สะพายกล้องเที่ยวดาจีลิง #9.2: Darjeeling one Day Trip ตอนที่ 2

เราต่อจาก Darjeeling one Day Trip ตอนแรกนะครับ ออกจากวัด Samten Choling Monastery เราก็มาต่อที่ Batasia Loop ที่อยู่กลางเมืองดาจีลิง

Batasia Loop คือสวนสาธารณะที่เป็นจุดเลี้ยงโค้งของทางรถไฟสายหิมาลัยหรือเจ้า Toy Train นั่นแหละครับ ข้างบนยังมี War Memorial ที่สร้างตั้งแต่ปี 1994 เพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารชาวดาจีลิงทุกท่านที่เสียชีวิตจากสงคราม

มุมจากบน Batasia Loop

เราอยู่ตรงนี้กันไม่นานนักเพราะฝนตกปรอยๆ แต่ผู้คนก็ยังคงเดินมาเที่ยว มาถ่ายรูปที่นี่กันเยอะเลย ตรงทางขึ้น Batasia Loop มีตลาด มีร้านขายของกินริมถนนที่คึกคักมากครับ

เด็กน้อยคนนี้มากับพ่อของเธอ พวกเราเห็นเธอเช่าชุดสาวเก็บชาของดาจีลิงเลยไปขอถ่ายรูปมา

เฮียคนนี้ยืนขายของกินอยู่ ขอถ่ายมาแกก็ให้

หลังจากนั้นเราก็กลับไปหาอะไรกินกันก่อนเพราะตั้งแต่ตี 3 ตี 4 ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยยกเว้นชา ก็ได้ร้านอาหารเล็กๆ (แต่วิวสวยมากๆ – ห้องน้ำกากสุดๆ) ใกล้ๆ ที่พักนั่นแหละครับ ก่อนจะถึงที่พักเราให้คนพาทัวร์แวะจองตั๋ว Toy Train ก่อนแต่ปรากฏว่ามันเต็ม อดเลย -*-

ฝนตกในเมือง Darjeeling

มื้อนี้กินอาหารฝรั่งกันครับ พวกแพนเค้ก ออมเลต อะไรพวกนี้ แพนเค้กอร่อยดี แต่ออมเล็ตนี่ชีสเยอะจนเลี่ยนเลย

ดาจีลิงตอนหมอกลง

พอกินอิ่มก็ไปรอรถคันเดิมที่ท่ารถครับ ระหว่างทางลงก็ถ่ายชาวบ้านแถวๆ นั้นไปเพราะไม่ว่าจะแขกคนไหนก็ดูน่าถ่ายรูปไปเสียหมดเลย ส่วนมากก็ขอกันตรงๆ ครับ เขาก็ให้ถ่าย

ลุงแผงขายหนังสือ

เอ่อ เขามีแต่จูงหมาออกมาเดินเล่นไม่ใช่เหรอ

ขึ้นรถก็เดินทางไป เจดีย์สันติภาพญี่ปุ่น ที่องค์กรพุทธศาสนิกชนชาวญี่ปุ่นนิปปอนซังเมียวโฮจิสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงระเบิดปรมาณูที่ถูกอเมริกาทิ้งที่ญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ

เดินไปในห้องสวด มีภิษุณีกำลังสวดเป็นภาษาญี่ปุ่นอยู่ (คล้ายๆ ร้องเพลง) ท่านก็เคาะให้จังหวะไป เราก็มีหน้าที่ไปนั่งแล้วหยิบเครื่องเคาะมาเคาะจังหวะตาม ในห้องนี้ห้ามถ่ายรูปครับ ก่อนจะออกท่านให้น้ำตาลเม็ดเล็กๆ มาคนละ 2 – 3 เม็ด อ่านในหนังสือเห็นว่าเป็นน้ำตาลศักดิ์สิทธิ์ก็รีบกินเลย