สะพายกล้องเที่ยวคิวชู #1: สวัสดี Fukuoka

ผมไปเที่ยวคิวชู (九州) มา 6 วันตั้งแต่วันที่ 17 ถึง 22 มิถุนายนที่ผ่านมาครับ ก็ไปโปรขากลับ 1 บาทของ Jetstar ในราคา 6,041.40 บาท ตอนแรกจะไปก่อนหน้านี้แล้วแต่โชคดีที่รอโปร 1 บาทนี้ครับ ถูกกว่าที่คิดเยอะเลย

ผมไป flight ตี 2 ครับ เป็นการนั่งเครื่องที่ดึกที่สุดเคยนั่งมา (ตอนไปอินเดียนั่นตี 1) สติจะหลุดอยู่แล้ว แถมต้องรีบตุนเสบียงไว้ก่อนเพราะของกินบนเครื่องแพงมาก พวกร้านต่างๆ หลังผ่าน ตม ก็ปิดกัน 5 ทุ่มซะด้วย โชคดีที่วันที่ไป ตม คนน้อยมาก ผ่านไวดี ส่วนที่ Checkin Jetstar นี่ช้ามาก ทำ web checkin มาแล้วไม่มีประโยชน์อะไร พนักงานยังลืมให้ใบเข้า-ออกเมืองมาอีก – -”

เครื่อง Jetstar นั้นนั่ง/นอนไม่สบายเลยครับ คือเครื่องมันพอๆ กับ Airasia นั่นแหละ แต่นั่งยาวๆ แล้วโคตรเมื่อยเลย หลับๆ ตื่นๆ ทั้งคืน ส่วนช่องใส่ของก็เป็นพลาสติกแข็งๆ ใสอะไรไม่ได้เลย – -” คนที่นั่งบนเครื่องส่วนใหญ่ก็คนไทยทั้งลำครับ (แต่ไปถึงญี่ปุ่นแล้วเจอแต่จีนกับเกาหลี)

ผมไปถึง Fukuoka Airport เมือง Fukuoka (福岡県) ตอน 9 โมง 45 นาทีตามกำหนดการเป๊ะๆ ครับ ผ่าน ตม ญี่ปุ่นฉลุยโดยที่เขาไม่ถามอะไรเลย มีแค่ศุลกากรที่ถามว่ามาคนเดียวเหรอ มาทำอะไร สนามบิน Fukuoka ฝั่ง international นั้นเล็กๆ ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ เดินออกมาแป๊บๆ ก็ถึงข้างนอกล่ะ

ออกมาแล้วเจอคนมารอถ่ายรูปอะไรสักอย่างที่หน้าร้านกาแฟ มีเจ้าหน้าที่บอกว่าเด๋วจะมีใครสักคนมา ขอนักท่องเที่ยวอย่าถ่ายรูปนะ

ผมออกมาด้านนอก นั่งรถบัสไป Domestic Terminal (ถาม Travel Information เอา พนักงานมีอายุแล้วแต่ภาษาอังกฤษดีมาก) ใช้เวลาสักพักกว่าจะมาถึง Domestic Terminal แล้วก็เดินหา Post Office เพื่อไปรับ B-Mobile Visitor Sim แบบ 14 วัน 1GB ครับ ปัญหาคือหา Post Office ไม่เจอนี่แหละ ถามใครเขาก็บอกว่าอยู่แถวๆ ที่สูบบุหรี่ซึ่งผมนึกว่ามันเป็นธนาคาร ลองเดินเข้าไปดูถึงรู้ว่ามันเป็นไปรษณีย์ วิธีการรับของก็ไม่มีอะไรมากครับ ยื่น mail ที่พิมพ์ไปกับ passport ให้เขาก็จบ

ได้ sim เสร็จก็หาที่ซื้อตั๋ว FUKUOKA TOURIST CITY PASS (รวม Dazaifu) ต่อ ซึ่งตอนแรกก็นึกว่าซื้อที่ Tourist Information แต่จริงๆ ต้องซื้อตรงที่ขายตั๋วรถเมล์ตรงป้ายรถเมล์เลยครับ ซื้อเสร็จก็ใช้บัตรนี้เบ่งขึ้นรถ subway ไป Hakata (博多区) ได้เลย

ถึง Hakata Station (博多駅) ก็เดินหาที่แลกตั๋ว JR Pass ต่อซึ่งมันอยู่ชั้น 1 ครับ แต่หายากหน่อยเพราะว่าสถานีมันใหญ่มากๆ และมีที่ขายตั๋วรถต่างๆ เยอะไปหมด (อันที่ไม่ให้แลกตั๋ว JR จะมีป้ายบอกไว้) ผมใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะหาเจอ สำหรับพนักงานที่แลกตั๋ว JR ตอนนี้ทำงานเร็วขึ้นเยอะกว่าที่ผมไปเมื่อตอนปี 2013 จริงๆ เขามีใบให้กรอกว่าเราจะใช้วันไหน จะให้จองรถอะไรรอบไหนบ้าง แต่ผมพิมพ์ไปแล้วก็ยื่นให้เขาเลย (เขาเก็บไว้เลยนะครับ)

ผลการจองครับ จอง Yufuin No Mori ไม่ได้ T^T ได้บัตร JR Rail Pass และตั๋วรถไฟที่จองล่วงหน้าไว้ทั้งหมดก็ลากกระเป๋าไป Khaosan Fukuoka Annex hostel ซึ่งก็เดินตามทาง google map แต่วันหลังๆ ก็เดินทางที่เขาบอกไว้ในเวบ แทน รู้สึกว่ามันใกล้กว่า ถึง hostel แล้วยังเก็บของไม่ได้ ต้องรอ checkin บ่ายสองก็เลยฝากของไว้ก่อนแล้วออกมาเที่ยวเลย

ช่วงที่ไปฟ้าขาวโล่งแบบนี้ทั้งวันฮะ มีฝนตกปรอยๆ ด้วย

เก็บของแล้วก็ไปกินข้าวที่ Hakata Station ครับ คือในสถานีมันเป็นห้างด้วย มีโซนขายอาหารเยอะมากๆ มีร้านดังๆ อยู่ในนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งผมก็กินตามลุง @pittaya แหละ กะจะไปกินร้าน 博多一幸舎 (Hakata Ikkoucha) ซึ่งอยู่ใน DEITOS ชั้น 2 (มาทางประตู Chikushi Exit จะหาง่ายมาก) ผมหาร้านเจอแล้วแต่ดันดูผิด ไปกินร้านฝั่งตรงข้ามซะฉิบ … แล้วแม่งไม่อร่อยเลย เค็มโคตรๆ แต่ก็ได้ลองราเมงตู้กด แปลกดีครับ มีคนช่วยด้วยว่าถ้าจะกดต้องทำยังไง

กินเสร็จก็ไป ศาลเจ้า Dazaifu Tenman-gū (太宰府天満宮) ซึ่งตั๋ว City Pass ใช้ได้ตลอดเส้นทาง วิธีการไปก็คือนั่ง subway ไป Tenjin แล้ว เดินเชื่อมไปที่สถานี Nishitetsu Fukuoka(Tenjin) Station ซึ่่งตรงนี้จะผ่าน Underground Mall ด้วยครับ แล้วนั่งรถไฟไปเปลี่ยนรถที่สถานี Nishitetsu Futsukaichi เพื่อไปขึ้น local train ไป Dazaifu

ชานชาลาที่รอ Subway ครับ มีป้ายบอกชัดเจนว่าทางไหนไปไหน (แต่ผมก็ขึ้นผิดไปรอบนึง)

Underground Mall ตรงสถานี Tenjin ส่วนใหญ่ขายพวกเสื้อผ้าแฟชั่นฮะ ของกินไม่ค่อยมี

เดินตามป้ายบอกทางไป Nishitetsu Fukuoka (Tenjin) Station ไปเรื่อยๆ (ก็สุด Mall ละนะ) ซึ่งเจ้าสถานี Nishitetsu Fukuoka นี่ก็ใหญ่มากๆ และมีหลายราง ผมถามนายสถานีว่ารางไหนไป Dazaifu เขาก็บอกแนะนำให้แล้วบอกว่าแต่ต้องไปเปลี่ยนรถนะ ดูสถานีดีๆ เองล่ะ (อ้าว) แล้วผมก็รีบวิ่งไปขึ้นรถในรางที่เขาบอก รถไฟ local ที่วิ่งตามเส้น Nishitetsu Fukuoka นี่มีทั้งแบบหวานเย็นที่จอดทุกสถานีกับแบบ express ที่จอดแค่บางสถานีครับ ซึ่งก็โชคดีที่แบบ express ที่ผมขึ้นไปมันจอดที่สถานี Nishitetsu Futsukaichi แล้วเราก็ต้องวิ่งข้ามสะพานไปราง 1 เพื่อเปลี่ยนไปนั่งรถไฟเข้า Dazaifu กัน ตรงจุดนี้ก็วิ่งกันตับแล่บเพราะว่ารถไฟเข้า Dazaifu มาพอดี

อันนี้เป็นขบวนพิเศษ ขึ้นไม่ทันฮะ สวนกันที่อีกสถานี

นั่งรถต่อมาอีกแป๊บๆ ก็ถึง Dazaifu ล่ะ วิธีการเหมือนจะยากตอนวางแผนที่พอมาจริงๆ ก็ไม่ยากอย่างที่คิดครับ จุดสำคัญคือต้องมาเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Nishitetsu Futsukaichi เท่านั้นเอง

รถไฟ local ที่ผมนั่งมา Dazaifu พอออกจากสถานีรถไฟก็เจอฝนตกปรอยๆ พอดี จากสถานีไปศาลเจ้า Dazaifu Tenman-gū ง่ายมากเพราะว่ามันอยู่ติดสถานีเลย เดินไปนิดเดียวก็ถึงโซนร้านค้าปากทางเข้าศาลเจ้าซึ่งวันที่ผมไปมันเงียบเหงามาก ร้านค้าเด่นๆ ย่านนี้ก็มีแต่ร้านขนม Umegaemochi (梅ヶ枝餅) เป็นขนมคล้ายๆขนมโมจิ ข้างในเป็นไส้ถั่วแดงซึ่งผมเก็บไว้กินขากลับจากศาลเจ้ากับร้านสตาบัคส์นั่นเอง (ไว้ดูตอนหน้าว่าทำไมมันดัง)

ไว้ตอนหน้าจะพาเที่ยวศาลเจ้า Dazaifu กัน

Link:
– สรุปทริปคิวชู