สะพายกล้องเที่ยวฮอกไกโด #5.3: พาเที่ยวเมือง Sapporo

หลังจากกินเนื้อเจงกิสข่านจนอิ่มที่ Sapporo Beer Museum เรากะไปเที่ยวในตัวเมืองต่อด้วยรถเมล์ พอเดินไปถามรถเมล์ที่มีป้ายอยู่ในตัว Beer Mesuem ว่าไป Odori Park เขาก็บอกว่าไม่ รอสักพักเลยตัดสินใจเดินไปรถไฟใต้ดินสถานีที่ใกล้ที่สุดครับ


ตั๋วรถไฟใต้ดินบ้านเขาครับ


รถไฟใต้ดิน Sapporo

ระหว่างทางเจอร้าน Daiso แบบเป็นห้างใหญ่ๆ มี 2 – 3 ชั้นเลยครับ เพื่อนแวะเข้าไปซื้อของฝากก่อนเดินต่อไปสถานี รถไฟใต้ดินเมือง Sapporo นี่มีหลายเส้นมากครับ ต้องดูให้ดีว่าที่ๆ จะไปมันเส้นทางไหน (แยกด้วยสีชัดเจน) ต้องไปรอที่ชานชาลาไหน พวกผมก็ใช้วิธีถามคนที่รอคิวเพื่อความมั่นใจ ตัวสถานีและรถไฟก็สะอาดสะอ้าน วิ่งเร็วฉิวสมเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว

พวกเรานั่งรถไปถึงสถานี Odori Station ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใต้ Odori Park สวนสาธารณะขนาดยาวมากกกกกกกกกกกกก (ประมาณโรงแรมดุสิตไปบ่อนไก่) สถานีเลยใหญ่มากๆ และมีทางออกหลายทาง พวกผมก็งงกันว่าจะไป Sapporo Clock Tower จะต้องออกทางไหน สุดท้ายผมก็เดินไปถามลุงคนนึง ด้วยภาษามือ + ภาษาอังกฤษ ท่าทางแกพูด eng ไม่ได้แต่แกก็กวักมือเรียกเราเดินตามเรื่อยๆ จนไปเจอนายสถานี แล้วแกก็ชี้ๆ ให้ถามนายสถานีแทน ^^

หลังจากคลำทางจากนายสถานี (ที่พูด eng ได้นิดหน่อย) + ถามคนอื่น + google map เราก็หาทางมาถึง Sapporo Clock Tower จนได้ครับ มานึกย้อนกลับไปจริงๆ มันก็ไม่ได้อยู่ไกลจาก Odori Park เลย ห่างกันแค่ 1 – 2 ช่วงตึกเท่านั้น เพียงแต่ถ้าออกมาผิดทางก็ยาวเลย


ที่หอนาฬิกานี่นักท่องเที่ยวเพียบครับ มีจุดถ่ายรูปชัดเจนเลยว่าถ่ายตรงนี้สวย จริงๆ เข้าไปดูข้างในได้ด้วย (200 เยนมัง) แต่พวกผมไม่ได้เข้าไป


มุมนี้

แย่งชิงพื้นที่ถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ สักพักก็เดินไปต่อที่ Former Hokkaidō Government Office ครับ เป็นอาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าทีอยู่ไม่ไกลกันนัก การเดินก็ง่ายเพราะเป็นบล๊อกๆ ชัดเจน ขอแค่อย่าหลงทิศก็พอ


ร้านบะหมี่ระหว่างทาง

ตอนที่เรามาถึง Former Hokkaidō Government Office ยังเห็นคนแต่งตัวแนวๆ ที่คิดว่าเป็นข้าราชการบ้านเค้าเดินออกมาจากหลักตึกอยู่เลย รั้วหน้าเปิดเข้าไปให้นักท่องเที่ยวและคนที่เดินผ่านไปผ่านมาใช้สัญจรได้ครับ มีสวนสาธารณะเล็กๆ ที่สงบๆ อยู่ในนี้ด้วย


เห็นป้าคนนี้มาถ่ายรูปแบบตั้งใจ ค่อยๆ ถ่ายแล้วมีความสุขจัง

ถ่ายรูปกันจนชุ่มปอดเราก็เดินย้อนกลับไปสวน Odori ครับ สวนนี้กว้างแค่ 100 เมตรแต่ยาวล่อไป 1.5 กิโล – -” (ข้อมูลจากหนังสือฮอกไกโด คนเดียวก็เที่ยวได้ของ DPlus Guide) ที่เห็นว่ายาวๆ นี่ก็มีตัดแบ่งตามถนนนะครับ เดินไปก็ต้องข้ามถนนเป็นช่วงๆ ตอนที่ไปมีจัดงานเทศกาลดอกไม้ งานเทศกาลดนตรีอยู่พอดี (ไม่ได้เข้าไปดูดนตรีฮะ เป็นกางเต๊นเปิดคอนอ่ะ)


เห็นเขานั่งกันเป็นคู่ๆ แล้วอิจฉาาา

ตรงกลางของสวนจะเป็นน้ำพุที่มองเห็นชัดไปยัน Sapporo TV Tower เลย กลางคืนจะสวยมากก

ที่ข้างใต้ Sapporo TV Tower มีลานเบียร์ที่มีเนื้อย่างเจงกิสข่านด้วยครับ พนักงาน office เต็มเลย กินตรงนี้น่าจะบรรยากาศดี

Sapporo TV Tower นี่ก็ขึ้นไปได้นะครับ ค่าขึ้นจุดชมวิว 700 เยน จุดชมวิวนี่จะสูงจากพื้น 90 เมตร เห็นวิวสวนโอโดริทั้งหมดเลย อีกโซนจะเป็นร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกต่างๆ (ชั้นชมวิวก็มี) (ข้อมูลจากหนังสือฮอกไกโด คนเดียวก็เที่ยวได้ของ DPlus Guide)

ขึ้นมาแล้วก็เหมือนจุดชมวิวบนหอสูงๆ ที่อื่นอ่ะครับ มีกล้องส่องทางไกลให้ดู คนเยอะมากๆ วิวเมืองสวยสุดๆ ยิ่งตอนใกล้พระอาทิตย์จะตกดินยิ่งโคตรสวยยยย

ที่ชั้นนี้มีขายของที่ระลึกด้วยครับ ที่น่ารักคือเขาเอาวีรบุรุษที่มีชื่อเสียงของเมืองมาทำเป็นการ์ตูนน่ารักๆ ชวนให้ซื้อมากๆ บ้านเราน่าจะมีบ้างนะ ของที่ระลึกจะน่าซื้อกว่านี้เยอะเลย

พนักงานบนชั้นนี้พูด eng ไม่ค่อยได้แต่ก็ยินดีให้บริการจนได้ใจเราเลยครับ (น่ารักด้วย) ลงมาที่ชั้นร้านอาหารก็มีร้านขายพวกขนมต่างๆ มากมาย ให้เลือกซื้อกัน


ช่วยหมีด้วยยยย

ก็ขอจบการพาเที่ยวเมือง Sapporo ช่วงเย็นๆ ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ จะมาต่อเมือง Sapporo ยามค่ำคืนใน entry ถัดไป

2 thoughts on “สะพายกล้องเที่ยวฮอกไกโด #5.3: พาเที่ยวเมือง Sapporo

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.