอายุไหม แต่พอจังหวะที่ตัวเองลองจะเปิดใจก็ดันไปเจอโอกาสแบบผิดที่ผิดเวลาอีก เป็นเนื้อเรื่องส่วนที่แสดงความเหงาออกมาได้ดีมากครับ แต่เรื่องราวในแง่มุมของแม่สาวผมทองนั้นไม่เก็ตเท่าไหร่จริงๆ

ภาพประกอบจาก imdb

ส่วนคู่ 663 กับอาเฟยนั้นดูสนุกมากกกก น่ารัก โคตรลุ้นและ Creepy หน่อยๆ (ไม่หน่อยเลยล่ะ – ถ้าเจอกับตัวเองคงมีชะงัก) ฝีมือระดับเฮียเหลียงการันตีอยู่แล้ว ส่วน Faye Wong ก็แสดงดีในบทสาวจิตๆ ที่ไม่กล้าแสดงตัวว่าแอบรัก (แต่คนอื่นเขาดูออกกันหมด) ตัวนายตำรวจ 663 เองนั้นก็ลืมรักเก่าไม่ได้เช่นเดียวกับ 223 เพียงแต่เขาไม่ได้มีกำหนดเวลาและพร้อมที่จะเปิดโอกาสให้ตัวเองเสมอ เป็นเนื้อเรื่องส่วนที่รู้สึกชอบและอินมากกว่าเนื้อเรื่อง 223 ตรงที่มัน Feel Good ตลก (และ Creepy) กว่า

โคตรชอบฉากนี้ ภาพประกอบจาก imdb

จุดเด่นของเรื่องนี้คือเล่าความเปลี่ยวเหงาของชีวิตในเมืองใหญ่ที่มีแต่ความวุ่นวายได้อย่างดี ทั้งๆ ที่ฮ่องกงนั้นเล็ก แออัด เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายสัญชาติ (หนังเน้นตรงนี้มาก) แต่เราก็เห็นชัดเจนว่าถ้าใจเราเหงาจะยังไงก็เหงา ไม่ว่าเราจะเป็นตำรวจที่มีร้านประจำให้คุยปรับทุกข์ มีเพื่อนให้โทรหาก็ตาม (เว้นแต่สาวที่แอบรักคนอื่นอ่ะนะ) งานภาพฝีมือ Christopher Doyle ที่พล่าเบลอ สั่นไหวจากเทคนิค handheld แต่มีบางจุดที่ชัด ช้าๆ แต่ส่วนอื่นไวๆ ยิ่งเน้นความโดดเดี่ยวของตัวละครได้เป็นอย่างดี เรื่องนี้จุดจะเป็นตรงกันข้ามกับ In the Mood For Love ที่เน้นเรื่องภาพนิ่ง เฟรมและองค์ประกอบภาพครับ ซึ่งภาพแต่ละเรื่องก็เน้น “ข้อความ” ของเรื่องได้ดี

เพลงประกอบก็ดีโดยเฉพาะเพลง California Dreamin’ ที่ฟังจนติดหูเลยฮ่าๆๆ

เทียบกับ In the Mood For Love แล้วผมยังชอบ In the Mood For Love มากกว่าคือ “เนื้อเรื่อง” มันตราตรึงกว่า เพราะตัวหนัง Chungking Express ที่จริงๆ แล้วเป็นหนัง comedy-drama ด้วยมันเลยทำให้ผม “ติดค้าง” ในเรื่องน้อยกว่า แต่ก็ไม่ได้บอกว่ามันด้อยกว่านะครับ มันเป็นหนังที่ดูสนุก ลุ้นกับความรัก (และความจิต) พร้อมๆ กับแสดงให้เห็นถึงความอ้างว้างในเมืองใหญ่ได้อย่างน่าประหลาด

สำหรับผมแล้ว Chungking Express เป็นหนังที่ผมชอบตั้งแต่รอบแรกที่ดู และยังอยากดูอีกหลายๆ รอบครับ

ป.ล. ดูแล้วอยากกินเคบับ!!!
ป.ล. 2 ดูแล้วมีหลายๆ อย่างคิดถึง vlog Why We Have To Make Mistakes In Photography ของ Ian Wong ครับ