สรุปทริปคันไซ 2015 (โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ)

เมื่อวันที่ 4 ถึง 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวเขตคันไซ (関西地方) มาครับ หลักๆ ก็ไปเมืองใหญ่ๆ อย่าง Osaka (大阪府) และ Kyoto (京都府) โดยมีแว๊บๆ ไปเมือง Nara (奈良市) และ Kobe (神戸市) มาหน่อยนึงด้วย นี่การไปญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ของปีและนับเป็นครั้งที่ 4 ของการเที่ยวญี่ปุ่นทั้งหมดครับ



แผนเที่ยวทั้งหมดมีดังนี้

ทริปนี้เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งที่ 4 ของผม (และเป็นครั้งที่ 2 ของปี) ครับ จริงๆ แล้ว Osaka กับ Nara และ Kyoto นี่เคยมาตอนมาญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อ 8 ปีก่อน แต่ตอนนั้นมากับทัวร์ ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางจริงๆ ซึ่งก็พบว่ามึนตึ๊บสมกับที่หลายๆ คนว่าไว้เพราะว่ารถไฟและรถใต้ดินของ Osaka นี่มันมีหลายสาย หลายเจ้า (ซึ่งใช้บัตรร่วมกันไม่ได้) มาก ส่วน Kyoto นี่จะซับซ้อนน้อยกว่าแต่สถานที่เที่ยวส่วนใหญ่รถไฟไปไม่ถึงซะงั้น – -” และสถานีของทั้งสองเมืองก็ไม่มีภาษาอังกฤษสักเท่าไหร่ เรื่องการใช้ pass ก็งงเพราะมีหลายตัว (เพราะมีหลายเจ้า) ต้องมานั่งคิดให้ปวดหัวว่าจะใช้ดีไม่ใช้ดี (ซึ่งส่วนใหญ่ทริปนี้ไม่ได้ใช้) โชคดีมีเพื่อนไปรอบที่ 6-7 แล้วพาเดินทางก็เลยรอดไป

ผมไปช่วงปลายๆ ใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งปีนี้มันแปลกตรงที่มันยังเขียวอยู่เท่าๆ กับที่ร่วงไปหมดแล้ว ส่วนที่เป็นสีเหลืองสีแดงนั้นน้อยมากก็เลยไม่สวยเท่าไหร่ – -” ส่วนอากาศหนาวๆ นี่ก็เตรียมตัวจากทริปเกาหลีมาแล้ว ใส่ลองจอน+เสื้อหนาๆ+เสื้อกั๊ก+เสื้อกันหนาวหนาวๆ อยู่ครับ ^^ มีเจอฝนถล่มอยู่ 2 วันซึ่งก็หาซื้อร่มมากันฝนได้ทันวันนึง สายการบินที่ไปคือ AirAsia X ครับ สำหรับขาไปเวลาไม่ดีเท่าไหร่คือไปถึง 4 ทุ่มครึ่งซึ่งเสี่ยงกับการไม่ทันรถไฟรอบสุดท้ายมากๆ (ซึ่งก็ไม่ทันจริงๆ) ถ้าผมไปคนเดียวคงนอนสนามบินแล้วล่ะ ส่วนเวลากลับนั้นดีมากคือ 5 ทุ่มกว่าๆ ถึงไทยตี 4 ก็ได้หลับยาวไปตลอดขากลับเลย ^^

อาหารการกินทริปนี้ก็อุดมสมบูรณ์มาก ได้กินทั้งร้านชื่อดัง ได้กินทั้งฝีมือเพื่อนที่ทำอาหารเอง (เพราะห้อง airbnb มีครัว) กินอาหาร super ลดราคา เรียกได้ว่าได้กินครบทุกแนวเลย ^^

internet ระหว่างเที่ยวใช้ 2 ตัวคือครับ เพื่อนผมใช้เจ้า Samurai Wifi ซึ่งใช้ดีมาก ส่วนผมใช้ sim prepaid ของ so-net ที่ 4G LTE ก็ไวมาก แต่ว่าการลงทะเบียนและ setup นั้นยุ่งยากมาก (โดยเฉพาะ iphone) และเวลาเข้าออกพื้นที่ที่มีแต่ 3G ไม่มี 4G นี่เนตจะเอ๋อบ่อยมาก ต้องนั่งกดปิดเปิด 4G เองบ่อยๆ ถึงจะหาย

เรื่องการเที่ยวนี่ส่วนตัวผมว่าเที่ยว Osaka ง่ายกว่า Kyoto นะ คือรู้สึกว่ามันมีป้ายบอกทางอะไรที่ชัดเจนกว่า สำหรับ Osaka นี่มีที่เที่ยวทุกแนวทั้งแนวธรรมชาติ, วัด, shopping หลากหลายกว่า Kyoto ค่าครองชีพก็ถูกกว่า Kyoto สำหรับเรื่องภาษานี่รู้สึกว่าเที่ยวญี่ปุ่น (ทุกเมืองที่ไปทริปนี้) สบายกว่าเกาหลีมากคือพ่อค้าแม่ค้า, พนักงานตามสถานีรถไฟหรือที่ท่องเที่ยวสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีมาก (เผลอๆ พี่ได้ทั้งจีนและเกาหลี) ส่วนที่เกาหลีนี่แทบจะเกาหลีใส่เราอย่างเดียวเลย

ค่าใช้จ่าย (ไม่รวมค่าโรงแรม+ค่าเครื่องบิน+รูดซื้อของ) ผมแลกไป 120,000 เยน แต่ใช้ไป 97,000 เยนหรือประมาณ 28469.50 บาท (เรต 0.2935) ครับ ตอนแรกกะช๊อปกระจายแต่เอาเข้าจริงพวกที่อยากได้ก็ไม่หาไม่ค่อยเจอเท่าไหร่ อย่างเจ้าตู้ชากาปองวันพีชที่มีมากมายในคิวชูที่คันไซนี่แทบไม่มีเลย – -” ส่วนขนมและของฝากก็ซื้อน้อยลงเพราะเพิ่งกลับจากเกาหลีมา

สรุปแล้วทริปนี้ก็เป็นทริปส่งท้ายปีที่สนุกและได้เที่ยวสมอยากครับ ถ้าถามว่าจะไปอีกไหม ถ้ามีโอกาสก็คงไปคันไซอีกครับเพราะยังมีที่เที่ยวที่พลาดไปอย่างน่าเสียดายทั้ง 4 เมืองเลย – -” แต่ขอเว้นช่วงไกลๆ หน่อยละกัน ^^

ป.ล.
1. กล้องถ้าเห็นคนใช้ Fuji นี่ส่วนใหญ่เป็นคนไทย เจอคนญี่ปุ่นกับฝรั่งใช้ คนสองคนเอง กล้อง DSLR ยังเจอเยอะสุด ส่วนพวก mirrorless นี่พวก pen, lumix gf กะ sony nex เยอะสุด
2. มือถือนี่ iPhone ครองเลย
3. จักรยานเพียบ ไม่มีปัญหาด้วยเพราะคนเดินถนนและฟุตบาทใหญ่ที่สุดเสมอ ♥

15 thoughts on “สรุปทริปคันไซ 2015 (โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ)

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.