หลังจากเดินเที่ยวสระมังกรดำจนหนำใจ พวกเราก็กลับมาเคลียร์เรื่องการยกเลิก 1 day trip กับเอเจนซี่ทัวร์ตรงลานกังหันกันต่อครับ
ปรากฏว่าเขาคืนเงินให้แค่ 350 หยวนครับ หักค่ารถ (ที่แค่พาไปส่งข้างหน้าและพากลับ) 100 หยวน!!! คุยกันอยู่นานกับพนักงานที่พูดไทยได้ก็ได้เท่านี้แหละ สุดท้ายก็จำใจรับเงินมาเพราะทำอะไรไม่ได้ แล้วก็เดินเล่นแถวๆ นั้นแทน ส่วนเรื่องไปภูเขาหิมะมังกรหยกนี่จะไปคุยกับที่พักให้หารถเหมาให้แทนดีกว่า
พวกเราตัดสินใจกินอะไรกันแถวนั้นครับ ก็เลือก KFC ที่อยู่ในดง fast food จากอเมริกาตรงนั้นแหละ กินง่ายดี ยังไงก็กินได้ชัวร์
Jun Ji-hyun เป็น present ให้ KFC พอดี
เมนู set KFC ในจีนไม่เหมือนไทยครับ มี set และเมนูน้อยกว่าบ้านเราเยอะ แต่รสไก่ก็เหมือนๆ กันแหละ
กินข้าวเสร็จพวกเราก็เดินขึ้นไปจุดชมวิวในวัดบนเขากันครับ ทางเดินขึ้นไปมันงงๆ อยู่ก็เดินหลงกันเละเทะเลยเพราะมันมีหลายแยกให้ขึ้นไปมาก
สุดท้ายก็ใช้วิธีถามเด็กแถวนั้นเอา (เด็กไม่รู้ภาษาอังกฤษ ผมก็ไม่รู้ภาษาจีน ฮ่า) จนคลำทางไปถึงหน้าวัดได้แต่วัดดันเก็บตังค์ซะนี่ ก็เลยเข้า roof top bar ที่เปิดอยู่มากมายย่านนั้นแทนเพราะทุกบาร์เปิดดาดฟ้าให้เป็นจุดชมวิวหมดครับ ค่าน้ำชา/กาแฟยังถูกกว่าค่าเข้าวัดอีก
วิวดาดฟ้าบาร์ครับ แบบนี้แหละ ช่วงหัวค่ำน่าจะโคตรแจ่ม
อีกด้านก็เห็นภูเขาหิมะมังกรหยก ฮือ อยากขึ้นนนน
มีดนตรีขับกล่อม นักร้องพูด eng ได้ครับ สำเนียงฟังง่ายมาก
พอเดินออกมาตรงสะพาน มีผู้เฒ่าผู้แก่กำลังรำวง (จีน) อยู่พอดี มีคนมุงดูและร่วมแจมด้วยครับ
แล้วพวกเราก็เดินกลับที่พักเพื่อไปคุยกับเขาเรื่องรถเหมาพาเที่ยวภูเขากัน ขากลับเดินกันไกลพอดูเพราะลองเดินอ้อมเรียบกำแพงเมืองกลับมาครับ ได้เห็นเมืองเก่ากับเมืองใหม่อยู่ติดกันเลยก็แปลกไปอีกแบบ
พอถึง hostel ก็พักผ่อนกันสักครู่แล้วออกไปคุยกับเจ้าของโรงแรมที่คุยภาษาอังกฤษได้ครับ เขาให้มา 3 ทางเลือกจาก contact เขา 3 เจ้าคือ
- 450 หยวนต่อคน ถ้าภูเขาปิดอีก คืนคนละ 200
- 480 หยวนต่อคน ถ้าภูเขาปิดก็คือ 480 หยวน
- เหมารถ 200 หยวน ครึ่งวัน
พวกผมเลือกอันที่ 3 ครับ แม้ว่าเขาจะบอกว่าครึ่งวันไม่พอ (เพื่อนที่เคยมาแล้วบอกว่าครึ่งวันก็พอ จะขึ้นไปทำไมนาน — ซึ่งวันรุ่งขึ้นก็รู้ว่าทำไมแม่งเสียเวลาโคตรนาน) แล้วพวกเราก็กลับไปเดินเล่นเมืองโบราณยามเย็นกับหาข้าวกินกัน ผมก็เดินหาของที่ระลึกตอนนี้แหละเพราะร้านของที่ระลึกอยู่ประตูด้านใกล้ hostel ผมหมดเลย ส่วนพวกเนื้อคายัคผมไปซื้อซองสำเร็จรูปแถวกลางๆ เมืองโบราณเอา ไม่ได้ซื้อเป็นกิโลๆ ครับ มันเอากลับลำบาก (รสเหมือนเนื้อเค็มนี่แหละ)
อันนี้เหมือนโยเกิร์ตแข็งๆ เสียบไม้ปิ้งครับ ไม่อร่อยเลย
วันนี้พวกผมเลือกที่จะกินร้านหม้อไฟแถวๆ ใกล้ๆ ประตูทางเข้าเมืองโบราณฝั่ง hostel ที่พวกเราพักกันครับ คือด้านอื่นมันไม่มีร้านหม้อไฟเท่าไหร่ ผมก็เลือกร้านมั่วๆ มาร้านนึงที่สังเกตุว่ามีคนกินเยอะที่สุด แต่วันที่เราไปนี่แทบไม่มีคนเลย – -”
แน่นอนว่าเมนูมีแต่ภาษาจีนและเจ้าของร้านก็ไม่รู้ภาษาอังกฤษ ส่วน google translate ที่ผม load ไปอ่านไม่ออกสักตัวครับรอบนี้ สุดท้ายก็ได้ลูกค้าที่นั่้งโต๊ะข้างๆ ช่วยสั่งให้เพราะเขารู้ภาษาอังกฤษพอดี เย้
หม้อไฟแบบจีนนี่ทางร้านจะใส่พวกหมู เนื้อต่างๆ ตามที่พวกเราเลือกมาให้แล้วครับ เราไม่ต้องลวกเองเลย มีแต่ผักที่เราต้องลวกเอง มื้อนี้อร่อยกว่ามื้อที่ตาหลี่มากมายครับ เสียแต่ไก่สับที่พี่แกสักแต่ว่าสับ กระดูกกับโครงไก่ติดมาเต็มๆ เลย
กินเสร็จเพื่อนๆ ก็แยกตัวกลับ hostel ไปก่อน ส่วนผมของเดินถ่ายรูปอีกสักพักให้หนำใจ
ตรงนี้กลางคืนสวยกว่ากลางวันมากเลย
พาโนราม่ารวม fast food ในเมืองโบราณครับ
ขากลับ hostel มีหมาตัวเล็กๆ มาวิ่งไล่กัดคนที่เดินอยู่ในเมืองโบราณครับ ผมก็วิ่งไล่เตะแม่งเลย สนุกดี แต่มันหนีไปได้ – -” แล้วก็กลับ hostel นอนเอาแรงเพื่อเที่ยววันรุ่งขึ้นครับ
One thought on “สะพายกล้องเที่ยวจีนตอนที่ 7.2: เดินเที่ยวเมืองโบราณลี่เจียง”