ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ หลังจากเรานั่งรถกลับมาที่สถานี Aso Station เพื่อที่จะนั่งเจ้ารถไฟพิเศษ Aso Boy กลับเมือง Kumamoto ครับ
ที่สถานี Aso ก็ตกแต่งด้วยเจ้าคุโร่ (Kuro) ซึ่งเป็น mascot ประจำรถไฟสายนี้ด้วยครับ
รถไฟสาย Aso Boy นี่ต้องจองล่วงหน้าและมีแต่ตั๋วนั่งอย่างเดียวเลยครับ ถ้าเราซื้อ JR Kyushu Pass เราก็บอกให้เขาจองได้เลย ควรจองแต่เนิ่นๆ เพราะไม่งั้นจะเต็มเอาได้ ที่นั่งจริงๆ ก็ต้องนั่งตามที่แต่เอาเข้าจริงผมก็เห็นเดินไปเดินมา ถ่ายรูปกันทั้งคันอยู่ดี คงเป็นเพราะรอบที่ผมนั่งรถไม่เต็มด้วยมั้ง
ผมได้นั่งตู้เกือบจะหน้าสุดครับ
เจ้า Aso Boy มี 4 ตู้ครับ ตู้ที่ 3 เป็นร้านขายอาหาร+สนามเด็กเล่น ทุกตู้ประดับประดาไปด้วยเจ้าหมาน้อยคุโร่อยู่ทุกพื้นที่ ส่วนตู้หน้าสุดมีจุดชมวิวพาโนราม่าของรถไฟที่กำลังวิ่งไปข้างหน้าด้วย
มีรูปเจ้าคุโร่ให้ถ่ายรูปเต็มรถเลย น่ารักๆ ทั้งนั้น
ตรงร้านขายอาหารนี่คนเต็มตั้งแต่รถเริ่มออกเลยครับเพราะทุกคนต้องรีบไปจองข้าวกล่อง Kuro’s Asomoko Bento lunch box กันครับ ผมเองขนาดรีบไปยังไม่ทัน ไม่มีอะไรเหลือเลย ราคาของในนี้ก็แพงสมอยากเลย สุดท้ายก็เลยไม่ได้ซื้อะไร
นั่งๆ ไปสักพัก พนักงานจะเอาป้ายมาให้เราถือแล้วถ่ายรูปให้ครับ ฟรีด้วยก็เอาสิ ^^
สมกับเป็นญี่ปุ่น เก็บงานเนี๊ยบขนาดผ้าม่านหน้าต่างยังมีเจ้าคุโร่
รถไฟใช้เวลาประมาณ 73 นาทีก็มาถึงสถานี JR Kumamoto ส่วนตัวคิดว่าถ้ามากันเป็นครอบครัวน่าจะสนุกกว่านี้เพราะ Aso Boy มีทั้งสนามเด็กเล่นและเจ้าคุโร่ที่น่าจะถูกใจเด็กๆ มากกว่าผู้ใหญ่ครับ สำหรับผมแล้วมันก็น่ารักดี นั่งสบายดีแหละ
พอออกมาที่สถานี Kumamoto ผมก็ไปซื้อตั๋วรถราง 1 day pass ไว้เลยครับ ได้ใช้คุ้มแน่นอน สถานีรถรางก็อยู่ตรงหน้าสถานีรถไฟนี่แหละ สะดวกสุดๆ
ก็ขอจบตอนนี้ไว้เท่านี้ก่อนครับ ตอนหน้าจะพาไปกินหมูทอดเทพกับปราสาทคุมาโมโต้นะครับ ^^
Link:
– สรุปทริปคิวชู
2 thoughts on “สะพายกล้องเที่ยวคิวชู #4.2: พาขึ้นรถ Aso Boy”