ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ เราค้างที่เมือง Noboribetsu คืนเดียว เช้ามาก็แหกขี้ตาตื่นแต่เช้าเพื่อนั่งรถไฟไปเมือง Kutchan ครับ การไปเมืองนี้มีจุด tricky เล็กน้อยตรงที่ต้องเปลี่ยนรถไฟ 2 เที่ยวในเวลาต่างกันประมาณ 10 นาที (วิ่งกันตาแหกอ่ะ)
จริงๆ โรงแรมที่พักมีชุดอาหารเช้าไว้ครับ แต่เราออกก่อนเขาเริ่มเวลา พอไปบอกเขาเขาก็ใจดีจัดชุดอาหารเช้าใส่กล่องมาให้ บริการดีสุดๆ _/\_ ตอนแรกตอนเช้ากะว่าถ้ามีเวลาจะไปออนเซนอีกรอบ แต่ว่าไปไม่ทันจริงๆ แฮะ
พอไปถึงสถานี JR ก็พบว่าเรามาถึงก่อนเวลานานพอที่จะขึ้นรถขบวนที่เร็วขึ้นได้ (ความอำมาตย์ของบัตร JR Pass ก็แบบนี้ ขอเปลี่ยนเที่ยวได้เลย) ก็เลยทำให้เวลาต่อรถเยอะขึ้น สบายๆ ครับ แล้วก็นั่งรถรวมแล้วอีก 3 ชั่วโมงไปเมือง Kutchan
ระหว่างทางเจอฝนตกนิดหน่อย แต่สบายๆ เพราะอยู่ในสถานี
การเปลี่ยนไปเมือง Kutchan รถไฟจะดู local สุดๆ
ผมนั่งข้างคุณตาคุณยายคู่นี้ เห็นแกยิ้มแย้มแจ่มใสดีเลยขอถ่ายรูปมา ^^
เหตุผลที่แวะเที่ยวเมือง Kutchan คือตั้งใจจะมาดูภูเขา Yōtei ครับ ตามรูปเป็นภูเขาที่สวยมากและรถบัสที่ไปก็ลำบาก เกือบจะได้เรียก Taxi ไปแล้วถ้าไม่พบความจริงอันโหดร้ายเสียก่อนว่า “หมอกลง ฟ้าปิด ไม่เห็นอะไรเลย”
ฟ้าขาวแบบนี้
พวกผมเลยเดินไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เขาก็ให้บริการดีนะครับ บอกว่าถ้ายูมีรถมาก็ขับไปภูเขาได้ทางนี้นะ แล้วก็หันมามองหน้าพวกผมที่บอกว่าไม่มีรถมาด้วยหน้าตารู้สึกผิด… พวกผมถามว่ามีที่ไหนเที่ยวบ้างก็เอาแผนที่ให้แล้ววงให้ดูเลย ถามว่ามีข้าวกลางวันที่ไหนถูกๆ บ้างก็วงแล้วลากทางเดินให้อีก ดีจัง สุดท้ายพวกเราก็ได้แต่เดินเล่นในเมืองระหว่างรอรถไฟไปเมือง Oataru
โดราเอม่อนนนน
เมืองนี้เหมือนเป็นทางผ่านสำหรับนักท่องเที่ยวมากกว่าครับ เมืองเล็กๆ เงียบๆ เดินง่าย รถราน้อย รถส่วนใหญ่ก็มุ่งหน้าสู่ภูเขากัน แต่ที่เที่ยวในเมืองเหมือนจะพอมีอยู่ แต่พวกผมอยู่ไม่นานเลยไม่ได้ไปเที่ยวเลย
อันนี้ร้านอะไรสักอย่างที่เขาแนะนำ แต่มันปิด …
อันนี้เป็นร้านโซบะที่ทำจากมันสำปะหลังครับ อยู่ในโรงแรมเล็กๆ เป็นอีกที่ที่ศูนย์ฯ เขาแนะนำ ราคาไม่แพง อร่อยจริง (ลืมบอกไปว่าเมืองนี้ดังเรื่องมันสำปะหลังกับน้ำแร่)
ใส่บ๊วยด้วย แปลกดี
อันนี้ชูครีมในร้านเบเกอรี่ใกล้ๆ สถานี อร่อยดี
กระดาษห่อลายมุ้งมิ้งมาก
น้ำแร่ จุดเด่นอีกอย่างของเมืองนี้ครับ อารมณ์แบบน้ำบริสุทธิ์จากภูเขา Yōtei
พวกผมก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากหาอะไรกิน เดินไปเดินมาแล้วก็กลับสถานีรถไฟเพื่อนั่งรถไป Otaru ต่อครับ ก็ขอจบแค่นี้ก่อนแหละ
2 thoughts on “สะพายกล้องเที่ยวฮอกไกโด #4: พาเที่ยวเมือง Kutchan”