Goodbye Scala

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาผมไปลาโรงภาพยนตร์สกาลามาครับ นับเป็นโรงสุดท้ายในเครือ Apex ที่ปิดฉายภาพยนตร์ไป ที่ว่าลานั้นไม่ได้ไปดูหนังรอบสุดท้ายมาหรอกนะเพราะจองไม่ทันจริงๆ เลยได้แต่ไปถ่ายรูปไฟที่ทางโรงจะเปิดตลอดระหว่างวันที่ 3-5 กรกฏคมที่ผ่านมาเพื่อให้แฟนๆ ได้เก็บภาพความทรงจำกับ event “La Scala ลาสกาลา”

ผมเองนั้นจำไม่ได้หรอกว่าหนังเรื่องแรกที่ดูที่สกาล่าคือเรื่องอะไร แต่โรงนี้และเครือถือว่ามีอิทธิผลกับชีวิตการดูหนังของผมพอสมควรด้วยเหตุที่มันอยู่ใกล้ที่ทำงาน, ราคาไม่แพงและโฆษณาน้อยเรื่องภาพและเสียงก็โอเค มีหนังให้ดูไม่ว่าจะเป็นหนังในกระแสและหนังแปลกๆ ที่เปิดหูเปิดตาผมมากมาย ถึงโรงจะเก่าแต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะว่าโรงใหญ่โตอลังการเลยล่ะ


โคมฟ้าระย้าทรงหยดนํ้าค้างแข็ง 5 ชั้นนี่สั่งจากอิตาลีเลยนะครับ


คนมาเยอะมากกกก ทั้งมารอชมภาพยนต์ ทั้งมาเก็บความทรงจำไว้

หลังๆ พอ Lido ปิดไปมีการปรับรอบฉายหนังและโปรแกรมทำให้เวลาแต่ละรอบที่สกาลานั้นไม่ค่อยสะดวกผมเท่าไหร่นักผมจึง
ไปดูโรงในเครือ SF/Major มากกว่าเพราะติดรถใต้ดินด้วย แต่เวลาว่างๆ ก็พยายามจะดูรอบที่สกาลาไปด้วยแหละเพื่อว่าลงตัวไปดูได้ บางทีเวลาไปแถวๆ สยามก็ยังแวะไปถ่ายรูปไฟสวยๆ สถาปัตยกรรมงามๆ ที่โรงนี้อยู่ ยิ่งวันไหนฟ้าน้ำเงินและหามุมเล่นเงาสะท้อนได้นี่อดใจไม่ไหวจริงๆ




พร็อพแบบจัดเต็ม ย้อนยุครุ่งเรืองก็มี


ที่ตรงนี้ที่ผังที่นั่งโรงเป็นกระดาษ ทุกคนที่มาจำได้แน่นอน

จริงๆ ตอนรู้ข่าวว่าสกาลาจะปิดก็ไม่ได้เกินความคาดหมายเท่าไหร่ ใจหายบ้างเหมือนกันแต่ไม่เท่าตอน Lido คือพอ Lido ไปแล้วก็รู้ว่าสกาลาคงไม่รอดเหมือนกันแหละ จนใจที่จองตั๋วหนังรอบ 4-5 ไม่ทันจริงๆ เลยได้แต่ไปถ่ายภาพความทรงจำเก็บไว้ครับ เสียดายกับ landmark ในความทรงจำเหมือนกัน


จุดเด่นอีกอย่างของโรงเครือ Apex คือพัดลมตัวใหญ่ๆ นี่แหละ

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นข้อดีของโรงในเครือ Apex ก็คือพวกน้ำดื่ม ขนมนั้นราคาไม่แพงเวอร์มาก บวกนิดๆ หน่อยเป็นค่าความสบาย ที่สำคัญคือข้าวโพดคั่วถูกมากกกกก ได้เยอะด้วยแม้จะขายแต่รสเกลือซึ่งเอาจริงๆ แล้วก็เป็นรสที่อร่อยที่สุดนั่นแหละ วันเสาร์คนมาต่อคิวซื้อกันเพียบเลย ผมก็ถือโอกาศรำลึกความหลังกับเขาด้วยหนึ่งถุง T^T


อร่อย


ทุกคนที่มาต้องถ่ายรูปเพดานสวยๆ กันทุกคน

อีกจุดที่คนถ่ายรูปกันเยอะก็โซนโรงภาพยนตร์ครับ ทุกคนรอถ่ายรูปกับคุณลุงพนักงานสูทเหลืองซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโรงในเครือนี้จริงๆ พอหนังฉายจบก็จะมีพนักงานมาตั้งแถวขอบคุณคนดูทุกท่าน ระหว่างที่รอรอบถัดไปผมเลยขอเข้าไปถ่ายรูปในโซนรอฉายซึ่งพนักงานก็ให้เข้าไป ถือว่าได้เก็บบรรยากาศใกล้ชิดที่สุดเท่านี้แหละครับ


“คุณลุงสูทเหลือง” พนักงานฉีกตั๋วหน้าโรงภาพยนตร์


บรรยกาศตอนหลังฉายจบ

วันนั้นผมลองเดินเล่นซอกแซกไปจุดที่ไม่เคยเดินด้วย คือสกาลานี่เอาตรงๆ คือผมเดินแค่เข้าออกโรงหนังอย่างเดียวเลย ไม่ได้เดินดูร้านค้าอะไรเหมือน Lido ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่ามีห้องเช่ายังเปิดอยู่เนี่ย


โรงหนังก็ต้องมีทางหนีไฟ


และห้ามถ่ายรูป


จุดนี้เพิ่งเคยเห็นจริงๆ

ที่เหลือก็ขอให้ภาพเล่าไปละกันครับ

ผมถ่ายรูปข้างในจนรู้สึกเยอะเกินไปล่ะ ก็ได้เวลาออกมาถ่ายรูปหน้าโรงช่วงแสงเย็นๆ หัวค่ำพอดี คนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เสียดายเหมือนกันที่ฝนไม่ตกแบบวันศุกร์ไม่งั้นได้เล่นมุขเงาสะท้อนที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของมุมนี้ได้เลย

ผมยืนรอแสงอยู่พักใหญ่ๆ พอฟ้าเริ่มออกน้ำเงินๆ ก็กดแหลกเลยครับ เสียดายที่ฟ้าไม่น้ำเงินจัดๆ เท่าที่คิดเหมือนกัน แต่ก็ยังดีที่พอได้ภาพที่พอใจมา


พอได้ “เงาสะท้อน” บ้างเหมือนกัน

สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณสกาลา, พนักงานทุกท่านและเครือ Apex สำหรับความทรงจำดีๆ ที่ถือได้ว่าสร้างตัวตนด้านการดูหนังของผมขึ้นมา, ให้ผมได้พักผ่อนด้วยการดูหนังในราคาเป็นมิตรและเปิดโลกการดูหนังของผมมากมายไว้ ณ ที่นี้ครับ

Link: Goodbye Lido

One thought on “Goodbye Scala

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.