Star Trek Beyond

Star Trek Beyond เป็นภาค 3 ของ Star Trek version reboot จนกลับมาโลดแล่นในวงการหนังได้อีกครั้ง ภาคนี้นับเป็นจุดสำคัญเพราะเป็นภาคแรกที่ J. J. Abrams ไม่ได้กำกับเอง แต่หันไปใช้บริการ Justin Lin แห่ง Fast & Furious แทน (JJ นั่ง producer)



สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของการเข้ามาของ Justin Lin คือเขายกระดับฉาก action จากที่เคยยิงกันปิ๊วๆๆ ในภาคเก่าให้กลายเป็นมันส์ระเบิดภูเขาเผากระท่อมซิ่งยานกันโคตรมันส์ตามสไตล์ “Fast & Furious” แทน ซึ่งผมชอบจุดนี้มาก ทั้งการเลือกเพลงประกอบ (ที่เอามากจากภาคแรก) ก็เหมาะสมสุดๆ อีกจุดนึงที่น่าสนใจคือประเด็นที่ในยุคนั้นสังคมมีความเท่าเทียมกันแล้ว เราจึงได้เห็นความหลากหลายและความสำคัญของลูกเรือในระดับปัจเจกไม่ว่าจะเพศสภาพ, สัญชาติหรือเผ่าพันธุ์มากขึ้นโดยไม่ทำให้เรารู้สึกแปลกๆ แต่อย่างใด

แต่มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย ข้อเสียใหญ่ที่สังเกตุได้คือเนื้อเรื่องและความเป็น sci-fi อ่อนลงมาก คือจริงๆ ประเด็นเรื่อง Warlord ผู้สร้างสันติภาพที่ไม่ยอมรับสันติภาพ (หรือไม่ยอมรับการยัดเยียดสันติภาพและเยียวยาบาดแผลสงคราม) นั้นก็น่าสนใจอยู่ แต่หนังเล่าจุดนี้ออกมาน้อยเกินไปแถมยังเล่าซ้ำประเด็นที่ Into Darkness เล่าจนเหมือนกับการเอามุกเดิมมาเล่นซ้ำแต่เปลี่ยนแค่ฉาก action เท่านั้น (ซึ่งมันก็สนุกจริงๆ จนพอกลบข้อด้อยเรื่องเนื้อหาได้อยู่)

ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะด้อยลงไปจากภาค 2 ชัดเจน แต่หนังภาคนี้ก็ดูสนุกมากๆ อยู่ดีครับ ส่วนตัวผมให้สนุกกว่าภาคแรกด้วยซ้ำ (ระดับความชอบคือ Into Darkness –> Beyond –> Star Trek) เป็นการลองอะไรใหม่ๆ ของแฟรนชายด์นี้ที่ผมว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่งเลยนะ

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.