ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ วันนี้จะพาไปเที่ยวเมือง Sapporo กัน ตื่นเช้ามาเราก็เดินไปกินข้าวเช้ากันที่ตลาดปลา Nijo ครับ ตอนแรกเดินหลงทางชนิดเปิด google map แล้วก็ยังหลง สุดท้ายถามคนใน 7-11 เอาถึงไปถูก (คนถูกถามก็พูด eng ไม่ค่อยได้ แต่แกก็พยายามอธิบายจนไปถูกอ่ะนะ)
ทางเดินมาตลาดเห็น Sapporo TV Tower ชัดเจนครับ
ส่วนตัวคิดว่าตลาดปลา Arachi ที่ Hakodate ใหญ่กว่า คึกคักกว่าครับ ตอนพวกผมไปตลาดค่อนข้างจะเงียบๆ มีแต่พ่อค้ากับนักท่องเที่ยว 2 – 3 คนเดินมาหาของกินแค่นั้นเอง
ของขาย
ของขาย
ร้านขายข้าวมีเยอะครับ เดินมาเจอร้านนี้ยืนดูๆ อยู่ลุงเจ้าของร้านก็เดินมาชวนเข้าไปกิน (เป็นภาษาญี่ปุ่น+eng) ใหญ่เลย ไหนๆ ก็ไหน ก็ลองเข้าไปดูกัน
ร้านนี้ครับ
เจ้าของร้านแนะนำว่าหอยเม่นร้านเขาอร่อยมากๆ ผมเองก็เอาวะ ลองดูเป็นรอบสุดท้ายก่อนกลับหน่อยว่าหอยเม่นที่ว่าอร่อยนักอร่อยหนาเป็นยังไง ก็จัดเซตข้าวหน้าไข่หอยเม่น+ปู+แซลมอน+ไข่แซลมอนมา 1 ชัด
จานนี้ 2,800 เยน
ปรากฏว่าอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก หอยเม่นที่มันไม่คาวมันอร่อยแบบนี้เอง อร่อยสุดๆ ฟินเวอร์ครับ เพิ่งได้กินหอยเม่นอร่อยเอาเมืองสุดท้ายนี่เอง
ปลาย่างของเพื่อน อร่อยมากเช่นกัน
กินเสร็จก็ร่ำลาเจ้าของร้าน แล้วออกเดินทางต่อไป Hokkaidō Shrine ด้วยการนั่งรถไฟใต้ดินไปครับ ลืมบอกไปว่าวันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ตั๋วรถไฟใต้ดิน+รถรางลดครึ่งราคา!!! ก็เลยจัดไปซะ
สถานีเป็นรูปสัตว์ต่างๆ มากมายเพราะว่ามีสวนสัตว์อยู่ถัดจาก Hokkaidō Shrine ไปนั่นเอง
วันที่ไปมีเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษาพอดีก็เลยเดินตามเข้าไปเพราะว่าอยู่ทางเดียวกัน
บ้านสวยๆ ย่านนั้น
ศาลเจ้าฮอกไกโดตั่งอยู่ในสวนสาธารณะ Maruyama Park ครับ ทางเดินเลยร่มรืน เงียบสงบดี เพราะสวนสาธารณะบ้านเขานี่เหมือนป่าจริงๆ แต่ทางเดินสะอาดและชัดเจนมาก เห็นมีก๊วน DSLR มาถ่ายรูปนกกันด้วย
เดินเข้าไปสักพักก็จะเจอทางเข้าศาลเจ้าครับ ตอนแรกที่มาถึงตกใจเพราะมีรถเข้ามาจอดเต็มเลย สุดท้ายเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ถึงบางอ้อ เขาเอารถมาทำพิธิเหมือนบ้านเราเอารถมาให้พระเจิมนั่นแหล่ะครับ นักบวชก็เดินไปรายคันแล้วสวดมนต์ให้พรกันไป
เดินเข้ามาในศาลเจ้าก็เห็นว่ามีคนใส่สูทใส่กิโมโนเพียบเลย พอดูดีๆ ก็พบว่าวันนี้เขามาทำพิธีแต่งงานแบบชินโตกันครับ เลยโชคดีได้ดูพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่นเลย ^^
เห็นไมโกะทำพิธีรำอะไรสักอย่างอยู่ข้างใน
เพราะพิธีแต่งงานในศาลเจ้าเราเลยเข้าไปข้างในไม่ได้ แต่ก็เดินดูรอบๆ แล้วก็ซื้อพวกเครื่องรางต่างๆ แทนครับ มีไมโกะเป็นคนขาย มีป้ายภาษาอังกฤษบอกว่าเครื่องรางอันนี้สำหรับอวยพรอะไรบ้างชัดเจน เครื่องรางก็มีทั้งยันต์ ป้าย (Emma) แล้วก็เครื่องรางที่เป็นถุงๆ ครับ
มี Emma ลายหมีเบื่อด๊วยยยยยยยยยยยยยยย
เซียมซีที่โชคไม่ดีจะเอามาผูกไว้กับต้นไม้
อันนี้ที่ผมเขียนแล้วแขวนไว้ครับ แล้วก็ซื้อมาแขวนที่บ้นอีกอัน ^^
ก็ขอจบตอนแรกไว้เท่านี้ก่อนครับ ตอนถัดไปจะพาขึ้นกระเช้าไปชมวิวเมือง Sapporo จากมุมสูงกัน
One thought on “สะพายกล้องเที่ยวฮอกไกโด #7.1: พาเที่ยวเมืองซัปโปโร่ตอนที่ 1”