หลังจากรถ Twinkle Bus พาเรากลับมาส่งที่เมือง Biei เราก็มีเวลา 1 ชั่วโมงที่จะกินข้าวแล้วมารอขึ้นรถ Twinkle Bus รอบบ่ายที่พาเที่ยวสวนดอกไม้ในเมืองนี้ครับ
เมือง Biei นั้นเป็นเมืองเล็กๆ บ้านเล็กๆ สวยๆ เหมือน Furano เลย แต่ราคาอาหารเท่าที่ดูตามร้านทั่วไปโหดใช้ได้ครับ (สมเป็นเมืองท่องเที่ยว)
พวกผมก็เลือกร้านโซบะมาร้านนึงที่ราคาพอคบได้ แล้วก็นั่งกินในร้านนั่นแหละ
ของผม
ของเพื่อน
กินเสร็จรีบออกจากร้านไปรอรถ ปรากฏว่ารถ Twinkle คันเดิมครับ บัสโฮสเตสคนเดิม คนขับคนเดิม step การแนะนำตัวเหมือนเดิมทุกประการ – -” พอรถออกถึงได้รู้ตัวว่าลืมหมวกไว้ในร้าน – -” เอาไปลงไม่ทันล่ะ
ถนนหนทางในเมือง Biei ก็เป็นท้องไร่ท้องนา ถนน 2 เลนสวยๆ โล่งๆ เช่นเดียวกับ Furano ครับ แต่วิวข้างทางผมว่าสวยกว่าเยอะ เห็นภูเขาสวยเต็มๆ เลย
นั่งรถไปสักพักรถก็พาเรามาส่งที่ฟาร์มโทมิตะในเมือง Biei – -” ฟาร์มที่ Biei นี้เล็กกว่าแต่ว่าวิวภูเขาสวยกว่าเยอะครับ
ซอฟครีม
ดอกลาเวนเดอร์ สัญลักษณ์ของฟาร์มเลย
ดอกอะไรไม่รู้
เสร็จแล้วรถก็พาไป Furano Winery เราก็เข้าเยี่ยมชมการผลิตไวน์แล้วก็ทดลองไวน์ฟรีกัน (ไม่เห็นใครซื้อสักคน) ลิ้นผมเองลองแล้วพบว่าไวน์ถูกสุดนั้นอร่อยสุดครับ
อยากลอง? กดได้เล้ยยย
แบบขายก็มีนะ
เสร็จแล้วเขาก็ไปส่งพวกเราที่สถานี JR Furano ครับ ก่อนกลับไปแวะที่ร้านสะดวกซื้อร้านนึงตรงกลางเมือง เหมือนเป็นร้านพวกผัก, ผลไม้และผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ผลิตในเมืองนี้เป็นของฝาก ผมก็จัดมันฝรั่งทอดที่ขึ้นชื่อกลับมา 4 ถุงเลย ตรงแถวๆ ร้านเป็นป้ายรถเมล์ที่คนเมืองนี้มานั่งรอ นั่งพักผ่อนเล่นกันเต็มเลย
ยุนอาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
บ๊ายบาย
พวกเรานั่งรถไฟ JR กลับมาที่เมือง Sapporo กลับไปเก็บของที่โรงแรมแล้วก็ออกไปกินข้าวเย็นกันที่ตรอกราเมงย่าน Susukino ครับ วันนี้ใช้วิธีนั่งรถใต้ดินไป Susukino เลย
ออกจากสถานีเราก็ไปตรอกราเมงเลยครับ ก็เลือกร้านที่ชาวพันทิพย์เขาบอกว่าอร่อยอย่างร้าน Ramen Yokocho
ตรอกราเมงครับ
ร้าน Ramen Yokocho เป็นร้านเล็กๆ มีพ่อครัว (รวมพนักงาน) แค่ 2 คนเองครับ เดินเข้าไปเขาถามเลยว่าคนไทยรึเปล่า พอบอกว่าใช่ก็หยิบเมนูมาให้ ไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นเมนูภาษาไทยแต่กลับเป็นภาษาอังกฤษเสียฉิบ – -”
ลายเซ็นต์คนดังที่มากิน (มั้ง)
ราเมงของผมครับ ราคา 1200 เยน อร่อยสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ชามใหญ่มากกกกกกกกก
ไอ้นี่วางอยู่ที่เคาท์เตอร์ แฮะๆ
กินเสร็จพวกเราก็เดินเล่น + เดินไปดูสถานีรถรางที่จะใช้เดินทางวันพรุ่งนี้กัน
สถานีรถรางครับ ที่ป้ายมีบอกเลยว่ารถเบอร์ไหนวิ่งไปไหนบ้าง สะดวกสุดๆ (แต่ดูงงๆ หน่อย)
หน้าร้อนครับ อุณหภูมิ 3 องศาและลมแรงมากกกก
เดินเสร็จก็กลับโรงแรม ก่อนนอนลองเปิดทีวีเจอ AKB48 ซะงั้น!!!
ก็ขอจบวันที่ 6 ไว้เท่านี้นะครับ
ข้อมูลอะไรที่ยอดเยี่ยม!
เที่ยวฮอกไกโด